การที่มาเลเซียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศในวันที่ 1-14 มิถุนายน หลังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Toyota Motor และ Honda Motor จำเป็นต้องปิดโรงงานเป็นการชั่วคราวเช่นกัน
ที่ผ่านมามาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ก่อนหน้านี้หลีกเลี่ยงการระบาดครั้งใหญ่ได้ กำลังมีจำนวนผู้ติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความกังวลว่า ซัพพลายเชนทั่วโลกจะเป็นอัมพาต เพราะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญสำหรับสินค้าช่วงกลาง (Intermediate Goods) ก่อนที่นำมาใช้ประกอบเป็นสินค้าในขั้นสุดท้าย หลังจากบริษัทต่างๆ ได้ย้ายฐานการผลิตออกมาจากแดนมังกร
สำหรับ Toyota โรงงานที่มาเลเซียมีกำลังการผลิต 50,000 คันในปีที่ผ่านมา ส่วน Honda นั้น มาเลเซียถือเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของ Honda ในภูมิภาค โดยสามารถผลิตรถสองล้อได้ 300,000 คัน และรถสี่ล้อ 100,000 คันต่อปี
การติดเชื้อรายวันรายใหม่ในมาเลเซียเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำจนนำไปสู่การแพร่กระจายของเชื้ออย่างรวดเร็ว โดยมาเลเซียรายงานผู้ป่วยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9,020 คน ในวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นอัตรา 200 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าในอินเดีย
ส่วนในไทยนั้นมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา หลังการตรวจพบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงจากสถานบันเทิง ในขณะเดียวกันมีการพบเชื้อที่เป็นลูกผสมระหว่างเชื้อจากสหราชอาณาจักรและอินเดียในพื้นที่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ ทำให้ทางการมีความกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อซัพพลายเชน
ไทยถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคของ Toyota และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ของแดนซามูไร ที่ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปยังที่อื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงตลาดในตะวันออกกลางและโอเชียเนีย ขณะที่เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับ Samsung Electronics โดยส่งสมาร์ทโฟนออกไปยังตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา
10 สมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กลายเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าขั้นกลางที่มีความสำคัญมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของ Mizuho Research & Technologies ระบุว่า มูลค่าการส่งออกประจำปีของการส่งออกจากสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในทศวรรษที่ผ่านมาจนถึงปี 2019
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น
อ้างอิง:
