ราคา Bitcoin (BTC) เพิ่มขึ้นมากกว่า 140% ในปีนี้ แซงหน้าการลงทุนอื่นๆ เช่น หุ้นและทองคำ ผลตอบแทนที่โดดเด่นของ BTC เกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาอันวุ่นวายหลายอย่างของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็นการที่เว็บเทรดชั้นนำของโลกอย่าง FTX ล่มสลาย และการที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance ถูกทางการสหรัฐอเมริกาสั่งปรับเป็นเงิน 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การกลับมาของ Bitcoin เหนือระดับ 41,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสัญญาณตลาดกระทิงหรือไม่?
ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้น
สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ของโลกอย่าง Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความคาดหวังของตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า สิ่งนี้ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ปรับตัวลง และในขณะเดียวกันก็ทำให้ BTC และตลาดหุ้นตอบรับในทางบวกอีกด้วย
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นก็คือ ความหวังว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) จะอนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF ในปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนแบบดั้งเดิมเข้าสู่ BTC มหาศาล และกระตุ้นให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘Bitcoin Halving’ เป็นเหตุการณ์ที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าอาจทำให้ Bitcoin กลับมาเป็นตลาดกระทิงอีกครั้ง จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ทุกครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ Halving ราคา BTC มักจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า Halving ครั้งต่อไป ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2024 ก็น่าจะทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
Bitcoin Halving คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยจำนวน BTC ใหม่ที่ออกมาต่อบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2008 รางวัลของแต่ละบล็อกจะอยู่ที่ประมาณ 50 BTC และ 4 ปีต่อมาในเหตุการณ์ Halving ครั้งแรก ผลตอบแทนลดลงอยู่ที่ 25 BTC และลดลงเหลือ 12.5 BTC ในเหตุการณ์ Halving ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2016 และครั้งล่าสุดเมื่อปี 2020 ปัจจุบันจำนวน BTC ที่สร้างขึ้นใหม่ในแต่ละบล็อกอยู่ที่ 6.25 BTC เหตุการณ์ Halving ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ผู้ขุดจะได้รับ 1.56 BTC เท่านั้นสำหรับการตรวจสอบบล็อกของธุรกรรม การที่ Bitcoin ขุดได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้น่าจะปรับตัวสูงขึ้นนั่นเอง
มุมมองนักวิเคราะห์ที่มี Bitcoin รอบนี้
Michael Novogratz ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Galaxy Digital Holdings Ltd. คาดการณ์ว่า BTC จะทะลุจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (All Time High) ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ซึ่งแซงหน้าจุดสูงสุดเก่าของ BTC ที่ประมาณ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่เห็นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021
ธนาคารชั้นนำอย่าง Standard Chartered เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Bitcoin อาจแตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2024 ซึ่งธนาคารเน้นย้ำว่าสิ่งนี้จะได้รับแรงผลักดันจากการอนุมัติกองทุน Bitcoin ETF หลายกองทุน
Matrixport บริษัทผู้ให้บริการทางด้านคริปโต คาดการณ์ว่า Bitcoin จะสูงถึง 63,140 ดอลลาร์สหรัฐภายในเดือนเมษายน ปี 2024 และแตะระดับ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2024
อย่างไรก็ตาม Charlie Munger รองประธานบริษัท Berkshire Hathaway Inc. ที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยวัย 99 ปี กลับต่อต้าน Bitcoin เป็นอย่างมาก โดยมองว่า Bitcoin เปรียบเสมือนยาพิษ และเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ซึ่งสิ่งนี้อาจรุนแรงกว่าการฉ้อโกง
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง:
