จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในบริเวณภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย ส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจ ซึ่งมีการประเมินกันไว้ว่าอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากถึง 3 แสนล้านบาท
ในมุมมองของ อมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสด ภายใต้ชื่อ ‘ธนพิริยะ’ ซึ่ง ณ สิ้นปี 2566 มีสาขาอยู่ในเชียงราย 35 แห่ง พะเยา 6 แห่ง และเชียงใหม่ 4 แห่ง มองว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่ทำธุรกิจอยู่ในพื้นที่มากว่า 30 ปี
“อยู่ในพื้นที่มากว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นแบบนี้ ความเสียหายน่าจะค่อนข้างกว้างมากและกระทบกับชาวบ้านค่อนข้างหนัก หลังจากนี้อยากให้ภาครัฐเข้ามาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในวงกว้าง”
สำหรับธุรกิจของธนพิริยะถือว่าได้รับผลกระทบไม่มากนัก โดยมีสาขาที่ต้องปิดเพราะถูกน้ำท่วมเพียง 1 แห่ง และปิดชั่วคราวเนื่องจากไม่สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ได้อีก 2 แห่ง แต่คาดว่า 2 แห่งนี้น่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ดี อมรคาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมน่าจะเริ่มทุเลาลงหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม แต่ด้วยสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้การขนส่งในจังหวัดยังทำได้ลำบาก โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าจากภายนอกเข้ามา
สำหรับธุรกิจของธนพิริยะ เนื่องจากขายสินค้าจำเป็น ทำให้ “ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก กลับกันในหลายสาขากลับมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ เราโชคดีที่มีคลังเก็บสินค้าภายในจังหวัดที่ไม่ได้ถูกน้ำท่วม”