×

ทิสโก้-กสิกรไทย มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบแคบ ลุ้น ครม. ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ จับตาธนาคารกลาง ตปท.

27.04.2020
  • LOADING...
หุ้นไทย

บล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า วันศุกร์ที่ผ่านมา (24 เมษายน) หุ้นยุโรปปรับลดลงมากกว่า 1% หลังการรับข่าวว่าบริษัท Gilead Sciences ไม่สามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ให้อาการดีขึ้น แต่สวนทางกับหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดตลาดบวกมากกว่า 1% โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีที่ Facebook ออกฟีเจอร์ใหม่ในการประชุม Video Call และบางรัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.94 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์นี้ (27 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2563) คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,230-1,280 จุด โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามในระยะต่อไป ได้แก่

 

  1. การประชุมธนาคารกลางในต่างประเทศ ได้แก่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) วันที่ 27-28 เมษายน, ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) วันที่ 28-29 เมษายน, ธนาคารกลางยุโรป (ECB) 30 เมษายน คาดว่ายังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายตามเดิม และอาจส่งสัญญาณการผ่อนคลายเพิ่มเติมหากจำเป็น 

 

  1. การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 เมษายนนี้ รอดูการพิจารณายกเลิกใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ในหลายจังหวัด และแนวทางการทยอยเปิดเศรษฐกิจ 

 

  1. การประกาศงบผลดำเนินงานของบริษัทต่างๆ โดยที่จะออกมาในระยะนี้ ได้แก่ HMPRO, DELTA, AEONTS, SCC, PTTEP

 

ด้าน บล. กสิกรไทย (KS) เปิดเผยว่า มุมมองตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้คาดว่า SET จะแกว่งในกรอบ 1,220-1,230 จุด โดยปัจจุบัน SET ซื้อขายในระดับ 1.5 SD ถือว่าอยู่ระดับแพงที่สุดในภูมิภาค ทำให้ บล. กสิกรฯ ประเมินแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นเริ่มจำกัด และจากการปรับขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าหลังจากนี้จะเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลง

 

ทั้งนี้ ต้องจับตามองแผนการเปิดประเทศจากการประชุม ครม. แต่มีประเด็นที่ต้องระมัดระวังคือการเทขายกลุ่มที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น สายการบิน, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, รถไฟฟ้า 

 

ขณะที่ประเด็นสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ไทย ซึ่งมีผลแล้วในวันที่ 25เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งบล. กสิกรฯ คาดผลกระทบจำกัดต่อตลาดหุ้น โดยมีสินค้าทั้งหมดกว่า 573 รายการ (1/3 ของสินค้าทั้งหมดที่ใช้สิทธิ) คาดผลกระทบส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงประมาณ 4.1% และภาพรวมคาดตัวเลขส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ปีนี้หดตัว -9.2% (รวมผลกระทบโควิด-19) 

 

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำกลุ่ม ICT(ADVANC) ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากโควิด-19 และแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง, กลุ่ม Non-Bank (Leasing) ที่อาจได้รับผลกระทบจาก Policy Risk และกลุ่มที่อิงกับสหรัฐฯ/ยุโรป สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะรอดูจำนวนผู้ติดเชื้อว่าจะมีคลื่นลูกที่ 2 หรือไม่

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising