นิตยสาร Time ยกตำแหน่งนักกีฬาแห่งปี 2020 ให้แก่ เลอบรอน เจมส์ ยอดนักบาสเกตบอล ผู้ไม่เพียงแต่จะทำผลงานได้อย่างสุดยอดในสนาม แต่ยังใช้เสียงของตัวเองในการต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหาใหญ่ของสังคมอย่างจริงจังด้วย
ในปี 2020 ที่ผ่านมา นักบาสเกตบอลวัย 35 ปีสามารถพาทีมลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส พิชิตแชมป์เอ็นบีเอสมัยที่ 17 ของทีม ซึ่งทาบสถิติสูงสุดตลอดกาลได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากเนื่องจากมีการระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้ต้องจัดการแข่งขันกันใน ‘บับเบิล’ ในดิสนีย์เวิลด์ ที่รัฐฟลอริดา
โดยแชมป์ครั้งนี้นอกจากจะเป็นการได้แหวนแชมป์เป็นวงที่ 4 และได้รางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าหรือ ‘เอ็มวีพี’ เป็นครั้งที่ 4 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เจมส์ยังเป็นนักกีฬาคนแรกที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 3 ทีม และมีเพียง ไมเคิล จอร์แดน เพียงคนเดียวเท่านั้นที่คว้าแชมป์ได้มากกว่าที่ 6 สมัย และที่สำคัญที่สุดคือการที่สามารถคว้าแชมป์เพื่ออุทิศให้แก่ โคบี ไบรอันต์ ตำนานนักยัดห่วงรุ่นพี่ที่เคารพรักของทีมเลเกอร์สที่จากไปอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
นอกจากผลงานไร้เทียมทานในสนามแล้ว เจมส์ยังเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ออกมาต่อสู้กับปัญหาการเหยียดสีผิวอย่างจริงจังในสหรัฐอเมริกา ที่เกิดกรณีการประท้วงใหญ่ Black Lives Matter ทั่วประเทศหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวดำที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุในระหว่างการจับกุมจนทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งกลายเป็นการจุดประกายให้เกิดการต่อสู้เพื่อหยุดปัญหาการเหยียดสีผิวทั่วโลกด้วย
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจมส์ยังได้ตั้งองค์กร ‘More Than A Vote’ ร่วมกับเพื่อนนักกีฬาและศิลปินที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการให้กำลังใจและให้ความรู้แก่ผู้ติดตามเกี่ยวกับการเกาะติดการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม และไม่ให้มีการกดขี่คนผิวดำเหมือนที่ผ่านมาอีก
นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสหญิงซึ่งเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ออกมาร่วมต่อสู้กับปัญหาการเหยียดสีผิวด้วยเช่นกัน กล่าวยกย่องนักบาสระดับตำนานว่า “เขาไม่เพียงแต่จะเป็นคนที่เก่งที่สุด แต่เขายังมีเสียงที่ทรงพลังที่สุดด้วย”
ส่วนภาพของเจมส์ที่ขึ้นบนปกนิตยสารฉบับนี้เป็นผลงานของ ไทเลอร์ กอร์ดอน เด็กน้อยวัย 14 ปี
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: