×

สมาคมประกันชีวิตไทย ยันพร้อมดูแลผู้เอาประกันที่ติดโควิดและรักษาแบบ Home Isolation เผยเบี้ยรับรวมครึ่งปีแรกโต 3.13%

03.08.2021
  • LOADING...
The Thai Life Assurance Association

สาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมอยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขการเคลมประกันโควิดเพื่อส่งต่อให้กับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ตามที่ถูกร้องขอ พร้อมยืนยันว่า บริษัทประกันที่เป็นสมาชิกของสมาคมประกันชีวิตไทยทุกแห่งพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 43/2564 ของ คปภ. เรื่อง การจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และได้เข้ารับการดูแลรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation หรือแบบ Community Isolation สำหรับบริษัทประกันชีวิต

 

“บริษัทประกันชีวิตทั้งหมดให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพอยู่แล้ว และการคุ้มครองก็ครอบคลุมไปถึงการติดเชื้อไวรัสโควิดด้วย จึงอยากให้ผู้ทำประกันสบายใจได้ว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ตามเงื่อนไขที่แต่ละบริษัทประกันชีวิตกำหนด” สาระกล่าว

 

สำหรับคำสั่งล่าสุดที่ออกโดย คปภ. นั้น ระบุว่า เมื่อมีการตรวจพบว่าผู้เอาประกันภัยติดเชื้อโควิดและได้รับการดูแลรักษาแบบ Home Isolation หรือ Community Isolation ในกรณีที่มีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ให้สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลจากวงเงินความคุ้มครองผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ หรือกรณีตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ 

 

ส่วนกรณีกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ก็ให้อนุโลมจ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยนอกตามความจำเป็นทางการแพทย์และที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์ในกรมธรรม์ นอกจากนี้ ยังให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าชดเชยรายวันกรณี Home Isolation หรือ Community Isolation หากมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาล เช่น อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ โดยจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน สูงสุด 14 วัน นับแต่วันที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ที่ต้องรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในสถานพยาบาลแต่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ 

 

สาระยังกล่าวอีกว่า นอกจากการให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อโควิดแล้ว ขณะนี้สมาคมประกันชีวิตไทยยังอยู่ระหว่างหารือถึงแนวทางและรูปแบบการจัดสอบออนไลน์ (E-Exam) ที่เหมาะสม มีความโปร่งใสและรัดกุม เพื่อคัดเลือกตัวแทนประกันด้วย เนื่องจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ตัวแทนมีจำนวนลดลงจากการที่ไม่สามารถเปิดสอบตามปกติได้

 

ทั้งนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยประเมินแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในปี 2564 ว่าเบี้ยรับรวมจะอยู่ที่ 590,000-610,000 ล้านบาท หรือ -1 ถึง +1% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการคาดการณ์แบบระมัดระวัง (Conservative) เนื่องจากทิศทางของสถานการณ์การระบาดยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยจำนวนผู้ติดเชื้อยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งการคาดการณ์ครั้งนี้ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ GDP ของประเทศที่จะขยายตัว 1.5-2.5% ซึ่งอยู่ในระดับฟื้นตัวช้า

 

ส่วนทิศทางผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตนั้น มองว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่จะได้รับความนิยมและมีศักยภาพในการเติบโตสูง คือ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) เนื่องจากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้มากขึ้น พร้อมได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ระดับความเสี่ยงที่พอรับได้ รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิตรวมอยู่ด้วย ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนจึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ 

 

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานธุรกิจประกันชีวิตครึ่งปีแรก พบว่ามีเบี้ยรับรวม 294,897 ล้านบาท เติบโต 3.13% และมีเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 211,151 ล้านบาท ขยายตัว 0.68% โดยมีสัดส่วนจากช่องทางการจัดจำหน่ายหลัก ได้แก่ ช่องทางตัวแทน 48.43% มีอัตราการขยายตัว 0.39% ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ หรือช่องทางธนาคาร 42.08% ซึ่งขยายตัว 6.45% และช่องทางอื่นๆ อีกเกือบ 10%

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X