×

The Mummy (1999) จากหนังสยองขวัญทุนต่ำ สู่ผลงานอันเป็นที่จดจำของ Brendan Fraser

20.02.2023
  • LOADING...
The Mummy (1999)

เชื่อว่าคอภาพยนตร์ยุค 90 หลายคนคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักชื่อของ Brendan Fraser นักแสดงชาวแคนาดา-อเมริกัน ที่มีผลงานการแสดงอันเป็นที่จดจำของผู้ชมหลายเรื่องทั้ง School Ties (1994), Airheads (1994), George of the Jungle (1997), Gods and Monsters (1998) ฯลฯ

 

และหนึ่งในบทบาทที่ส่งให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางนั่นคือ The Mummy (1999) ภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยโดยฝีมือของผู้กำกับ Stephen Sommers กับบทบาทของ Rick O’Connell ทหารรับจ้างที่ต้องร่วมมือกับ Evelyn (Rachel Weisz) บรรณารักษ์สาว และ Jonathan (John Hannah) พี่ชายของเธอ เพื่อออกเดินทางตามหานครแห่งความตาย แต่พวกเขาดันไปปลดปล่อย Imhotep (Arnold Vosloo) ซอมบี้ผู้ชั่วร้ายออกมา

 

และเนื่องในโอกาสที่ Brendan Fraser กลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้งจากผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดอย่าง The Whale วันนี้ THE STANDARD POP ถือโอกาสพาผู้อ่านมาร่วมย้อนรอยเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง The Mummy อีกหนึ่งผลงานชิ้นสำคัญของ Brendan Fraser กันอีกครั้ง

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 


 

 

จากโปรเจกต์ภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำ สู่การผจญภัยที่ผสมผสานความคอเมดี้ สยองขวัญ และแอ็กชัน เข้าไว้ด้วยกัน 

The Mummy เป็นโปรเจกต์ที่ถูกริเริ่มโดย James Jacks และ Sean Daniel สองโปรดิวเซอร์ที่อยากนำภาพยนตร์สยองขวัญสุดคลาสสิกอย่าง The Mummy (1932) หนึ่งในผลงานจากแฟรนไชส์ Universal Classic Monsters ของค่าย Universal Pictures ที่นำแสดงโดย Boris Karloff มาปัดฝุ่นใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่ทางค่าย Universal Pictures อยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำ จึงมอบทุนสร้างให้กับสองโปรดิวเซอร์เพียง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

 

ไม่เพียงแค่นั้น James Jacks และ Sean Daniel ยังต้องเผชิญกับปัญหาในช่วง Pre-Production ที่มีการปรับเปลี่ยนมือเขียนบทและผู้กำกับอยู่หลายครั้ง เริ่มตั้งแต่การเลือกให้ George A. Romero ผู้กำกับสายสยองขวัญจาก Dawn of the Dead (1979) มารับหน้าที่กำกับและเขียนบทร่วมกับ Abbie Bernstein ซึ่งบทร่างแรกของ Abbie Bernstein เล่าเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ที่ปลุกให้มัมมี่กลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง และต้องการทำลายทุกชีวิตบนโลกด้วยอุปกรณ์โบราณ แต่ในท้ายที่สุด George A. Romero และ Abbie Bernstein ก็ถอนตัวจากโปรเจกต์นี้ 

 

หรือ Clive Barker นักเขียนนิยายและผู้กำกับจาก Hellraiser (1984) ที่ถูกทาบทามให้มานั่งแท่นผู้กำกับ และได้ Mick Garris จาก Critters 2: The Main Course (1988) มารับหน้าที่เขียนบท ซึ่งบทของ The Mummy เวอร์ชันนี้จะมีความมืดมน รุนแรง และเวทมนตร์มากกว่าต้นฉบับ แต่ท้ายที่สุดค่าย Universal Pictures กลับไม่ซื้อแนวคิดดังกล่าว และต้องคัดเลือกผู้กำกับและมือเขียนบทกันใหม่อีกครั้ง

 

ภายหลังจากการปรับเปลี่ยนมือเขียนบท ผู้กำกับ และบทภาพยนตร์ อยู่นานร่วม 10 ปี ในที่สุด James Jacks และ Sean Daniel ก็ได้โคจรมาพบกับ Stephen Sommers ผู้กำกับที่เพิ่งจะจบงานจากภาพยนตร์ Deep Rising (1998) มาได้ไม่นานนัก อีกทั้ง Stephen Sommers ยังเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่อง The Mummy ฉบับปี 1932 อีกด้วย 

 

โดยไอเดียของ Stephen Sommers เขาอยากสร้างให้ The Mummy เป็นผลงานที่มีกลิ่นอายของภาพยนตร์ผจญภัยอย่าง Indiana Jones และ Jason and the Argonauts (1963) มากกว่าจะเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญตามปกติ โดยมีมัมมี่เป็นวายร้ายที่มีความรวดเร็วและน่ากลัว เพื่อให้ตัวละครหลักที่มีคาแรกเตอร์แบบฮีโร่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และด้วยไอเดียนี้จึงทำให้ค่าย Universal Pictures ที่กำลังต้องการภาพยนตร์ฮิตติดตลาดมาเข้าฉาย จึงได้เพิ่มทุนสร้างและเริ่มเดินหน้าโปรเจกต์นี้อย่างเป็นทางการ 

 

 

Rick O’Connell อีกหนึ่งบทบาทการแสดงที่ Brendan Fraser หลงรัก 

หากเอ่ยถึงชื่อของภาพยนตร์เรื่อง The Mummy หนึ่งในภาพจำที่อยู่ในความทรงจำของคอภาพยนตร์หลายคนคือ นักแสดงนำอย่าง Brendan Fraser กับบทบาทของทหารรับจ้างมาดเข้มอย่าง Rick O’Connell 

 

แต่ก่อนที่บทนี้จะตกเป็นของ Brendan Fraser ทางโปรดิวเซอร์ James Jacks ได้วางตัวนักแสดงที่อยากให้มารับบทนี้ไว้หลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Tom Cruise, Brad Pitt, Matt Damon และ Ben Affleck แต่ด้วยตารางงานของนักแสดงที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้พวกเขาไม่ได้มารับบทดังกล่าว 

 

ในท้ายที่สุด Stephen Sommers ที่ประทับใจในการแสดงของ Brendan Fraser ที่เพิ่งจะประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์คอเมดี้เรื่อง George of the Jungle (1997) กับบทบาทของ George เจ้าป่าที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขันและความแข็งแรง ผู้กำกับจึงตัดสินใจเลือก Brendan Fraser มารับบท Rick O’Connell  

 

ซึ่งในช่วงปลายปี 2022 ทาง Brendan Fraser ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ว่า The Mummy คือภาพยนตร์แอ็กชันที่แฝงไปด้วยความคอเมดี้ โรแมนติก ผจญภัย และความสยองขวัญ มันเป็นเหมือนภาพยนตร์ป๊อปคอร์นแบบรถไฟเหาะตีลังกา 

 

พร้อมเสริมว่า เหตุผลที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถดึงดูดสายตาของผู้ชมทั่วโลกได้อย่างอยู่หมัดคือ องค์ประกอบต่างๆ ของภาพยนตร์ ทั้งการขี่อูฐข้ามผ่านทะเลทราย ฉากการวิ่งไปรอบๆ ทะเลทรายซาฮาร่าในโมร็อกโก ไปจนถึงการตัดสินใจเดินทางไปถ่ายทำในแอริโซนาและนิวเม็กซิโก ซึ่งสถานที่ถ่ายทำเหล่านี้เป็นเหมือนอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของภาพยนตร์ 

 

อีกหนึ่งสีสันที่ทำให้ Brendan Fraser หลงรักในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การทำงานร่วมกับผู้กำกับอย่าง Stephen Sommers ที่ทำให้การถ่ายทำเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ท้าทาย และอันตรายบ้างในบางครั้ง ซึ่งความกระตือรือร้นในการทำงานของ Stephen Sommers ก็ถูกถ่ายทอดมาสู่นักแสดงและทีมงานทุกคน จนทำให้การทำงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและวุ่นวาย และส่งให้ The Mummy กลายเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ Brendan Fraser หลงรัก 

 

 

The Mummy ภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยที่ยังคงตราตรึงใจผู้ชมมาจนถึงปัจจุบัน 

ภายหลังจาก The Mummy เข้าฉายอย่างเป็นทางการในปี 1999 ภาพยนตร์ก็ได้เสียงตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม ด้วยรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกที่สูงถึง 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแทนภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 9 ณ ปีที่ออกฉาย ก่อนที่จะเดินหน้ากวาดรายได้รวมทั่วโลกไปได้มากถึง 416.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนทำให้ภาพยนตร์ได้รับการสร้างภาคต่อมาอีก 2 ภาคด้วยกันอย่าง The Mummy Returns (2001) และ The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor (2008)  

 

ซึ่งแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานกว่า 25 ปีแล้ว แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า The Mummy เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยที่เราหยิบกลับมาดูอีกครั้งก็ยังไม่เก่า ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ที่ถูกประกอบร่างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งคาแรกเตอร์ของตัวละครหลักอย่าง Rick O’Connell ที่มีความเป็นฮีโร่และความตลกขบขัน ซึ่งทำให้ผู้ชมเข้าถึงตัวละครนี้ได้ไม่ยาก เคมีที่เข้ากันอย่างลงตัวระหว่าง 3 ตัวละครหลักที่ทำให้การผจญภัยครั้งนี้กลมกล่อม 

 

รวมถึงการรักษากลิ่นอายสยองขวัญจากภาพยนตร์ต้นฉบับ เพื่อยังคงเสน่ห์ของภาพยนตร์สยองขวัญยุค 30 ไว้ พร้อมกับการต่อยอดองค์ประกอบอื่นๆ ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการผสมผสานแนวต่างๆ ของภาพยนตร์ ทั้งผจญภัย คอเมดี้ สยองขวัญ และโรแมนติก ไว้ในเรื่องเดียวได้อย่างลงตัว ควบคู่ไปกับการหยิบนำตำนานและประวัติศาสตร์ของอียิปต์มาเป็นฉากหลังของเรื่อง ซึ่งทำให้ตัวภาพยนตร์มีความลึกลับและน่าค้นหา 

 

สำคัญที่สุด The Mummy ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นสำคัญของนักแสดงนำอย่าง Brendan Fraser ที่แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาจะห่างหายไปจากวงการหลังจากเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมาย แต่แฟนๆ ก็ยังคงหลงรักและคิดถึงการแสดงของเขาในบทบาทของ Rick O’Connell อยู่เสมอ  

 

โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2023 ทางโรงภาพยนตร์ Prince Charles ซึ่งตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้มีการจัดฉายรอบพิเศษของภาพยนตร์เรื่อง The Mummy และ The Mummy Returns ให้แฟนๆ ได้กลับมารับชมอีกครั้ง ซึ่ง Brendan Fraser ก็ได้เดินทางไปปรากฏตัวเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนๆ ที่มารับชม พร้อมกล่าวกับผู้ชมว่า เขารู้สึกภูมิใจที่ได้มายืนอยู่ต่อหน้าผู้ชม ซึ่งแฟนๆ ที่เดินทางมารับชมในค่ำคืนนั้นต่างก็ส่งเสียงเชียร์และปรบมือต้อนรับนักแสดงที่พวกเขาหลงรักอย่างอบอุ่น ซึ่งโมเมนต์น่ารักๆ เหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่เน้นย้ำให้เราเห็นถึงความผูกพันระหว่าง Brendan Fraser และแฟนภาพยนตร์ The Mummy ที่ยังคงแนบแน่นมาจนถึงปัจจุบัน 

 

นอกจากนี้ Brendan Fraser ยังเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้ปิดกั้นการกลับไปรับบทเป็น Rick O’Connell อีกครั้งหากมีการสร้างภาคต่อ ซึ่งเราเชื่อว่าแฟนๆ ทุกคนต่างก็รู้สึกยินดีที่ได้เห็น Brendan Fraser กลับมาเฉิดฉายบนจอเงินอีกครั้งจากการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Whale พร้อมกับเฝ้ารอการกลับมาออกผจญภัยอีกครั้งในบทบาท Rick O’Connell ให้ทุกคนได้หายคิดถึง  

 

ภาพ: IMDb 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising