กำเนิด ‘คุณแม่ลูกเกด’ ถึง ‘สงครามกลางทุ่งลาเวนเดอร์’ ย้อนรอย The Face Thailand ก่อนเจอเซอร์ไพรส์กับเมนเทอร์ใหม่ยกเชต! ในซีซัน 5

The Face Thailand เรียลิตี้โชว์เฟ้นหาผู้หญิงที่มีความสามารถรอบด้านเพื่อเข้ามาเป็นคลื่นลูกใหม่ของวงการบันเทิงได้เดินทางเข้าสู่ซีซัน 5 พร้อมกับการประกาศรายชื่อเมนเทอร์คลื่นลูกใหม่ที่จะเข้ามาขับเคี่ยวในรายการ โดยชื่อที่โดดเด่นที่สุดคือ มารีญา พูลเลิศลาภ นางแบบและนางงามดีกรี Top 5 ของการประกวด Miss Universe 2018 ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ร่วมกับ โทนี่ รากแก่น และจีน่า-วิรายา ภัทรโชคชัย (ผู้ชนะ The Face Thailand Season 4 All Stars) แต่ก่อนการแข่งขันครั้งใหม่จะเริ่มต้นขึ้น เรามาย้อนรอยกันสักหน่อยว่าในแต่ละซีซัน ใครบ้างที่เป็นเมนเทอร์เริ่ดๆ และใครที่เป็นผู้ชนะประจำซีซัน

 

 

Season 1

เรียกได้ว่าคนให้ความสนใจกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกอากาศ เพราะทุกคนคาดหวังกับเมนเทอร์ที่จะมายืนในตำแหน่งเดียวกับซูเปอร์โมเดลระดับโลกอย่าง นาโอมิ แคมป์เบลล์ เพราะจากที่หลายๆ คนได้ดูของฝั่งเมืองนอกมานั้น นาโอมิได้ฟาดฟัน จิกกัด และข่มขู่มากมายสารพัด จนทำให้เรานึกไม่ออกว่าใครที่จะมายืนตรงจุดนี้ได้

 

จนเมื่อถึงวันที่ประกาศว่า ‘เมนเทอร์’ ทั้งสามของรายการคือ ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม, พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และหญิง-รฐา โพธิ์งาม เราก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งสามจะเอารายการนี้อยู่จริงหรือ กระทั่งรายการได้เริ่มต้นขึ้น เรารับรู้ได้เลยว่านาโอมินั้นสิงอยู่ในร่างของใคร ซึ่งคนนั้นก็คือเมนเทอร์ลูกเกดนั่นเอง

 

ถึงแม้รายการจะไม่ได้ดูเหมือนต้นฉบับเสียทีเดียว แต่ถือว่าทำรายการออกมาได้สนุกและถูกจริตคนไทยจนคนบนโลกโซเชียลต่างทำมีมออกมาเพียบ! ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ อีกทั้งยังหยิบประโยคเจ็บๆ ของเมนเทอร์ที่พูดไว้ในรายการมาทำ quote แชร์ต่อบนโลกออนไลน์จนกลายเป็นกระแสไปทั่ว

 

ด้านการแข่งขันที่เกิดขึ้นก็มีความหลากหลายเข้ากับวงการบันเทิงไทย ทั้งถ่ายแบบ เดินแบบ รวมถึงการแสดงต่างๆ ที่ท้าทาย จนจบซีซันบนเวทีรอบไฟนอลวอล์ก ที่สุดรายการได้ผู้ชนะคือ ซาบีน่า ไมซิงเกอร์ จากทีมเมนเทอร์ลูกเกด เธอเป็นนางแบบลูกครึ่งไทย-ออสเตรียที่มีความครบเครื่อง และปัจจุบันซาบีน่าก็ยังคงเฉิดฉายอยู่ในวงการแฟชั่นและวงการบันเทิงไทย

 

 

Season 2

หลังจากกระแสตอบรับในซีซันแรกที่ดีแบบล้นหลาม ความสนุกที่ผู้ชมบ่นคิดถึงจึงทำให้เกิดการกลับมาของ The Face Thailand ซีซัน 2 พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเมนเทอร์ถึงสองคน ส่วนเมนเทอร์ที่ทั้งแกร่งและครบเครื่องอย่าง ‘คุณแม่ลูกเกด’ ยังคงเป็นตัวยืนและเป็นดั่งตัวสร้างสีสันที่รายการจะขาดไปไม่ได้!   

 

ด้านเมนเทอร์ผู้มาใหม่อย่าง คริส หอวัง นาทีนั้นเธอมีดีกรีนางเอกร้อยล้านจากหนังไทยโรแมนติก-คอเมดี้ รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ส่วนอีกหนึ่งเมนเทอร์ที่กลายมาเป็น ‘ตัวแม่’ อย่าง บี-น้ําทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ที่ความจริงตอนเห็นหน้าครั้งแรกเราก็งงนิดหน่อยว่าเธอจะเข้ามาต่อกรกับคุณแม่ลูกเกดในรายการได้อย่างไร

 

แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ใน The Face Thailand เพราะความเอาจริงเอาจัง ความไม่ยอมคน และความอยากเอาชนะของเมนเทอร์บีนั้นได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ความสวยหรือดูอ่อนแอเหมือนคาแรกเตอร์นางเอกหลังข่าว สุดท้ายตัวตนของเธอในรายการนั้นได้พิสูจน์แล้วว่านี่คือ ‘ตัวแม่’ คนใหม่ของรายการที่ช่วยสร้างสีสันและยกระดับให้กับซีซันที่ 2 เป็นอย่างมาก  

 

การแข่งขันได้เดินทางมาถึงรอบไฟนอลวอล์กที่แฟนรายการรอคอย ที่สุดเราก็ได้ผู้ชนะประจำซีซันเป็นสาวน้อยร่างเล็กซึ่งเป็นม้ามืดประจำรายการอย่าง ติช่า-กันติชา ชุมมะ ที่เดิมทีเธอโดนวิจารณ์มาตลอดว่าไม่สวยบ้าง เตี้ยบ้าง แต่เธอก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าการจะแจ้งเกิดในโลกบันเทิงนั้น สวยอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะนอกเหนือจากความมุ่งมั่นตั้งใจและความพยายามแล้ว เธอยังเปิดเผยให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเอง รวมไปถึงทัศนคติต่างๆ ที่ติช่าค่อยๆ เผยให้ผู้ชมได้เห็นในรายการในแต่ละสัปดาห์ และนั่นเองเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชมรักเธอ โดยมีคำพูดที่คนดูชื่นชมในอีพีสุดท้ายที่ว่า “ถ้าพี่บีบอกให้ช่าโดด ช่าจะถามว่าสูงแค่ไหน ถ้าพี่บีบอกให้ช่าดำน้ำ ช่าจะถามว่าต้องดำลึกเท่าไร” เพียงแค่นี้เธอก็ได้ใจคนดูไปเกือบทั้งประเทศ จนสุดท้ายติช่าและเมนเทอร์บีก็ได้จูงมือกันคว้าตำแหน่ง The Face Thailand ซีซัน 2 ไปครอง

 

 

Season 3

นับเป็นซีซันที่มีเรื่องราวและกฎกติกาเพิ่มขึ้นมากมายตั้งแต่ตอนที่เปิดรับสมัคร โดยเฉพาะกติกาที่เปิดโอกาสให้สาวประเภทสองได้เข้าร่วมแข่งขันด้วย ส่วนบรรยากาศในรายการนั้นเมนเทอร์ก็ดราม่ากันสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะเมนเทอร์ลูกเกดและ มาช่า วัฒนพานิช ที่กลายมาเป็นคู่ปรับที่เชือดเฉือน ปะทะฝีมือ ปะทะคารมกันทุกสัปดาห์

 

โดยช่วงแรกของรายการ เมนเทอร์ลูกเกดจะคอยจิกกัดเมนเทอร์มาช่าตามแบบฉบับของเธอที่ทำหน้านี้ได้ดีมาตลอด 2 ซีซันที่ผ่านมา แต่เมนเทอร์มาช่าเองที่เรียกได้ว่าเป็น ‘มือใหม่’ ยังไม่ประสาอะไรกับเกมทางจิตวิทยานี้

 

จนกระทั่งเข้าสู่กลางซีซัน เมนเทอร์มาช่าจึงออกโรงปกป้องลูกทีมตัวเองด้วยการฟาดฝีปากกับเมนเทอร์ลูกเกดและเมนเทอร์บีจนมีมีมเกิดขึ้นมากมายบนโลกโซเชียล ที่นิยมสุดๆ คือคำว่า “ตื่นค่ะ! อย่าอินเกิน”

 

แต่แล้วเรื่องน่าเสียดายสำหรับผู้ชมที่กำลังลุ้นการแข่งขันอันดุดันไฟลุกก็เกิดขึ้น เนื่องด้วยเหตุผลส่วนตัว เมนเทอร์มาช่าได้ขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน สุดท้ายรายการได้ปลุกเมนเทอร์คริส หอวัง กลับมาอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาคราวนี้ดูเหมือนความเครียดทุกอย่างจะตกลงมาอยู่บนบ่าของเธอแบบเต็มๆ

 

เธอได้แต่เล่นตามเกม สู้รบปรบมือกับเมนเทอร์บีจนสุดท้ายก็ถึงวันที่เมนเทอร์คริสลุกขึ้นสู้จนหยดสุดท้าย ทำให้ลูกทีมได้ครองตำแหน่งผู้ชนะไปแบบพลิกโผ นั่นก็คือ เกรซ-ณัฐธยาน์ บุญชมไพศาล สาวผิวเข้มที่ค่อยๆ โชว์เสน่ห์จากบุคลิก ความคิด และความสามารถในรายการจนโดดเด่นมากๆ ในช่วงท้ายของซีซัน ขณะเดียวกันเธอก็เชื่อสุดใจว่าเด็กผู้หญิงมั่นใจคนนี้ล่ะที่จะมาเปลี่ยนความคิดของใครหลายๆ คนในเรื่องมุมมองความสวย

 

 

Season 4 All Stars
มาถึงซีซันล่าสุด นอกจากจะรวมผู้เข้าแข่งขันทั้ง The Face Thailand และ The Face Men Thailand จากทุกซีซันมาแล้วยังรวมเมนเทอร์ตัวแม่มาอยู่ในถ้ำเดียวกันอีก ได้แก่ ลูกเกด เมทินี, บี น้ำทิพย์, คริส หอวัง และพลอย เฌอมาลย์ จากซีซันแรก รวมถึง ซอนย่า คูลลิ่ง ที่เคยมาเป็นเมนเทอร์เฉพาะกิจแทนเมนเทอร์ลูกเกดในซีซันที่ 3 และน้องใหม่ในวงการเมนเทอร์อย่าง ศรีริต้า เจนเซ่น ที่ได้เข้ามายืนในตำแหน่งตัวแม่คนใหม่ประจำซีซันด้วยอีกหนึ่งคน

 

ความสนุกที่สร้างกระแสตั้งแต่เริ่มต้นคือกติกาจับคู่เมนเทอร์ที่จะต้องเข้ามาทำงานร่วมกัน เพราะมันคือการลุ้นว่าเมื่อคู่กันแล้ว ลงท้ายจะออกมาดีหรือตีกันเอง ที่สุดผลการจับคู่ออกมาเป็น ‘ทีมลูกเกด-คริส’ ‘ทีมซอนย่า-พลอย’ และที่พีกสุดจนกลายเป็นสีสันประจำซีซันคือ ‘ทีมบี-ริต้า’ ที่หลายคนมองว่าเคมีของทั้งคู่ไม่น่าจะทำงานร่วมกันได้ และมีความเป็นไปได้มากๆ ว่าจะออกมาเละและตีกันเอง

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในรายการกลับเซอร์ไพรส์คนดูแบบสุดๆ เพราะลงท้ายแล้วเมนเทอร์ริต้าคนนี้นี่เองที่มาสร้างความดุเด็ดเผ็ดมันและเปลี่ยนบรรยากาศของรายการให้กลายเป็นสงครามกลางทุ่งลาเวนเดอร์

 

เมนเทอร์ริต้าโดดเด่นทั้งการสอน ไหวพริบ การวางแผน สำคัญที่สุดคือเธอทำมันไปพร้อมๆ กับให้กำลังใจและเพิ่มพลังบวกให้กับลูกทีม

 

แต่ความดราม่าไม่ได้จบแค่ในจอ ด้วยความรักของแม่ถึงลูก เมนเทอร์พลอยกลับประกาศถอนตัวออกจากรายการ เนื่องจากทนไม่ได้กับเกมที่ดูจะดราม่าไปมากกว่าการหาเด็กสาวมาประดับวงการ จึงทำให้ซอนย่าต้องคอยแบกรับลูกทีมทั้งหมดเพียงลำพัง ท้ายที่สุดรายการก็ได้ผู้ชนะประจำซีซันคือ จีน่า-วิรายา ภัทรโชคชัย อดีตผู้เข้าแข่งขันจาก The Face Thailand ซีซัน 2 ที่การกลับมาคราวนี้เธอได้แสดงทั้งศักยภาพและความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะออกมาตลอดตั้งแต่การแข่งขันรอบแรกจนกระทั่งจบรอบไฟนอลวอล์ก อีกทั้งยังเป็นตัวแม่ของการหมุนตัวแบบ ‘ฟูลเทิร์น’ ในรายการอีกด้วย  

 

 

Season 5

โดยซีซันนี้มีเซอร์ไพรส์เปิดตัวเมนเทอร์ใหม่ยกทีม และเป็นที่รู้กันว่า มารีญา พูลเลิศลาภ คือสาวงามผู้ครองตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2018 และมีดีกรี Top 5 ของการประกวด Miss Universe 2018

 

มารีญามีความสามารถหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นนักร้องเจ้าของผลงานเพลง บุ๋ง และยังเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการแฟชั่นไทยอีกด้วย ถึงแม้เธอจะไม่เคยเป็นเมนเทอร์มาก่อน แต่จากการสั่งสมประสบการณ์จากเวทีใหญ่จนเรียกได้ว่าครบรส และเธออาจจะเป็นม้ามืด ‘ตัวแม่’ คนใหม่เหมือนที่เมนเทอร์บีและเมนเทอร์ริต้าเคยทำมาแล้วก็เป็นได้!

 

โทนี่ รากแก่น นักแสดงชายสไตล์ดีที่เราเพิ่งเห็นหน้าค่าตาไปหยกๆ กับการเป็นหนึ่งในเมนเทอร์ของ The Face Men Thailand ซีซัน 2 ซึ่งโทนี่เองก็ทำหน้าที่เมนเทอร์ได้ดี ทั้งความเข้าอกเข้าใจลูกทีม ทั้งเรื่องของสไตล์แฟชั่นล้ำๆ ไม่แพ้ หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา หรือซอนย่า คูลลิ่ง เลยทีเดียว เราเชื่อว่าโทนี่จะสามารถพาลูกทีมของเขาใน The Face Thailand ซีซัน 5 ไปได้ไกลอย่างแน่นอน

 

จีน่า-วิรายา ภัทรโชคชัย และแบงค์-อนุสิทธิ์ แสงนิ่มน่วม (The Face Men Thailand ซีซัน 1) เรียกว่ามากันแบบแพ็กคู่ไปเลยทีมนี้ ไม่รู้ว่าจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แต่คิดว่าทั้งสองคนก็มีประสบการณ์มากพอ ต่อให้จะไม่ได้ผ่านงานในวงการบันเทิงมานานเท่าทีมอื่นๆ แต่ถ้าในรายการก็เรียกได้ว่าเป็น ‘ตัวแม่ฟูลเทิร์น’ เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ดี เราคงต้องจับตามองกันว่าทีมนี้จะเข้าขากันอย่างลงตัวหรือตีกันแบบไม่มีใครยอมใครกันแน่

 

แค่เปิดตัวทีเซอร์มาก็ทำเอาขนลุกแล้ว บอกเลยว่าเมนเทอร์ทุกคนไม่ได้มาเล่นๆ เตรียมจับเข่ารอดู The Face Thailand ซีซัน 5 ในวันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ ทางช่อง 33HD

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์