กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เผชิญพายุหิมะที่พัดถล่มหนักหน่วงที่สุดในรอบ 4 ปี ส่งผลให้ระบบการคมนาคมทั่วเมืองเป็นอัมพาต นอกจากนี้ยังมีการระงับเที่ยวบินหลายเที่ยวที่สนามบินฮาเนดะและนาริตะด้วย
หิมะเริ่มตกหนักในกรุงโตเกียวตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (22 ม.ค.) ส่งผลให้ถนนหลายสาย รวมถึงสะพานและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน โดยจุดที่ตกหนักสุดมีหิมะทับถมหนาถึง 23 เซนติเมตร
สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมกว่า 740 กรณี และมีผู้บาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 67 คนจนถึงเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ารถยนต์ประมาณ 50 คันไม่สามารถเคลื่อนตัวผ่านสะพานสายรุ้งที่เชื่อมระหว่างเกาะโอไดบะกับกรุงโตเกียวได้ ขณะที่รถยนต์อีกจำนวนมากติดอยู่ในอุโมงค์นานถึง 10 ชั่วโมง เช่นเดียวกับถนนสายต่างๆ ทั่วเมืองที่เผชิญกับสภาพการจราจรติดขัด
ส่วนการระงับเที่ยวบินในโตเกียวยังส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนถึง 6,000 คนตกค้างอยู่ในท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะเมื่อคืนนี้ ขณะที่สนามบินฮาเนดะมีการระงับเที่ยวบินประมาณ 250 เที่ยว นอกจากนี้ยังมีการระงับให้บริการรถไฟอีกหลายขบวน และปิดถนนหลวงหลายสายด้วย
นอกเหนือจากการคมนาคมแล้ว ชาวญี่ปุ่นยังได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิตด้านอื่นๆ ด้วย โดยมหาวิทยาลัยหลายแห่งในกรุงโตเกียวได้ประกาศเลื่อนสอบเอ็นทรานซ์ในเช้าวันนี้
สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น (JMA) พยากรณ์ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่กำลังก่อตัวบวกแนวปะทะอากาศเย็นบริเวณนอกชายฝั่งเกาะฮนชูจะทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงอีก และจะทำให้เกิดหิมะตกตลอดทั้งวันทั้งคืน
NHK ยังออกประกาศแนะนำให้ประชาชนสวมเสื้อผ้าหนาๆ และเดินทางกลับบ้านเร็วขึ้นหลังจากที่เลิกงานแล้ว
ด้าน โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “เราขอให้ประชาชนรับฟังข่าวสารและประกาศจากทางการตลอดเวลา และให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า เนื่องจากระบบการขนส่งสาธารณะอาจล่าช้า”
อ้างอิง: