×

‘เงินบาท’ เปิดตลาดแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับ 32.38 ต่อดอลลาร์ เหตุฟันด์โฟลวไหลเข้าหนัก

15.02.2022
  • LOADING...
เงินบาท

‘เงินบาท’ ยังคงทยอยแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) เคลื่อนไหวที่ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ จากฟันด์โฟลวที่ไหลเข้ามาจำนวนมาก ด้านนักวิเคราะห์ประเมินโอกาสการแข็งค่าต่อเริ่มมีจำกัด หลังตลาดเริ่มปิดรับความเสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน 

 

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนขยับตัวแข็งค่ามาอยู่ที่ 32.38 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.53 บาทต่อดอลลาร์ นับเป็นการทยอยแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

 

ตลาดการเงินยังคงผันผวนรุนแรงและไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่อาจบานปลายสู่สงครามได้ นอกจากนี้ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ Fed สาย Hawk อย่าง เจมส์ บูลลาร์ด ที่ยังคงออกมาสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ผู้เล่นในตลาดสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ส่งผลให้ดัชนีหุ้น S&P 500 ปรับตัวลง -0.49% ส่วนดัชนีหุ้นเทค Nasdaq แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยถึงแม้หุ้นเทคจะเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้ม Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด แต่ความเสี่ยงปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ แกว่งตัวใกล้ระดับ 1.98% ต่อ 

 

ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX 50 ของยุโรป ปรับตัวลดลงกว่า -2.18% จากความกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่อาจนำไปสู่สงครามได้ทุกเมื่อ โดยแรงเทขายหนักกระจุกตัวในหุ้นกลุ่ม Cyclical ที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มการเงิน BNP Paribas -4.9%, ING -3.9%, Santander -3.9% ทั้งนี้ เรามองว่ายังคงต้องติดตามการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน/NATO ระหว่างผู้นำเยอรมนีกับผู้นำรัสเซียในวันนี้ โดยมองว่าหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงและนำไปสู่การถอนกำลังทหารจากทุกฝ่ายออกจากพื้นที่ ก็จะเป็นสัญญาณที่ดีและอาจช่วยหนุนให้ตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น

 

ส่วนทางด้านฝั่งตลาดบอนด์ก็เผชิญความผันผวนเช่นกัน โดยบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทะลุระดับ 2.00% อีกครั้ง จากแนวโน้ม Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี ความกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่อาจบานปลายสู่สงครามได้กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.98% สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้มาก เนื่องจากตลาดยังคงเผชิญความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน

 

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จากทั้งความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความเสี่ยงที่อาจจะเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมถึงแนวโน้ม Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด ทำให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 96.29 จุด 

 

อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากความกังวลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน 

 

ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาทองคำจะส่งผลให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้ามาขายทำกำไรทองคำมากขึ้น ซึ่งโฟลวธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนที่จะช่วยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ แม้ตลาดโดยรวมจะยังปิดรับความเสี่ยงก็ตาม

 

สำหรับวันนี้ ตลาดจะเฝ้าระวังและติดตามปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนและชาติพันธมิตร NATO อย่างใกล้ชิด หลังการเจรจาล่าสุดระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำรัสเซียยังไม่ประสบความสำเร็จในการลดความตึงเครียด ทำให้ยังมีความเสี่ยงที่ความขัดแย้งอาจบานปลายสู่สงครามและกดดันให้ตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยงได้ 

 

อนึ่ง ควรจับตาการเจรจาระหว่างผู้นำรัสเซียกับผู้นำเยอรมนีในวันนี้ ว่าจะสามารถช่วยลดความตึงเครียดได้หรือไม่ เพราะในอดีตที่ผ่านมา ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนในช่วงปี 2014-2015 ก็สามารถคลี่คลายลงได้จากการเข้ามาร่วมเจรจาของผู้นำเยอรมนีและผู้นำฝรั่งเศส

 

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท พูนมองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจเริ่มจำกัดลงและเงินบาทจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบ Sideways เพราะแม้ว่า เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นมากกว่าที่เราคาดจนหลุดแนวรับที่ได้ประเมินไว้ จากฟันด์โฟลวนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้อทั้งหุ้นไทยและบอนด์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงโฟลวธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ทว่าแนวโน้ม Fed เร่งขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็ยังคงกดดันให้ตลาดปิดรับความเสี่ยงและหนุนให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งเรามองว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดนั้น จะช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทในระยะสั้นได้ 

 

อย่างไรก็ดี ควรจับตาแนวโน้มฟันด์โฟลวนักลงทุนต่างชาติว่ายังคงเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยสุทธิต่อเนื่องหรือไม่ รวมถึงทิศทางของราคาทองคำ ซึ่งหากราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เราเชื่อว่าผู้เล่นในตลาดก็ยังคงทยอยขายทำกำไรต่อและโฟลวธุรกรรมดังกล่าวก็จะช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น 

 

นอกจากนี้ พูนยังคาดการณ์ด้วยว่า ฝั่งผู้นำเข้าต่างจะมารอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในช่วง 32.40 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ระดับดังกล่าวยังเป็นโซนแนวรับที่สำคัญได้ในระยะสั้นนี้ ส่วนฝั่งผู้ส่งออกอาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วง 32.80 จนถึง 33.00 บาทต่อดอลลาร์ 

 

สำหรับกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.35-32.55 บาทต่อดอลลาร์

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising