×

อาหารไทยติดอันดับ 17 ของโลก! ท็อปส์รวบรวม 1,000 สินค้าไทย เอาใจนักช้อปทั้งคนไทยและต่างชาติ เจาะเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ที่คาดสร้างเงินสะพัดกว่า 2.4 หมื่นล้าน

06.04.2024
  • LOADING...
ท็อปส์

‘การท่องเที่ยว’ หนึ่งในเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยกำลังกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเจอวิกฤตจากโรคโควิด ยืนยันด้วยตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึงสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ สะสมกว่า 6.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้แล้วกว่า 1.3 แสนล้านบาท

 

ขณะเดียวกัน ttb analytics คาดการณ์ว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2024 จะอยู่ที่ 33.1 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.75 ล้านล้านบาท

 

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสร้างความ ‘ใจชื้น’ ให้กับบรรดาธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวรวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ รวมถึง ‘ท็อปส์’ ธุรกิจกลุ่มฟู้ดในเครือเซ็นทรัล ที่มีบางส่วนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เมียนมา สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ เป็นต้น

 

เราน่าจะเคยเห็นภาพของนักท่องเที่ยวที่หอบหิ้วสินค้าแบรนด์ไทยต่างๆ กลับบ้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบรรดา ‘ของกิน’ ต่างๆ ที่น่าสนใจคือ TasteAtlas Awards 2024 ประกาศให้ ‘อาหารไทย’ ติดอันดับที่ 17 จาก 100 อันดับอาหารที่ดีที่สุดในโลก และเป็นอันดับ 5 อาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยอันดับที่ได้นั้นเฉลี่ยมาจากคะแนน 2 ส่วน คือ เมนูอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร

 

“สิ่งที่เราอยากเห็นคือนักท่องเที่ยวเข้ามาเดินเลือกซื้อสินค้าของไทยจากท็อปส์ในฐานะผู้นำค้าปลีกด้านอาหารของไทย กลับไปเป็นของฝากให้กับบรรดาคนที่อยู่ที่บ้าน” จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าว

 

ด้วยเหตุนี้ ท็อปส์ที่แม้จะขึ้นชื่อด้านการ Assortment สินค้านำเข้าจนเป็นที่ถูกใจของลูกค้าคนไทย แต่สำหรับสินค้าไทยเองก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงเลือกใช้เทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาคิกออฟ ‘แคมเปญ Discover Thailand: Land of Food, Land of Smiles’

 

แม้ Seasonal Marketing จะไม่ใช่เรื่องใหม่ในแวดวงการตลาดของไทย แต่ก็เป็นหนึ่งใน ‘หมากรบ’ ที่ถูกหยิบมาใช้อย่างสม่ำเสมอ เพราะการทำ Seasonal Marketing ช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลานั้นๆ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น

 

อีกทั้งยังช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างแคมเปญที่โดดเด่นและน่าจดจำ ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) ตลอดจนสามารถสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า สร้างความรู้สึกผูกพัน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า รวมถึงช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้

 

อย่างช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายนเองก็มีการประเมินว่าจะเกิดเงินหมุนเวียนจากคนไทยด้วยกันเองกว่า 1.56 หมื่นล้านบาท รวมถึงมาจากนักท่องเที่ยว 5 แสนรายอีกราว 8.8 พันล้านบาทด้วยกัน 

 

“เรามองว่าสงกรานต์คือเสน่ห์ของไทย ดังนั้นเป้าหมายของการทำแคมเปญนี้ไม่ได้ต้องการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นกลุ่มคนไทยที่เราต้องการย้ำภาพของการเป็นผู้นำด้านอาหารไทยด้วย”

 

ด้วยความที่ ‘อาหารไทย’ เปรียบเสมือนซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ท็อปส์จึงเลือกใช้ ‘อาหาร’ เป็นสื่อกลางในการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทย ผ่านการรวบรวมสินค้าวิถีไทยกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นของเด็ดจากเกษตรกรและ SMEs ไทย, สินค้า GI ขึ้นชื่อประจำฤดูกาลจาก 4 ภาค, เมนูอาหารไทยต้นตำรับ, สินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟรับซัมเมอร์ 

 

นอกจากนี้ ท็อปส์ยังต้องการสร้างประสบการณ์ ‘ความเป็นไทย’ ที่เป็นมากกว่าการขาย เพราะในมุมมองด้านแบรนดิ้ง การสร้าง ‘ประสบการณ์’ ถือเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะลูกค้าที่มีประสบการณ์ที่ดีกับร้านค้ามักจะรู้สึกประทับใจและอยากกลับมาใช้บริการอีก ซึ่งนำไปสู่การสร้างฐานลูกค้าประจำและรายได้ที่มั่นคง อีกทั้งลูกค้าที่ได้รับประสบการณ์ที่ดีมักจะบอกต่อไปยังคนรอบข้าง ช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และดึงดูดลูกค้าใหม่

 

ตามรายงานของ Temkin Group ในปี 2017 พบว่า บริษัทที่มีประสบการณ์ลูกค้าที่ดีเลิศมีรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงกว่าบริษัทที่มีประสบการณ์ลูกค้าต่ำถึง 16-85% ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของประสบการณ์ลูกค้าที่ส่งผลต่อรายได้โดยตรง

 

นอกจากนี้ การสำรวจโดย PwC ในปี 2018 พบว่า 73% ของผู้บริโภคจะยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับประสบการณ์ที่ดี ในขณะที่ 59% จะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นเพื่อแลกกับประสบการณ์ที่ดีกว่า

 

ขณะที่รายงานจาก Dimension Data ระบุว่า บริษัทที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ลูกค้าสามารถเพิ่มรายได้ปีละ 4-8% มากกว่าบริษัทที่ไม่ให้ความสนใจด้านนี้

 

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า มีข้อมูลเชิงประจักษ์หลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของประสบการณ์ลูกค้าที่ส่งผลต่อรายได้และความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก

 

อย่างท็อปส์เองก็ได้สร้างประสบการณ์ผ่านการทำ Exclusive Unseen Food Trip! กับคู่ซี้ ฟอส จิรัชพงศ์ และ บุ๊ค กษิดิ์เดช พาลูกค้า 20 รายไปเปิดประสบการณ์เที่ยวเมืองไทยในมุมมองใหม่, เนรมิตร้านให้สะท้อนถึงอัตลักษณ์และซอฟต์พาวเวอร์ของไทยผ่าน Photobooth รถตุ๊กตุ๊กดีไซน์ล้ำสมัย และโปรโมชันเที่ยว ชิม ช้อป ครบจบในแคมเปญเดียว ซึ่งนี่ถือเป็นการเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยไปในตัว ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น

 

รวมถึงการที่ท็อปส์ชวนลูกค้าร่วมบริจาคในโครงการ ‘Pay It Forward ได้โอกาส…ให้โอกาส’ เพื่อปรับปรุงห้องผ่าตัด และสร้างอาคารหอผู้ป่วยในของศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ซึ่งแคมเปญนี้จะจัดขึ้นวันนี้ – 23 เมษายน 2024 

 

“สำหรับท็อปส์ นี่เป็นมากกว่าการขาย เราอยากมอบประสบการณ์ความเป็นไทยให้กับลูกค้าผ่านแคมเปญ Discover Thailand: Land of Food, Land of Smiles ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ เราหวังว่านักท่องเที่ยวและคนไทยจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของอาหารไทย สินค้าไทย และความเป็นไทย ผ่านแคมเปญของเรา ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ดิจิต จากกลยุทธ์เพิ่มยอดการจับจ่ายต่อตะกร้า บวกกับจำนวนลูกค้าที่มาจับจ่ายมากขึ้น” จักรกฤษณ์กล่าวทิ้งท้าย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising