The Sound of Magic หรือในชื่อเต็มๆ ว่า Annarasumanara: The Sound of Magic โอม รักเอยจงมา เป็นซีรีส์ที่สร้างจากเว็บตูนของ Ha Il-kwon ผลงานการแสดงโดย จีชางอุค ชเวซองอึน และฮวังอินยอบ ที่จะพาคนดูกระโดดจากโลกความเป็นจริงไปสู่ความแฟนตาซีผ่านเวทมนตร์ เพื่อค้นหาความหวังและความฝันที่เคยสูญสลาย
‘คุณเชื่อในเวทมนตร์หรือเปล่า’ ซีรีส์ The Sound of Magic เปิดคำถามแรกเอาไว้แบบนั้น และทีมนักแสดงนำของเรื่อง จีชางอุค ชเวซองอึน และฮวังอินยอบ จะมาเป็นผู้ให้คำตอบในการสัมภาษณ์พิเศษวันแถลงข่าว
“ผมรับบทเป็น รีอึล นักมายากลลึกลับที่อาศัยอยู่ในสวนสนุกร้าง ห่างไกลผู้คน จริงๆ แล้วรีอึลเป็นผู้ใหญ่ที่รักในเรื่องของเวทมนตร์ ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ใหญ่ที่อยากเป็นเด็กไปตลอดกาล
“การรับบทเป็นรีอึล ทำให้ผมใช้เวลาเยอะเลยครับในการทบทวนถึงความไร้เดียงสาในวัยเด็ก และความฝันของตัวผมเองที่หลงลืมไปแล้วตอนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา
“ผมมีโอกาสได้เจอผู้กำกับครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน หลังจากได้อ่านบทแล้ว มีความรู้สึกหลากหลายมากครับ ตัวละครยุนอาอีและนาอิลดึงในเรื่องคล้ายกับเรื่องราวของตัวผมเอง จนทำให้รู้เลยว่าใครๆ ก็จะอินกับตัวละครได้ไม่ยาก สิ่งที่ดึงดูดผมมากที่สุด น่าจะเป็นความรู้สึกที่อยากให้กำลังใจตัวละครยุนอาอีและนาอิลดึง ส่วนตัวละครรีอึล เขามีความน่าสนใจและมีเสน่ห์มาก นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจรับบทในเรื่องนี้ครับ
“The Sound of Magic เป็นซีรีส์ที่แปลกใหม่มากครับ การแสดงก็ยากมากเหมือนกัน ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้เจอคาแรกเตอร์แบบนี้อีกเมื่อไร เพราะต้องทั้งแสดง ร้องเพลง เต้น และเล่นมายากลไปด้วย ผมเองต้องเตรียมตัวหลายอย่างเลย แต่ก็สนุกมากๆ ครับ บรรยากาศในกองถ่าย ทีมเวิร์ก และเคมีกับเพื่อนนักแสดง รวมถึงทีมงาน เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญและประทับใจมากๆ”
จีชางอุค รับบท รีอึล
นักมายากลลึกลับชื่อ รีอึล เขาไม่อยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อาศัยอยู่ในสวนสนุกร้างกับนกแก้วของเขา ความตั้งใจของจีชางอุคในการรับบทนี้ เขาไปเรียนร้องเพลงและเรียนมายากลกว่า 3 เดือนก่อนการถ่ายทำ นอกจากนี้ บทรีอึล ยังเป็นงานยากที่จีชางอุคใช้เวลาศึกษาคาแรกเตอร์ร่วมกับผู้กำกับและนักเขียนบท เพื่อถ่ายทอดด้านใสบริสุทธิ์ และด้านมืดของตัวละครออกมาได้ชนิดที่ว่า นักเขียนบทยอมรับว่าจีชางอุค คือรีอึล ได้สมบูรณ์แบบ
“ฉันเคยอ่าน The Sound of Magic ฉบับเว็บตูนมาก่อนค่ะ ทั้งเนื้อเรื่องและลายเส้นมีความสนุกและสวยงาม เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้สึกอินตามได้ง่าย ภาพในเว็บตูนต้นฉบับสวยมากจนทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าดัดแปลงเป็นฉบับภาพเคลื่อนไหวแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลังจากได้เจอผู้กำกับแล้ว ฉันรู้สึกได้ทันทีว่าถ้าได้ทำงานกับผู้กำกับคนนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ เขาน่าจะดึงภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของฉันที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนก็ได้ จึงตัดสินใจรับบทนี้ค่ะ
“ยุนอาอี ในซีรีส์เรื่องนี้เป็นเด็กสาวยากจนที่เอาชีวิตรอดในแต่ละวันไปได้อย่างทุกข์ทรมาน แม้ว่าอายุยังน้อย แต่ด้วยความจนมันน่ากลัวและทำให้เธออยากโตเป็นผู้ใหญ่ไวๆ เธอทิ้งความฝันไว้ข้างหลังหมดแล้ว แต่พอได้เจอนักยามากลลึกลับ เธอกลับมามีความหวังและกล้าที่จะฝันอีกครั้งค่ะ
“ฉันปรึกษากับผู้กำกับอยู่เสมอว่าทำอย่างไรผู้ชมถึงจะรับรู้ความรู้สึกและอินไปกับตัวละครยุนอาอีได้ เพราะถ้าเข้าใจตัวตนของยุนอาอีแล้ว ก็จะเข้าใจว่าเธอเติบโตขึ้นอย่างไรหลังได้เจอกับรีอึล และจะเข้าใจตัวละครนาอิลดึง และเรื่องราวในภาพรวมได้ง่ายขึ้น ฉันจึงโฟกัสว่าควรถ่ายทอดออกมาอย่างไรเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกคล้อยตามไปด้วยค่ะ
“The Sound of Magic มีหลายอย่างที่ฉันต้องเรียนรู้และพยายามมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องร้องเพลง ซึ่งฉันได้รับความช่วยเหลือจากหลายๆ คน เนื้อเพลงในซีรีส์แต่งออกมาดีมาก ทำให้ฉันสัมผัสบางอารมณ์และความรู้สึกที่คิดไม่ถึงว่าตัวละครยุนอาอีจะรู้สึกแบบนี้ค่ะ ถึงไม่เคยได้พบกับผู้เขียนเนื้อเพลงเป็นการส่วนตัว แต่ฉันรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ”
ชเวซองอึน รับบท ยุนอาอี
ก่อนหน้านี้เราอาจคุ้นหน้าชเวซองอึน จากซีรีส์ Beyond Evil ในบทหญิงสาวร้านเขียงเนื้อมันยาง ในซีรีส์ The Sound of Magic เธอรับบทยุนอาอี หญิงสาวที่ทำความฝันหล่นหาย ทั้งยังดิ้นรนหาเงินมาเลี้ยงดูตัวเองและน้องสาว โดยที่พ่อหายตัวไปหลังจากธุรกิจล้มเหลว ยุนอาอีอยากโตให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะหาเงินให้ได้มากขึ้น และเธออาจเป็นอิสระจากปัญหามากมายเหล่านี้เสียที นักเขียนคิมมินจองเล่าว่าการแสดงของชเวซองอึนพัฒนาไปไกลมาก เธอเป็นตัวละครยุนอาอีทั้งสีหน้า และการแสดงออกด้วยดวงตา ที่ทำให้เราคาดเอาไม่ได้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่ข้างในนั้น
“ผมเองก็เคยอ่านเว็บตูนมาก่อนครับ เนื้อเรื่องสนุก และการสื่อสารที่กินใจ น่าจะรู้สึกเหมือนกับทุกคนที่เคยอ่านเว็บตูนมาก่อนเหมือนกัน ตอนที่ได้เจอผู้กำกับ ได้พูดคุยกัน ผมนึกว่าเขาจะถามว่าตัวผมเองใกล้เคียงตัวละครนาอิลดึงมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ได้ยินคือเขาเน้นถามผมว่า ตัวจริงของฮวังอินยอบเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากและอยากร่วมงานกับผู้กำกับคิมซองยุนครับ
“ตัวละครของผมคาแรกเตอร์ตรงตามชื่อเลยครับ นาอิลดึง (แปลว่า ฉันเป็นที่หนึ่ง) เป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่บังคับให้เป็นที่หนึ่งตลอด แต่ตัวเขาเองกลับไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ต้องการอะไร เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลย จนอยู่มาวันหนึ่ง เขาได้เจอกับรีอึลนักมายากลลึกลับ และได้ค้นพบตัวเอง ได้เติบโตต่อไป
“นาอิลดึงเป็นตัวละครที่น่ารักนะครับ เพียงแต่เขาสื่ออารมณ์ความรู้สึกไม่ค่อยเป็น ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ดูเป็นคนแข็งกร้าว ผมพยายามทำความเข้าใจตัวละครของนาอิลดึงเป็นอันดับแรกครับ พยายามทำความเข้าใจว่าเขาชอบอะไรและต้องการอะไร เชื่อว่าใครที่ได้ดูซีรีส์น่าจะเข้าใจในตัวนาอิลดึง และได้รับกำลังใจจากเขาด้วยนะครับ
“อย่างที่เห็นจากตัวอย่างซีรีส์ เพลงใน The Sound of Magic เพราะมาก และมีสถานที่งดงามมากมาย ระหว่างที่ถ่ายทำในบรรยากาศเหล่านั้น ผมมักจะหันไปบอกผู้กำกับว่า ‘นี่เป็นครั้งแรกสำหรับผมเลยครับ’ ผู้กำกับก็จะตอบว่าเป็นครั้งแรกสำหรับเขาเช่นกัน ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้สร้างความทรงจำที่เป็นครั้งแรกร่วมกับทุกคนครับ”
ฮวังอินยอบ รับบท นาอิลดึง
นาอิลดึง คาแรกเตอร์ในเรื่องนี้คือวัยรุ่นที่ความฝันถูกกลบจนมิดเพราะพ่อแม่ที่ตั้งวางทุกอย่างเอาไว้ให้เขาเอง ทุกอย่างสำหรับนาอิลดึงคือที่ 1 ทั้งเรื่องเรียนที่ต้องอยู่ระดับท็อป แข่งขันในทุกเรื่องเพื่อเป็นที่ 1 จนเหนื่อยล้าเต็มทีแต่มองไม่เห็นทางที่จะลงจากการแข่งขันนี้ นาอิลดึงไม่ได้แค่ไม่มีความฝัน แต่ยังสูญเสียตัวตนของเขา จนยากที่จะแสดงความเป็นตัวเขาเองออกมาจากข้างใน ซึ่งฮวังอินยอบจะแสดงให้เห็นทั้งด้านของนักเรียนไฮสคูลแถวหน้า ความรักครั้งแรก ไปจนถึงการค้นพบบาดแผลข้างในใจ และการเลือกทางเดินที่ถูกต้องให้กับตัวเอง
จีชางอุค และชเวซองอึน ได้ทิ้งท้ายการสัมภาษณ์ด้วยการเล่าถึงการทำงานในซีรีส์ The Sound of Magic โดยจีชางอุคได้เล่าถึงซีรีส์ที่หลายคนมองว่าจะเป็นซีรีส์มิวสิคัล แต่เขาเห็นต่าง
“ความจริงแล้วซีรีส์เราไม่ใช่มิวสิคัล ผมเลยไม่เคยนึกเปรียบเทียบกับผลงานมิวสิคัลก่อนหน้านี้ครับ โทนของการร้องและเทคนิคโดยรวมแตกต่างจากการแสดงมิวสิคัลบนเวทีมากครับ อย่างเช่น ในซีรีส์เรามีการอัดเสียงก่อน ฝึกซ้อมและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมแล้วค่อยถ่ายทำ มีการเว้นคั่นระหว่างการถ่ายทำ ซึ่งไม่เหมือนกับการแสดงบนเวที แน่นอนว่าผมเองก็กังวลมากครับ แต่ทีมงานเพลงคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด และตัวผมเองก็หมั่นฝึกซ้อม เป็นงานที่ท้าทายและแปลกใหม่ แต่ก็ถือเป็นของขวัญสำหรับตัวผมเองด้วยครับ”
ชเวซองอึนพูดถึงเมสเสจหลักของซีรีส์ The Sound of Magic ที่ไม่เพียงแต่จะปลุกไฟฝันให้ใครที่ได้ดู กับตัวเธอเองยังรู้สึกได้รับการปลอบประโลมอย่างอบอุ่นเช่นกัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนดูจะรู้สึกอย่างไรบ้าง แต่ในฐานะแสดง ฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะถ่ายทอดตัวละครยุนอาอินให้ผู้ชมเข้าใจ และคล้อยตามไปกับเธอค่ะ
“โดยส่วนตัวแล้ว ฉันพยายามมองหาเมสเสจสำคัญจากตัวบทของผลงานชิ้นนั้นๆ บทของซีรีส์ The Sound of Magic มีเนื้อหาที่ช่วยปลอบใจและให้กำลังใจตัวฉันเองด้วย ยิ่งได้อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงครั้งที่ 3 มีหลายประโยคหลายเหตุการณ์มากที่ทิ่มแทงใจ เชื่อว่าจะเป็นผลงานที่จะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนานค่ะ
อ่านต่อ The Sound of Magic ร้องเพลง เต้นรำ หลงรัก ไปกับจีชางอุค ในซีรีส์ที่ตั้งคำถาม ‘การเป็นผู้ใหญ่คืออะไร’
The Sound of Magic เป็นซีรีส์ที่ดูได้ทั้งครอบครัว ในมุมมองที่ต่างไปสำหรับแต่ละวัย มีทั้งหมด 6 อีพี กำกับโดย คิมซองยุน (Itaewon Class, Love in the Moonlight, Big) เขียนบทโดย คิมมินจอง (Love in the Moonlight, Who are you: School 2015) ออกอากาศวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ทาง Netflix
ตัวอย่างซีรีส์ The Sound of Magic