ทีเอ็มบีธนชาตจับมือธนชาตประกันภัย รุกตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ เปิดตัวประกัน รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) และไฮบริด รับกระแสนิยมรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นต่อเนื่อง คิดเบี้ยเริ่มต้น 25,300 บาท เผยเล็งเพิ่มรับประกันรถ EV อีกหลายรุ่นในอนาคต
ชวมนต์ วินิจตรงจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์พันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า กระแสความนิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบไฮบริด (Hybrid) และไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) ในไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบีระบุว่า ยอดขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าปี 2565 แตะ 8.4 หมื่นคัน หรือขยายตัว 539.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากอานิสงส์มาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับสูงต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังเฟื่องฟู แต่ความหวือหวานี้จะอยู่ได้นานอีกเท่าไร?
- รู้จัก BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชื่อนี้ ที่ Tesla อยากได้ และกำลังจะเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นครั้งที่ 3
- เปิดตัว ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ THE NEW BMW i7 ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท วิ่งไกลสุด 625 กม./ชาร์จ
อย่างไรก็ดี จากการที่รถ EV ยังเป็นประเภทรถยนต์ที่ค่อนข้างใหม่ ทำให้กลุ่มธุรกิจประกันภัยผ่านช่องทางธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) ยังมีตัวเลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้าไม่มากนัก ธนาคารจึงพัฒนาประกันรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาเพื่อเป็นโซลูชันตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้าเพื่อให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น
“เราเชื่อมั่นว่าประกันรถยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อต่อยอดให้รับประกันเพิ่มในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า EV และ PHEV ยี่ห้อ HAVAL, MG และ VOLVO ด้วยเบี้ยฯ เริ่มต้น 25,300 บาท จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากฐานลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารที่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ผ่านสาขาทีทีบีที่มีมากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ และในอนาคตยังมีแผนจะขยายการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมอีก” ชวมนต์กล่าว
ด้าน วิชินี โอรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขาย บริษัท ธนชาตประกันภัย กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับทางทีทีบี ธนชาตประกันภัยได้วิจัยผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าในตลาด และพัฒนาประกันรถยนต์ประเภท 1 ‘มอเตอร์ 1 ซิงเกิ้ล เรท จัดเต็ม’ เพื่อรองรับรถ EV เนื่องจากพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีความกังวล 2 เรื่องหลัก คือ
- ความชัดเจนเรื่องค่าเบี้ยประกันภัย บริษัทจึงมีการออกแบบค่าเบี้ยประกันภัยที่เป็นมาตรฐานให้มีราคาเดียวในแต่ละรุ่น เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย ไม่ต้องรอคำนวณ
- ความกังวลด้านการใช้งานที่ไม่เหมือนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เช่น รถใช้งานไม่ได้ระหว่างขับขี่ จึงมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกันยังเพิ่มความคุ้มครองภายหลังอุบัติเหตุรถชนให้ลูกค้าอุ่นใจยิ่งขึ้น โดยมีเงินชดเชยรายได้ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,500 บาทต่อวัน ไม่เกิน 30 วัน สูงสุด 7 คน และเงินชดเชยค่าเดินทางกรณีส่งรถเข้าซ่อม 1,500 บาทต่อครั้ง ได้ถึง 3 ครั้งต่อปี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก และหากต้องการรถยนต์ใช้ระหว่างซ่อม มีการประสานกับพันธมิตรชั้นนำแนะนำบริการรถเช่าที่มีคุณภาพในราคาพิเศษ
“เรามีความพร้อมดูแลลูกค้าประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท จึงอยากให้ลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าเชื่อมั่นว่าจะได้รับการดูแลที่ดีตามมาตรฐาน สามารถแจ้งอุบัติเหตุผ่านช่องทาง Line Official Account ‘ธนชาตประกันภัย’ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงกดแจ้งเคลมและส่งพิกัดจุดเกิดอุบัติเหตุ ก็จะได้รับงานบริการโดยเร็วที่สุดจากศูนย์อำนวยการช่วยเหลือ (War Room) ที่มีเจ้าหน้าที่ซึ่งผ่านการอบรมและมีความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยี EV โดยเฉพาะ” วิชินีกล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะขยายความพร้อมในการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต โดยมีโปรแกรมยกระดับงานบริการดูแลงานซ่อมของรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับอู่รถยนต์ในเครือที่มีกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นการสนับสนุนและตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
