ณัฐพงศ์ CEO SC Asset มองเศรษฐกิจยังคงท้าทายท่ามกลาง 3 สูง 1 ต่ำ ดอกเบี้ยสูง เงินเฟ้อสูง ภาระหนี้สูง แต่อัตราการเติบโตต่ำ ชี้ภาคอสังหายังเผชิญสถานการณ์การลงทุนที่กำลังซื้อลดลง ต้นทุนสูงขึ้น ความสามารถในการกู้ต่ำลง จึงส่งผลไปยังยอดขายที่ช้าลง กำไรลดลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 หัวข้อ Reforming Business in Economic Turbulence ธุรกิจปรับตัวอย่างไรในเศรษฐกิจไทย 2024 ว่า ผลกระทบจากแรงขับเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ประกอบด้วย ขายช้าลง ทุนขาดแคลน แข่งยากขึ้น โดยข้อมูลจากรายการ The Secret Sauce ได้สรุปเศรษฐกิจโลกปี 2024 ไว้ว่า ผลกระทบในปีหน้าจะมี 3 สูง 1 ต่ำ
นั่นคือ ดอกเบี้ยสูง เงินเฟ้อสูง ภาระหนี้สูง แต่อัตราการเติบโตต่ำ ซึ่งจะส่งผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ แน่นอนว่าเราจะเห็นสถานการณ์การลงทุนที่กำลังซื้อลดลง ต้นทุนสูงขึ้น ความสามารถในการกู้ต่ำลง จึงส่งผลไปยังยอดขายที่ช้าลง กำไรลดลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งสิ่งที่สะท้อนชัดเจนคือ หากดูจากยอดขายของโครงการต่อสัปดาห์ของ SC Asset พบว่า ยอดขายต่ำลงกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด และระยะยาวจะเห็นว่า การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์จะควบคู่ไปกับการเติบโตของ GDP ประเทศ
ดังนั้น เมื่ออัตราการเกิดของประชากรต่ำลง เงินทุนที่ขาดแคลนย่อมส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ทุกองค์กรจะปรับตัวรับความเสี่ยงด้วยการเก็บเงินสดไว้ แต่เมื่อโควิดจบลงแต่สงครามไม่จบ การ Default ของ Bond Yield เงินทุนไหลออก ทำให้หลายองค์กรอยู่ในโหมดระมัดระวังตัว จึงเห็นการลงทุนที่ชะลอปล่อยกู้ช้าลง ซึ่งผลกระทบข้อนี้สำคัญมาก
นอกจากนี้ การแข่งขันจะยากขึ้น โดยในวันนี้และอนาคต บริษัทที่จะมีความได้เปรียบคือบริษัทที่สามารถทำกำไรได้มากกว่าคู่แข่ง และบริษัทนั้นจะต้องมีกลยุทธ์ ต้นทุน และความแตกต่าง
“ผมอยากสะท้อนให้เห็นว่า รถที่เก่า ไม่แตกต่างโดนใจ เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยๆ เราสร้างความได้เปรียบยาก เช่นเดียวกันกับบ้าน 1 หลังที่มีต้นทุนสูง กำลังซื้อต่ำลงก็แข่งขันยาก ความเหลื่อมล้ำสูง”
ณัฐพงศ์ยังระบุอีกว่า นอกจากความท้าทายข้างต้นแล้ว ยังมีความท้าทายของการเปลี่ยนผ่านทางอุตสาหกรรม ที่สร้างทั้งการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมในอดีต เริ่มจากพลังงานไอน้ำ เปลี่ยนสู่พลังงานไฟฟ้า จากพลังงานไฟฟ้าไปเป็นอินเทอร์เน็ต และจากอินเทอร์เน็ตไปเป็น Data ไปจนถึงสิ่งที่เรียกว่า Fusion of technology จนปัจจุบันคือยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Industrial Revolution)
แน่นอนว่ายังมีเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงสำคัญยุคนี้ คือยุคแห่ง AI นับจากนี้มนุษย์จะทำงานกับ AI
เป็นไปตามสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ได้บอกไว้ว่า “AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่คนที่ใช้ AI จะมาแทนที่คนที่ไม่ใช้ AI และ AI จะเป็นทั้งอุปสรรคและโอกาส สร้างทั้งความได้เปรียบและเสียเปรียบทางการแข่งขัน”
Gen Z ตัวแปรสำคัญ
นอกจากเทคโนโลยีแล้วยังมีอีกประเด็นสำคัญคือ ความคาดหวังของ Gen Z
“Gen Z จะเป็น Gen ดาวรุ่งของโลกในอนาคต จะเข้ามามีบทบาทและเป็นลูกค้าของเรา โดยปัจจุบัน Gen Z มี 2 พันล้านคน อายุ 11-26 ปี มีการคาดการณ์ว่า อีก 7 ปีนับจากนี้ Gen Z กับ Gen Y จะมีสัดส่วน 60% ของโลก”
นั่นหมายความว่า ประชากรกลุ่มนี้จะเป็นทั้งคนทำงานและลูกค้า โดย Gen Z อยู่ในโลกออนไลน์และออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ ให้ความสำคัญกับคุณค่า สังคม และสิ่งแวดล้อม
“วันนี้ถ้าผู้ประกอบการไม่เข้าใจ Gen Z ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ เราจะพลาดโอกาส ความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมาก เพราะเราจะขาดคนคุณภาพ”
ดังนั้น สิ่งที่นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยต้องเตรียมวางแผนรับมือมีดังนี้
- Liquidity รักษาสภาพคล่องทางการเงิน
- People เตรียมผู้คนให้พร้อม พัฒนาคนในองค์กรให้เรียนรู้ AI ควบคู่ไปกับการมี Soft Skills และผู้นำองค์กรต้องมีการสื่อสาร สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีกับพนักงาน
- Technology เตรียมพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ นั่นคือ AI และ AI ที่ไม่มี Data ก็เปรียบเสมือนรถยนต์ที่ไม่มีน้ำมัน
นอกจากนี้ บริษัทต้องสนับสนุนความหลากหลายของสินค้า และหากมีทุนควรขยายและทำธุรกิจ กระจายความเสี่ยงออกไป เช่น เราทำบ้านและคอนโด นอกจากนี้ก็ทำโรงแรม สินค้าและสร้างคุณค่า ถ้าเป็นนักธุรกิจอสังหาจะเห็นชีวิตคน ความเหนื่อยยาก ธุรกิจยุคนี้ต้องมี Purpose ถึงจะชนะใจคนรุ่นใหม่และลูกค้า
องค์กรที่จะเติบโตได้ต้องมี 1. ปณิธานที่ยิ่งใหญ่ 2. ปกป้องผู้คน สร้างกำไร โดย SC Asset ได้ไอเดียมาจาก Microsoft ที่มี Purpose, Pride, People, Perks และ Pay
สุดท้าย SC Asset ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งบริษัทอยู่ในช่วงการทำวิจัย สร้างต้นแบบพลังงานมาทำเป็นบ้าน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้การเตรียมพร้อมที่ดีจะนำไปสู่ชัยชนะความซับซ้อนและความไม่แน่นอน ซึ่งข้อเสนอที่อยากฝากมี 5 ข้อ คือ เราจะทำอย่างไรให้ผู้คนเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น ธุรกิจอสังหาควรมีกฎหมายข้อไหนที่ต้องปรับเพื่อให้ได้ประโยชน์มากขึ้น และยังมีกฎเกณฑ์ข้อไหนที่สามารถปรับเพื่อให้ทำธุรกิจได้เร็วมากขึ้น
รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานข้อไหนที่จะกระจายความเจริญออกไปทั้งประเทศให้มากขึ้น และสุดท้าย จะทำอย่างไรสำหรับการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน เพื่อให้ชีวิตประชากรชาวไทยดีขึ้น
ณัฐพงศ์ทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า “Keynote วันนี้ออกแบบโดยมนุษย์แต่สร้างโดย AI”
📌อัปเดตเทรนด์โลกกว่า 20+ Sessions ซื้อบัตรชมย้อนหลังได้ที่ https://bit.ly/TSEF2023ED
✅ ราคาพิเศษ! 2,500 บาท ถึง 31 ธันวาคม 2566 เท่านั้น
✅ รับชมออนไลน์ทุกที่ทั่วโลก
✅ ดูย้อนหลังนาน 6 เดือน (1 ธันวาคม 2566 – 31 พฤษภาคม 2567)
✅ สรุปเนื้อหา Visual Summary ทุกเวที
Media Partner
📌รับสรุปเนื้อหาทุกเวที 20+ Sessions
ซื้อบัตรชมย้อนหลังวันนี้ดูได้นานถึง 6 เดือน
