LIVE: จาก 100 นายกฯ ก็ปราบยาเสพติดไม่ได้ สู่ปฏิรูปตำรวจ-ทหาร
สืบเนื่องจากเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู แม้ทุกวันนี้จะยังไม่มีข้อสรุปถึงแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุเสพยาจนเกิดอาการเครียดและหลอน ต่อมาผลการตรวจสารเสพติดเบื้องต้นกลับไม่พบว่าผู้ก่อเหตุเสพสารเสพติด แต่จากประวัติพบว่าเคยเป็นผู้เสพติดสารเสพติดตั้งแต่สมัยมัธยม จนถูกให้ออกจากราชการเมื่อช่วงต้นปีนี้
ขณะที่ภาครัฐก็เริ่มกลับมาให้ความสำคัญกับมาตรการปราบปรามยาเสพติดและอาวุธปืนอย่างครบวงจรอีกครั้ง ทั้งเปิดระบบ JCoMS รับแจ้งเบาะแสชาวบ้านโดยตรง, มหาดไทยเข้มงวดกับมาตรการครอบครองปืน ปราบปรามปืนเถื่อน หรือวางมาตรการบำบัดรักษาผู้เสพติด แต่ดูเหมือนยังไม่ได้รับความเชื่อใจจากภาคประชาชนเท่าที่ควร โดยเฉพาะการไปยึดยึงกับประโยคที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยสั่งลุยปราบบ่อน-ยาเสพติดไว้เมื่อต้นปี 2564 ว่า “ต่อให้ 100 นายกฯ ก็ทำไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน”
จนหลายภาคส่วน โดยเฉพาะฝ่ายค้านออกมาฟื้นนโยบาย ‘ทำสงครามกับยาเสพติด’ เหมือนที่สมัย ทักษิณ ชินวัตร เคยทำมาเรียกคะแนนนิยม แม้ขณะนั้นจะมีแรงต้านจากกลุ่มนักสิทธิมนุษยชน หลังมีกรณี ‘ฆ่าตัดตอน’ จำนวนมาก โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม สุดท้ายผลสืบสวนออกมาว่าทักษิณไม่ได้เป็นผู้สั่งการดังกล่าว แต่อีกด้านหนึ่งก็มีกลุ่มคนไม่เชื่อในกระบวนการสืบสวนดังกล่าว
ฝั่งก้าวไกลอย่าง รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ก็ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐใช้กลไกบริหารแก้กฎหมายคุมอาวุธปืน เร่งปฏิรูปตำรวจ-ทหาร เพราะมองว่าเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูนั้นอาจมาจากพฤติกรรมเลียนแบบ ผนวกกับที่อดีตตำรวจหลายนายมองว่าต้นเหตุมาจากความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่รัฐ
วันนี้เรามาร่วมพูดคุยกับ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ถึงแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงมาตรการครอบครองปืน เพื่อไม่ให้เกิดลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ อ๊อฟ ชัยนนท์ วันนี้ 12 ตุลาคม เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD
