‘เมื่อพรที่ได้มาจากแม่มด ต้องแลกกับบางสิ่งที่ไม่อาจหวนคืน’
คำโปรยชวนค้นหา น่าตื่นตาตื่นใจของ The Witch’s Diner ซีรีส์ Web Drama จาก TVING ที่แม้จะเพิ่งออกอากาศไปได้เพียง 2 อีพี แต่ก็มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะ The Witch’s Diner ไม่ได้เป็นเพียงซีรีส์แฟนตาซีเกี่ยวกับแม่มดเท่านั้น แต่นี่คือซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีที่สะท้อนชีวิตและเสียดสีสังคมได้อย่างแยบยล
เมื่อรวมเข้ากับเสน่ห์ที่น่าติดตามของนักแสดงหลักทั้ง 3 คน งานตัดต่อ และคุณภาพของโปรดักชัน ก็ให้ความรู้สึก ‘เกินคาด’ กว่าซีรีส์ Web Drama ทั่วไปที่มักมีเนื้อหาเบาสมองและมีต้นทุนการผลิตไม่สูงมาก ทำให้ The Witch’s Diner กลายเป็นเดิมพันใหม่ที่น่าจับตามองในวงการ Web Drama ของเกาหลีเป็นที่เรียบร้อย
สิ่งที่โดดเด่นตั้งแต่เริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้คือ Opening Scene ความยาวราว 5 นาทีที่ฮุกผู้ชมเอาไว้ได้แบบอยู่หมัด ด้วยการเริ่มต้นเล่าเรื่องราวของ แม่มดโจฮีรา (ซงจีฮโย) เจ้าของร้านอาหาร The Witch’s ที่พร้อมตอบรับทุกความปรารถนาของลูกค้าให้เป็นจริง ไม่ว่าจะอยากถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น หรือแม้แต่ทำให้ใครบางคนหายไปจากโลกนี้
เป็น 5 นาทีแรกเปิดตัวที่ไม่เพียงพาเราไปทำความรู้จักกับตัวละครสำคัญของเรื่อง แต่ยังได้สัมผัสความตื่นตาตื่นใจของงาน CG โปรดักชัน การเซ็ตฉากที่ละเมียดละไม และซาวด์ประกอบที่มาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี กลายเป็นตัวชูโรงที่ทำให้เรารู้สึกระทึกและกดดันไม่ต่างกับตัวละคร จนไม่อยากกดข้ามแม้แต่วินาทีเดียว
นอกจากตัวละครแม่มดโจฮีราแล้ว ใน 2 อีพีแรกยังมีการเล่าถึงอีก 2 ตัวละครหลักอย่าง จองจิน (นัมจีฮยอน) หญิงสาวที่ต้องเผชิญกับความล้มเหลวทั้งชีวิตรักและหน้าที่การงานพร้อมๆ กัน และ กิลยง (แชจงฮยอบ) นักเรียนมัธยมปลาย อดีตนักกรีฑาอนาคตไกล ที่ชีวิตเล่นตลกจนความฝันต้องพังลงอย่างไม่คาดคิด
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต พวกเขาก็ได้มาพัวพันกับแม่มดโจฮีราโดยไม่ตั้งใจ และกลายมาเป็นพนักงานของร้านอาหาร The Witch’s ในที่สุด
นอกจากความแฟนตาซีที่น่าติดตามแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังสะท้อนสังคมไว้ในหลากหลายมิติ ทั้งความเหลื่อมล้ำทางสังคม การโดนเอารัดเอาเปรียบในที่ทำงาน รวมไปถึงปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียน ที่ถูกเล่าผ่านเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคของสองตัวละครหลักอย่างจองจินและกิลยง ยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยทั้งสองตัวละครมากขึ้นกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน The Witch’s Diner ก็ไม่ลืมที่จะสอดแทรกความหวังเล็กๆ ไว้ตรงกลางระหว่างความดราม่าและดาร์กของซีรีส์ ผ่านตัวละคร กิลยง ตัวแทนของเด็กหนุ่มที่ถูกโลกสีเทาใบนี้ค่อยๆ บีบคั้นให้ต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่ไม่อยากเป็น แต่กิลยงคือคนที่ไม่ยอมให้โลกใบนี้เปลี่ยนเขา
ใน 2 อีพีแรกเราจะได้เห็นความอ่อนโยนของกิลยงผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ อย่าง การช่วยปล่อยผีเสื้อที่ติดอยู่บนใยแมงมุม, การยื่นทิชชู่ให้คนแปลกหน้าที่กำลังร้องไห้ และบทสนทนาที่ซ่อนอยู่ในเรื่องเป็นระยะๆ เพื่อบอกกับคนดูว่า ตัวเราคนเดียวคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงโลกที่โหดร้าย แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นเรื่องราวดีๆ ให้กับใครบางคนในวันแย่ๆ ได้
นอกจากตัวละครกิลยงที่เรียกได้ว่าเป็นความสดใสของซีรีส์เรื่องนี้ ยังมีหลายฉากที่ทำให้เรายิ้มตามได้ ทั้งเคมีความน่ารักของสองพระนางอย่างจินจองและกิลยง ที่แม้ใน 2 อีพีแรกจะไม่ได้มีฉากกุ๊กกิ๊กให้เราเห็นมากนัก แต่ก็เห็นได้ถึงเคมีของทั้งสองคนที่น่าติดตาม และเรื่องราวความวุ่นวายของแม่มดที่มีอายุมาหลายพันปี แต่ก็ต้องมาปวดหัวกับเด็กสาวอย่างจินจองที่ไม่ได้มีความเกรงกลัวเธอไม่แต่นิดเดียว เกิดเป็นฉากต่อล้อต่อเถียงที่ทำให้เราหัวเราะตามไปด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีปมมากมายที่รอการคลี่คลาย ทั้งเบื้องหลังของแม่มดโจฮีรา การเริ่มต้นหน้าที่พนักงานในร้าน The Witch’s ของจองจินและกิลยง รวมทั้งภารกิจสำคัญของร้านอาหารแห่งนี้ที่รอตอบรับทุกความปรารถนาของลูกค้า
แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ จะขออะไรกับแม่มด?
ภาพ: WeTV
