ไม่ต้องจองคิวข้ามเดือนก็ฟินกับเนื้อไทยดีๆ ได้ที่ ‘ท่านขุน’

ข่าวดีสำหรับคนรักเนื้อ เพราะตอนนี้มีอีกหนึ่งร้านที่เราอยากแนะนำ ทั้งราคาดี มีเมนูหลากหลาย เดินทางสะดวก และที่สำคัญคือไม่ต้องรอคิวนาน เรากำลังพูดถึง ‘ท่านขุน’ ร้านเนื้อไทยเล็กๆ บรรยากาศย้อนยุคที่ตั้งอยู่บริเวณหอพักยูเซ็นเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านหลังสามย่านมิตรทาวน์นี่เอง

แม้ร้านจะเล็ก ทว่าคับคั่งไปด้วยลูกค้าทั้งกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ครอบครัว และก๊วนเพื่อนฝูงที่ชื่นชอบการรับประทานเนื้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัวร้านมาในบรรยากาศย้อนยุค เราได้ยินเสียงเพลงไทยเดิมและลูกกรุงดังมาเป็นระยะๆ เข้ากับข้าวของเครื่องใช้ โต๊ะเก้าอี้ไม้ เครื่องจักสาน ครัวเปิด และคอนเซปต์การทำอาหารที่เน้นความเป็นครัวสมัย ร.5 หรือปราศจากน้ำมันหอยในการปรุงอาหารนั่นเอง

ความตั้งใจของท่านขุนคือการทำอาหารที่ดีให้คนไทยได้รับประทาน ไม่ทำร้ายสุขภาพ และเป็นอาหารที่อร่อยจากตัวของวัตถุดิบมากกว่าเครื่องปรุงรส ด้วยเหตุนี้ข้าวของที่ทางร้านใช้จึงเน้นเฉพาะผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลมะพร้าวจากอัมพวา น้ำมันรำข้าว น้ำปลาแท้ และไม่ใช้ผงชูรสหรือน้ำมันหอยแม้แต่น้อย

ในส่วนของเนื้อวัว ที่นี่ใช้เนื้อไทยหลายสายพันธุ์ เช่น ชาร์โรเลส์, ไทย-เฟรนช์, ไทย-วากิว และพิคานย่าแองกัส และชูโรงเรื่องการใช้ Secondary Cut แทนที่จะเป็น Prime Cut แบบร้านเนื้อทั่วไป หากไม่สันทัดเนื้อก็มีเมนูที่ทำจากหมูออร์แกนิกให้ลิ้มลองเช่นกัน

Secondary Cut ที่ทางร้านใช้คือส่วนของชายท้อง (Bavette) และกะบังลม (Harami) เนื้อชายท้องเหมาะสำหรับการย่างที่ความสุกระดับมีเดียมหรือมีเดียมเวลมากกว่ามีเดียมแรร์ ส่วนเนื้อกะบังลมมักจะใช้ในร้านปิ้งย่าง ส่วนนี้ย่างรับประทานได้ทุกระดับความสุกตามความชอบของผู้รับประทาน

อาหารรองท้องลองสั่ง ยำเนื้อ (250 บาท) มากินเล่นกันก่อน เนื้อชาร์โรเลส์สไลซ์บาง ย่างไฟกำลังดี ราดน้ำยำสูตรพิเศษ รับประทานเพลินระหว่างรอจานหลัก

ข้าวหน้าเตาถ่าน คืออาหารจานเดียวที่ทางร้านแนะนำ มีเนื้อให้เลือกหลายแบบ พร้อมท็อปปิ้งและเอ็กซ์ตร้าเนื้อในกรณีที่อยากเพิ่มโปรตีน

ข้าวหน้าเนื้อท่านขุนกับไข่ข้น (260 บาท) เนื้อสดส่วนชายท้องที่ไม่ผ่านการหมักใดๆ นำไปย่างบนถ่านอัดด้วยไฟแรง เบิร์นให้ผิวไหม้ แล้วโรยเกลือ พริกไทย และเครื่องเทศสูตรพิเศษ ก่อนที่จะท็อปด้วยไข่ข้นสัมผัสนุ่มอย่างอเมริกัน หนักเนย รสเข้มข้น เข้ากับเนื้อสุดๆ เหยาะน้ำจิ้มแจ่วนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น

หรือจะสั่งเป็น ข้าวหน้าเนื้อสันสะโพกกับไข่ดิบ (220 บาท) เราก็ว่าเวิร์กเหมือนกัน และไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด เพราะทางร้านใช้ไข่ไก่คุณภาพสูงที่สามารถรับประทานดิบได้และไร้กลิ่นคาวแน่นอน

ถ้าไม่เน้นคาร์บ ข้ามไปที่สเต๊กกันโลด ทีโบนเจ้าพระยา (970 บาท) เต็มอิ่มกับเนื้อชาร์โรเลส์ไทย-เฟรนช์ น้ำหนักกว่าครึ่งกิโลกรัม ย่างแบบมีเดียมแรร์ ที่ยังคงความฉ่ำและนุ่มลิ้น เสิร์ฟพร้อมดอกเกลือ มะเขือเทศเชอร์รีย่าง สับปะรดภูเก็ตย่างจนเนื้อฉ่ำๆ และกะหล่ำปลีผัด

เนื้อกะบังลมชาร์โรเลส์ (100 กรัม 230 บาท / 200 กรัม 380 บาท) หรือ เนื้อชายท้องชาร์โรเลส์ (100 กรัม 240 บาท / 200 กรัม 390 บาท) เนื้อคัตส่วนรองที่หารับประทานค่อนข้างยากและไม่นิยมเสิร์ฟ เพราะไม่เป็นที่ต้องการของตลาดทั่วไป แต่ที่ท่านขุน เนื้อส่วนนี้ถูกนำเสนอและย่างมาอย่างดีจนหากไม่บอกว่านี่คือเนื้อส่วนรองก็คงไม่เชื่อ ด้วยคุณภาพ รสชาติ และราคาที่จับต้องได้ เราว่าคุณควรลองชิมด้วยตัวเองดูสักครั้ง เพียงแค่จิ้มดอกเกลือเล็กน้อยหรือเหยาะน้ำจิ้มแจ่วนิดหน่อยก็ฟินแล้ว หากจะขยับขึ้นมาพรีเมียมหน่อยก็ลองสั่ง เนื้อเซอร์ลอยน์ไทย-วากิว (250 กรัม 570 บาท) หนานุ่มชุ่มลิ้น ดีงามไม่แพ้เนื้อนอกเลยทีเดียว

ข้าวกะเพราหมูนุ่ม (95 บาท) เมนูสำหรับคนไม่กินเนื้อ สันคอหมูออร์แกนิกสไลซ์พอดีคำ ผัดซอสกะเพราสูตรเฉพาะและสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม และพริกไทย) รับประทานคู่กับ ยำวุ้นเส้นทรงเครื่อง (120 บาท) ก็เข้าท่า วุ้นเส้นเหนียวนุ่มคลุกเคล้าน้ำมันกระเทียมเจียว กุ้งแห้งทอด หมูสับ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และน้ำยำ รสชาติไม่เผ็ดจัด รับประทานเพลินตัดรสชาติอาหารจานอื่นได้ดี