เทรนด์ผิวขาวกระจ่างใสเป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมจากสาวไทยอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมตลาดของผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งถึงเติบโตและสร้างตัวเลือกที่หลากหลายในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ปรับผิวขาวกันอย่างคึกคัก สารที่มีประสิทธิภาพในการปรับผิวขาวที่หลายคนคุ้นเคยในท้องตลาด มีตั้งแต่อนุพันธ์วิตามินซี, อาร์บูติน, กรดโคจิก, กรดเอลลาจิก, รูซินอล, กรดไลโนเลอิก, คาโมมิลลาอีที, กรดทราเนซามิก, สารสกัดจากชะเอมเทศ, ไฮโดรควิโนน

 

แต่รู้หรือไม่ ตอนนี้ตลาดไวท์เทนนิ่งมีสารไทอามิดอล (Thiamidol™) ที่คิดค้นและพัฒนาโดยไบเออร์สด๊อรฟ เอจี เยอรมัน มากว่า 10 ปี กำลังสร้างแรงกระเพื่อมที่น่าสนใจให้กับวงการผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเป็นอย่างมาก ว่ากันว่านี่คือสารไวท์เทนนิ่งที่ล้ำที่สุดที่เคยมี สารนี้มีดีอย่างไร ทำไมถึงมาแรง เราจะไขเหตุผลเหล่านี้ไปด้วยกัน

 

สารไทอามิดอล (Thiamidol™) ไวท์เทนนิ่งตัวใหม่ที่คนไทยต้องรู้จัก

ความน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับสารไวท์เทนนิ่งใหม่ล่าสุดอย่างไทอามิดอล (Thiamidol™) ที่คิดค้นและพัฒนาโดยไบเออร์สด๊อรฟ เอจี เยอรมัน กำลังสร้างความฮือฮาให้กับวงการความงาม เพราะนี่คือสารไวท์เทนนิ่งที่วารสารแพทย์ผิวหนังทั่วโลกให้การยอมรับ และพิสูจน์แล้วว่าไทอามิดอลสามารถลงลึกไปในชั้นผิว ยับยั้งเอ็นไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดจุดด่างดำ ซึ่งกว่าจะได้สารตัวนี้ขึ้นมา ต้องทดลองกับสารไวท์เทนนิ่งต่างๆ มากกว่า 50,000 ชนิด ปกติในการทดลองมักจะนำไปทดลองกับเอ็นไซม์ของเห็ด ด้วยเหตุผลที่ว่าเห็ดสามารถผลิตเม็ดสีเมลานินได้คล้ายกับผิวมนุษย์ (เห็ดสีขาวบางทีก็กลายเป็นสีน้ำตาลได้) แต่ ไบเออร์สด๊อรฟ เอจี เยอรมัน นำสารไทอามิดอลมาทดลองกับเอ็นไซม์ผิวมนุษย์จริงๆ แน่นอนว่ามีความยากและซับซ้อนกว่าการทดลองกับเอ็นไซม์ของเห็ดมาก แต่เพื่อให้ได้ผลการทดลองที่นำมาซึ่งสารไวท์เทนนิ่งที่ดีที่สุด ทำให้ต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี จนได้สารไวท์เทนนิ่งอันทรงพลังอย่างสารไทอามิดอลในที่สุด

 

สำหรับการค้นพบสารไทอามิดอลในครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการวิจัยเป็นอย่างมาก ได้รับการตีพิมพ์บน JID (Journal of Investigative Dermatology) ซึ่งถือเป็น Journal ที่ทรงอิทธิพลมากในวงการแพทย์ผิวหนัง วารสารนี้มีค่า Impact Factor หรือค่าบ่งชี้ความสำคัญและความน่าเชื่อถืออยู่ที่ 6.448 (2017) ซึ่งถือว่าสูงมาก (มากกว่า American Journal of Dermatology เสียอีก) ผลงานวิจัยส่วนใหญ่ที่ได้รับตีพิมพ์มักจะเป็นผลงานจากแวดวงวิชาการ มหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่ใช่บริษัทเอกชน ดังนั้นผลงานวิจัยสารไทอามิดอลที่ได้ตีพิมพ์ลงวารสารนี้จึงถือเป็นนวัตกรรมยิ่งใหญ่ระดับโลก

 

ผลิตภัณฑ์ที่มีสารไทอามิดอลใช้แล้วเวิร์กจริงไหม ผลวิจัยคือคำตอบ

จากรายงานวิจัยพบว่า สารไวท์เทนนิ่งในกลุ่มอนุพันธ์ Resorcinol ถือเป็นสารไวท์เทนนิ่งที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในการยับยั้งเอ็นไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งลดการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ พิสูจน์แล้วว่าสารไทอามิดอลช่วยลดจุดด่างดำได้ดีกว่าสารบีรีซอซินอลถึง 10 เท่า และทรงพลังมากกว่าหลายร้อยเท่า เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับสารไวท์เทนนิ่งยอดฮิตที่คนไทยคุ้นเคยอย่างกรดโคจิกและอาร์บูติน นอกจากนี้ยังมีผลลัพธ์จากผู้ทดลองใช้จริงพบว่า จุดด่างดำ ฝ้า กระจางลง ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น และเห็นผลได้ตั้งแต่ใน 2 สัปดาห์แรก

 

ถ้าถามว่าไทอามิดอลเหมาะกับคนไทยไหม ผลวิจัยและผลลัพธ์จากผู้ใช้งานจริงก็ช่วยยืนยันได้ว่า เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เผชิญปัญหานี้อยู่ จึงน่าสนใจว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารไทอามิดอลเป็นส่วนประกอบจะแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้า และเรียกคืนความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง

 

สารไทอามิดอลมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ใดบ้าง

ในประเทศไทยแบรนด์ยูเซอริน (Eucerin) จัดเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่มุ่งมั่นพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อจัดการกับจุดด่างดำ กระ ฝ้าแดดหนาลึกมาอย่างยาวนาน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ณ สถาบันไบเออร์สด๊อรฟ เอจี เยอรมัน และการค้นพบสารไทอามิดอลในครั้งแรกนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์ใหม่จากยูเซอรินจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาผิวของสาวไทยโดยเฉพาะ ต่อไปนี้คือไอเท็มเด็ดที่เราอยากแนะนำสำหรับคนมีปัญหาผิวที่กล่าวมาข้างต้น

 

Eucerin UltraWHITE+ Spotless Day Fluid

ใช้ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF 30 มาในขวดแบบ Hygiene ช่วยป้องกัน UV ป้องกันฝุ่น และป้องกันไม่ให้อากาศสัมผัสกับครีม ทำให้คงคุณค่าของครีมเต็มประสิทธิภาพและใช้งานสะดวกกว่าเดิม ช่วยลดจุดด่างดำได้ดีกว่า 10 เท่า ผิวดูขาวใสภายในเวลา 2 สัปดาห์

 

Eucerin UltraWHITE+ Spotless Night Fluid

ครีมบำรุงผิวสำหรับกลางคืน มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำสะสมในช่วงค่ำคืนด้วย Dexpanthenol เนื้อครีมมีความเข้มข้น แต่ให้ความรู้สึกบางเบาสบายผิว

Eucerin UltraWHITE+ Spot Corrector

ด้วยคุณสมบัติของไทอามิดอลเข้มข้น จึงมีส่วนช่วยลดฝ้าแดดและจุดด่างดำที่ฝังลึก โดยช่วยแก้ไขเฉพาะจุดได้ดีกว่า 20 เท่า

 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn R.

ภาพ: Courtesy of Eucerin

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า