เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เสนอลาออกจากตำแหน่ง หากรัฐสภาลงมติอนุมัติแผน Brexit ของเธอ นับเป็นความพยายามล่าสุดของเมย์ในการโน้มน้าวสมาชิกสภาให้โอนอ่อนผ่อนตามเพื่อยุติภาวะเดดล็อกในกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (EU) ของสหราชอาณาจักร
นายกฯ เมย์กล่าวต่อสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเธอว่า “ฉันเตรียมลาออกจากงานนี้เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับประเทศของเราและพรรคของเรา”
ทั้งนี้เมย์ตระหนักดีว่าสมาชิกคอนเซอร์เวทีฟในรัฐสภาไม่ต้องการให้เธอเป็นผู้นำการเจรจา Brexit ในขั้นตอนถัดไป
อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญคือเสียงของสมาชิกสภา 10 คนจากพรรคเดโมแครติก ยูเนียนนิสต์ (DUP) ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนแผน Brexit ของเมย์
ถึงแม้สมาชิกรัฐสภาจะดึงอำนาจการพิจารณาทางเลือกแผน Brexit มาจากรัฐบาลชั่วคราว แต่ท้ายที่สุดรัฐสภาก็ยังไม่สามารถกำหนดทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นรูปธรรมได้ เนื่องจากทางเลือกรวม 8 ข้อที่ ส.ส. นำเสนอนั้นล้วนถูกโหวตคัดค้านในสภา ส่งผลให้มีแนวโน้มเกิด Brexit โดยที่ไร้ข้อตกลงใดๆ กับ EU
สำหรับทางเลือก 8 ข้อที่มีการอภิปรายและโหวตในรัฐสภาเมื่อวานนี้ ประกอบด้วย
1. ข้อเสนอจัดการลงประชามติเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ของประชาชน (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 295 ต่อ 268 คะแนน)
2. การคงอยู่ในสหภาพศุลกากรร่วมกับสหภาพยุโรป (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 272 ต่อ 264 คะแนน)
3. แผน Brexit ของพรรคเลเบอร์ (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 307 ต่อ 237 คะแนน)
4. เป็นสมาชิกตลาดร่วมยุโรป (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 283 ต่อ 188 คะแนน)
5. เพิกถอนมาตรา 50 เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Brexit โดยไร้ข้อตกลง (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 293 ต่อ 184 คะแนน)
6. ยอมให้เกิด Brexit โดยไร้ข้อตกลง (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 400 ต่อ 160 คะแนน)
7. แผน B ที่เสนอโดย คิต เมลเฮาส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะ (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 422 ต่อ 139 คะแนน)
8. เป็นสมาชิก EFTA และ EEA (ถูกโหวตค้านด้วยคะแนนเสียง 377 ต่อ 65 คะแนน)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
