วานนี้ (26 มีนาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์จดหมายเปิดผนึกลงบนเพจเฟซบุ๊กถึง วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กรณีออกคำสั่งเตือนว่าการพัฒนาหลักสูตร Coding เทศบาลตำบลด่านสำโรงโดยคณะก้าวหน้าอาจผิดกฎหมาย โดยธนาธรืนยันว่าอย่าเอานำการเมืองมาถ่วงความเจริญพื้นที่ พร้อมขอเข้าพบพูดคุยปรับความเข้าใจกับผู้ว่าฯ โดยไลฟ์เปิดเผยต่อประชาชน
ธนาธรระบุว่า คณะก้าวหน้าทำงานร่วมกับเทศบาลตำบลด่านสำโรงในเรื่องการศึกษา เพื่อให้โรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรงได้มีหลักสูตรการเขียนโปรแกรมและการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ สำหรับนักเรียน ป.4 – ป.6 โดยมีการจัดอบรมครูผู้สอนพร้อมเชิญวิทยากรจากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นผู้บรรยาย เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา
แต่หลังจากสิ้นสุดบรรยายได้เพียง 2 วัน วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กลับมีการส่งหนังสือ ‘ด่วนที่สุด’ หานายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีนคร และนายกเทศมนตรีเมืองทุกแห่งในจังหวัดสมุทรปราการ ขู่ว่าการนำบุคลากรภายนอกมาจัดอบรมในโรงเรียนอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ส่อเจตนาว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการอาจต้องการสกัดกั้นการทำงานของคณะก้าวหน้า
“ถ้าประชาชนเห็นว่าการทำงานของคณะก้าวหน้าไม่มีประโยชน์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเขาก็ไปเลือกคนอื่น ขอให้คุณวันชัยเคารพการตัดสินใจของประชาชน ให้ประชาชนได้เลือกและตัดสินใจด้วยตัวของเขาเอง” ธนาธรระบุ
ธนาธรกล่าวด้วยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการควรตระหนักว่านักเรียนในโรงเรียนอนุบาลเทศบาลด่านสำโรงส่วนใหญ่มาจากครัวเรือนที่มีฐานะปานกลางถึงยากจน ผู้ปกครองเป็นพนักงานในโรงงาน บริษัทเอกชน หรือค้าขายในตลาด การเตรียมนักเรียนให้เท่าทันโลกมีความสำคัญต่อการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การจำกัดสกัดกั้นการทำโครงการห้องเรียนเทคโนโลยีของเทศบาลด่านสำโรงจึงไม่เป็นประโยชน์ต่อครู นักเรียน พ่อแม่ ชุมชน และอนาคตของด่านสำโรงเลย
ในส่วนประเด็นกฎหมายที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการกล่าวอ้าง เป็นการอ้างอย่างผิดฝาผิดตัว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเป็นอิสระเรื่องการบริหารงานบุคคล ใช้ดุลยพินิจเลือกจัดอบรมบุคลากรในสังกัดได้ หากเกี่ยวกับการพัฒนาหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ศาลปกครองสูงสุดได้เคยมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.291/2546 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.61/2549 ว่าการออกหลักเกณฑ์ของกระทรวงมหาดไทย ห้ามท้องถิ่นจัดอบรมบุคลากรด้วยตนเอง เป็นการออกหลักเกณฑ์ที่ขัดต่อความเป็นอิสระของเทศบาล ปัจจุบันท้องถิ่นจึงสามารถจัดส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมที่จัดขึ้นทั้งโดยเอกชน มูลนิธิ สมาคมต่างๆ และสามารถเชิญบุคคลมาบรรยายให้ความรู้แก่บุคลากรได้ การอบรมโดยคณะก้าวหน้าที่ผ่านมาทั้งหมดก็ทำมาแล้วในหลายจังหวัดโดยไม่มีปัญหาใดๆ
ธนาธรระบุต่อไปว่า เพื่อปรับความรับรู้ความเข้าใจต่อกัน ตนจึงขอเวลาเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมถ่ายทอดสดการสนทนาให้ประชาชนรับทราบ และอาจเชิญผู้บริหารเทศบาลเข้าร่วมด้วย
“การใช้อำนาจหน้าที่อย่างเลือกปฏิบัตินั้น นอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังเสียโอกาสในการพัฒนาสังคม เรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์ เราสามารถหาจุดร่วมกันได้ ผมเชื่อว่าองค์ความรู้และประสบการณ์ของคณะก้าวหน้ามีประโยชน์และช่วยพัฒนาประเทศได้อีกมาก ส่วนที่เราเห็นต่างกันนั้น ผมขอให้ท่านใช้กระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งเป็นกลไกหาทางออกอย่างสันติตามครรลองที่ระบอบประชาธิปไตยควรจะเป็น” ธนาธรกล่าวทิ้งท้าย
