ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการเป็นเจ้าของผิวสะอาดสุขภาพดี การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องการทำความสะอาด โดยเฉพาะในหนุ่มสาวที่ใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้ายิ่งต้องคำนึงถึงการลบเครื่องสำอางออกให้ได้อย่างหมดจดล้ำลึกโดยไม่ทำร้ายผิว แม้หลายคนจะชื่นชอบลักษณะผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันไป เช่น บางคนชอบไมเซลลาวอเตอร์ บางคนชอบใช้โฟมล้างหน้า บางคนชอบเนื้อบาล์ม แต่รู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ลบเมกอัพและทำความสะอาดได้ดีกับทุกสภาพผิวไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและทำความสะอาดผิวอื่นๆ คือผลิตภัณฑ์ประเภทออยล์ (ที่มีองค์ประกอบหลักเป็นน้ำมัน) ซึ่งคนส่วนใหญ่กลัวคำว่าออยล์หรือน้ำมันกันมาก เพราะเกรงว่าจะทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวตามมา แต่ ปรัชพันธ์ จิราธรวราพัฒน์ Senior Training Manager ผู้เชี่ยวชาญจากแบรนด์ THREE ได้มาให้ความรู้และไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทออยล์หรือน้ำมันให้เข้าใจกระจ่างชัดมากกว่าเดิม  

ปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การมีผิวดี

การล้างหน้าทำความสะอาดผิวเป็นประตูแรกของการมีผิวสุขภาพดี เป็นคีย์สำคัญให้การบำรุงผิวจากสกินแคร์ได้รับคุณค่าเต็มที่มากขึ้น ในยุคปัจจุบันสิ่งแวดล้อมเต็มไปด้วยปัจจัยทำร้ายผิวอยู่ตลอดเวลา เช่น การใช้เมกอัพ เวลาที่เราแต่งหน้าทุกวัน เราต้องทำความสะอาดอย่างหมดจด ถ้ายังมีสิ่งตกค้างอยู่บนผิวมันจะนำไปสู่ปัญหาผิวต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของฝุ่นควันมลภาวะ วิกฤต PM2.5 ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผิว Aging โดยตรง และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ไปเร่งการอักเสบของผิวด้วย ดังนั้นปัญหาผิวมันและมีความมันส่วนเกินบนผิวจึงเป็นปัญหาที่เจอในคนไทยส่วนใหญ่ 

ปัญหาผิวยอดฮิตคนไทย

ปัญหารูขุมขนกว้าง เมื่อผิวเกิดการอุดตัน รูขุมขนมันจะยิ่งขยายใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น เมื่อเราล้างหน้าไม่สะอาด สิ่งที่ตกค้างจะไปอุดตันตามรูขุมขนเกิดเป็นสิวอุดตัน ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวเปิดหรือสิวหัวปิด นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งแต่เดิม เราจะเคยได้ยินความเชื่อหนึ่งที่บอกว่า คนที่แต่งหน้าเยอะๆ จะแก่เร็ว ซึ่งอยากบอกว่าไม่จริง มันไม่เกี่ยวกับการแต่งหน้า ‘การล้างเมกอัพที่ไม่สะอาดต่างหากที่ทำให้ผิวแก่เร็ว’ ต่อไปคือปัญหาความหมองคล้ำที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย โดยปกติวงจรผิวจะมีการผลัดเซลล์ผิวเป็นปกติประมาณ 28 วัน ถ้าใช้เวลานานกว่านี้ซากเซลล์ที่ทับถมจะก่อให้เกิดความไม่เรียบเนียน ทำให้ผิวมีปัญหาเกิดขึ้นและหมองคล้ำ แต่ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขให้ดีได้ก็คือต้องเริ่มต้นตั้งแต่การล้างหน้า 

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ใช้ลบเครื่องสำอางที่คนไทยนิยมใช้กัน จะมีทั้งประเภท Water-based Cleanser เบสคือน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก มีการใช้สารลดแรงตึงผิว (Surfactants) จับคราบสิ่งสกปรกที่ไม่ละลายน้ำ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน เนื้อบางเบา ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แต่ต้องใช้สำลีร่วมในการทำความสะอาดผิว สามารถทำความสะอาดบริเวณตากับริมฝีปากได้ แต่ ‘ไม่หมดจด’ แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัยจากการขัดถู 

ส่วนประเภท Oil-based Cleanser ชื่อบอกอยู่แล้วว่ามีน้ำมันเป็นองค์ประกอบหลัก หลักการทำความสะอาด คือใช้คุณสมบัติของการที่น้ำมันสามารถละลายเข้ากันได้กับน้ำมันบนผิว หรือคราบสกปรกจากเมกอัพบนผิวให้หลุดออก ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้เแต่ผิวมันก็ใช้ได้ แต่หากใช้ผิดวิธีอาจเสี่ยงต่อการอุดตัน ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทออยล์ในการทำความสะอาดคราบเมกอัพและความมันบนผิวนั้น คือทำความสะอาดได้ดีมาก แถมยังช่วยให้ผิวนุ่ม และเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นอย่างดี 

การดูแลทำความสะอาดผิวสำหรับคนยุคนี้

ควรยึดหลัก Holistic Care คือมีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หมายถึงการดูแลสุขภาพบุคคลให้เกิดความสมดุล ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ผิวพรรณ และถ้าให้แนะนำผลิตภัณฑ์ประเภทออยล์ที่ทำความสะอาดผิว ก็แนะนำไอเท็มใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางจำหน่ายพร้อมประเทศญี่ปุ่นอย่าง Balancing Cleansing Oil Gel ซึ่งต่อยอดจากไอเท็มขายดีตลอดกาลอย่าง Balancing Cleansing Oil ซึ่งสำหรับตัวใหม่นี้มีการพัฒนาเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นแบบเจล และมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้ 

• ใช้ออยล์ที่เป็น Tea Seed Oil ช่วยละลายคราบเครื่องสำอาง ล้างความมันได้หมดจด คืนกรดไขมันให้ผิว คงความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น 
• ไวต์เคลย์ Kaolin ช่วยดีท็อกซ์ผิวจากสิ่งสกปรกอุดตัน ลดความมันบนใบหน้า รูขุมขนสะอาด 
• สครับจากเปลือกเมล็ดอาร์แกน (Argan Shell Scrub) ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกได้อย่างอ่อนโยน ผิวจึงเกิดความกระจ่างใสเรียบเนียนมากขึ้น 
• สารสกัดจากพืชธรรมชาติอย่างอาร์จูนา (Arjuna Extract) ช่วยให้ผิวอิ่มฟู ยืดหยุ่น (นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก Ecocert ซึ่งได้มาตรฐานระดับโลก จึงมั่นใจได้ว่าใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน เพาะปลูก การเกี่ยวเกี่ยว และการสกัด)