×

Impact Investing กุญแจพา ‘ไทย’ ก้าวกระโดด Jeep Kline เผย 4 เทรนด์สำหรับผู้ประกอบการไทย

24.11.2023
  • LOADING...
Jeep Kline

Jeep Kline เผย Impact Investing มีความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศไทยก้าวกระโดด (Leapfrog) ได้ เป็นความต้องการขององค์กรระดับนานาชาติ และเป็นเทรนด์ที่กำลังมา พร้อมเผย 4 เทรนด์ที่ผู้ประกอบการไม่ควรพลาด

 

วันนี้ (24 พฤศจิกายน) Jeep Kline อาจารย์มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ และผู้ก่อตั้งกองทุนเวนเจอร์ แคปปิตอล เปิดเผยในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 หัวข้อ Driving Positive Change: Impact Investment in Thailand การลงทุนเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง

 

โดยระบุว่า ในความคิดของตน Impact Investing มีคำนิยามค่อนข้างกว้าง แต่ที่สำคัญสุดคือต้องสร้างผลตอบแทนได้ โดยไม่ใช่แค่ผลตอบแทนด้านการเงิน (Financial) เท่านั้น แต่ต้องสร้างผลตอบแทนทางสังคม (Social) และสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้วย

 

Jeep Kline กล่าวอีกว่า Impact Investing มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศไทยก้าวกระโดดได้ เป็นความต้องการขององค์กรระดับนานาชาติ และเป็นเทรนด์ที่กำลังมา

 

“เด็กรุ่นใหม่เก่งๆ ที่เรียนจบด้านการเงิน เดี๋ยวนี้อยากทำงานเป็น Venture Capital (VC) ไม่ใช่แค่ VC ธรรมดา แต่เป็น Impact Driven VC เพราะฉะนั้นจากปัจจัยเหล่านี้ ถ้าองค์กรอยากได้คนเก่งมาทำงานในบริษัทจะต้องทำสิ่งนี้” Jeep Kline กล่าว

 

เปิดเทรนด์ Impact Investing ที่น่าสนใจ

 

Jeep Kline เปิดเผยว่า ในฐานะ Impact Driven VC กำลังเห็นโอกาสในอุตสาหกรรม ดังนี้

 

  • Climate Tech หรือเป็นเทคโนโลยีที่ลดหรือดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีเกษตรกรรม เทคโนโลยีอาหาร และ EV 
  • Manufacturing Tech / Supply Tech ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตผลในการผลิต รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สีเขียวต่างๆ (Green Materials) เนื่องจากตอนนี้ไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมเก่าไปใหม่
  • Health / Well-being Tech เนื่องจากประเทศไทยยังคงมีความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพค่อนข้างสูง 

 

Ecosystem ในไทยควรเป็นอย่างไร เพื่อหนุนผู้ประกอบการ

 

Jeep Kline กล่าวอีกว่า ในประเทศไทยควรมี Venture Capital Fund ให้เพียงพอ เนื่องจาก Corporate Venture Capital มักเลือกลงทุนตาม Agenda ตัวเองเท่านั้น และไม่ลงทุนในบริษัทเล็กๆ นอกจากนี้ ในแง่ภาครัฐก็ควรสนับสนุนในด้านกฎหมายและการกำกับดูแล

 

“CVC จะมี Agenda ของบริษัทตัวเอง เช่น เป็นบริษัทอาหารหรือธนาคาร ดังนั้นแรงจูงใจจึงอาจไม่เหมือนกับ Private VC ที่จะมองหาสิ่งที่สำคัญต่อบริษัท นอกจากนี้ CVC ส่วนใหญ่มีเงินเยอะ เพราะฉะนั้น CVC จะไม่สามารถลงทุนในบริษัทที่มีขนาดเล็กได้”

 

“บริษัทนวัตกรรมเกิดใหม่ ช่วงแรกต้องการเงินทุน แต่ถ้าไทยไม่มี Private VC ที่เพียงพออยู่ใน Ecosystem บริษัทเหล่านั้นก็ไม่สามารถเติบโตไปจนถึงจุดที่ให้ CVC มาลงทุนได้ เพราะฉะนั้นมี CVC ดีแต่ไม่พอ แต่ต้องมีอย่างอื่น เช่น Private VC หรือ Angel Investor” Jeep Kline กล่าว

 

ในฐานะ VC มองหาอะไรในตัวผู้ก่อตั้ง

 

Jeep Kline เปิดเผยอีกว่า ในฐานะ VC ต้องการผู้ประกอบการที่มีความสามารถในการเห็นวิกฤตเป็นโอกาส มองภาพกว้างเป็น รู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง แล้วสามารถนำจุดแข็งมาสเกลอัพได้ นอกจากนี้ยังต้องมีมายด์เซ็ตเป็น Global Company

 

“ไม่เคยมี Entrepreneur หรือ Founder คนไหนบอกว่าฉันจะไม่เป็นบริษัทระดับโลก นี่คือมายด์เซ็ต เริ่มในประเทศก่อน ก่อนจะสเกลอัพ”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising