วันนี้ (16 ตุลาคม) ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร นำโดย เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส. จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการ แถลงผลการประชุมเรื่องร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยระบุว่า กรรมาธิการจะติดตามประเด็นของการฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากคดีนี้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
สำหรับสัปดาห์หน้า กรรมาธิการจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลในเบื้องต้น ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), ตำรวจสอบสวนกลาง, ผู้เสียหาย และผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
“เราเห็นว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงที่หลากหลาย มาจากหลายภาคส่วน ก็มีความพยายามในการหาข้อกฎหมายที่จะมีช่องให้สามารถเอาผิดกับผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ได้ ดังนั้น ถ้าการพิจารณาคดีนี้ไม่เสร็จสิ้น กรรมาธิการคณะใหญ่ก็มีแนวทางว่าจะตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อติดตามให้ถึงที่สุด เพราะฉะนั้นจึงเรียนให้กับพี่น้องประชาชนได้สบายใจว่า คณะกรรมาธิการซึ่งประกอบด้วยตัวแทนของพี่น้องประชาชนที่เป็น สส. ผู้ทรงคุณวุฒิ จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และติดตามคดีนี้จนถึงที่สุด” เลิศศักดิ์กล่าว
เลิศศักดิ์กล่าวต่อไปว่า การพิจารณาของคณะกรรมาธิการที่ผ่านมาส่งฟ้องไปที่ศาลแล้ว ยืนยันว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเยียวยาหรืออะไรก็ตาม เพราะเราเคยดำเนินการตั้งคณะอนุกรรมาธิการติดตามคดีจนถึงที่สุดมาแล้ว เช่น คดีฉ้อโกงของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อดีของการตั้งคณะอนุกรรมาธิการ เพราะต้องการให้เป็นที่พึ่งของประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ เป็นศูนย์กลางให้กับผู้เสียหาย
เลิศศักดิ์ย้ำว่า เท่าที่ทราบในขณะนี้ สภาอาจพิจารณาญัตติด่วนเรื่องนี้ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ถ้าสภามีมติอย่างใดอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการก็น้อมรับและยินดีที่จะรับไปดำเนินการ
นอกจากนี้ จากการหารือกับนักกฎหมาย กรรมาธิการได้ข้อสรุปว่า ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีกฎหมายอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรกคือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองผู้บริโภค, ส่วนที่ 2 เป็น พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง และส่วนที่ 3 เป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ยืนยันว่ามีโอกาสเข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายแน่นอน
เลิศศักดิ์ยังกล่าวถึงประเด็นคลิปเสียง ยืนยันว่าไม่มีการมาเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่ ปปง. อายัดทรัพย์สินซึ่งถูกมองว่าน้อยไป เลิศศักดิ์กล่าวว่า จากการที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นการอายัดในเบื้องต้นก่อน หลังจากนี้จะต้องรายงานไปที่คณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งอาจมีการอายัดเพิ่มเติมก็เป็นได้
“ไม่ต้องกังวล เพราะตอนนี้เส้นทางการเงินชัดแล้ว เปลี่ยนไม่ได้แล้ว เอาเงินไปไว้ตรงไหน ปปง. รู้หมด เพียงแต่ต้องให้ ปปง. ดำเนินการตามขั้นตอนไปก่อน ส่วนกรรมาธิการมีหน้าที่ติดตามการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” เลิศศักดิ์กล่าว
สำหรับบุคคลที่จะเชิญมา จะรวมไปถึงกลุ่มของนักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ด้วยหรือไม่ เลิศศักดิ์ระบุว่า การตั้งคณะอนุกรรมาธิการ ข้อดีคือสามารถเชิญบุคคลภายนอกที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องที่จะพิจารณาเข้ามาเป็นคณะอนุกรรมาธิการ และจัดตั้งที่ปรึกษาได้อีก ซึ่งจะดำเนินการเชิญบุคคลต่างๆ จนกระทั่งได้ข้อมูลข้อเท็จจริงครบทั้งหมด ยืนยันว่าเชิญแน่นอน ทั้งคนที่เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์และดารา
