×

จับตาทักษิณเข้าพรรคเพื่อไทย เศรษฐาติดภารกิจช่วงบ่าย สุริยะเข้าพบแน่นอน เชื่อสร้างกำลังใจให้ลูกพรรค

โดย THE STANDARD TEAM
26.03.2024
  • LOADING...

วันนี้ (26 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงโอกาสที่จะได้พบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลา 13.00 น. ว่าช่วงบ่ายวันนี้ตนไม่สามารถเดินทางเข้าไปพรรคเพื่อไทยได้เพราะเป็นเวลาราชการ และในช่วงเย็นก็มีภารกิจสำคัญ หลังจากนั้นตนจะเดินทางไปชมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติเกาหลีใต้ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

 

ขณะที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ทักษิณเข้าพรรคเพื่อไทยจะเจอได้ยังไง ตนเองยังไม่พบในวันนี้ ส่วนในอนาคตต้องได้เจอกันอยู่แล้ว ไม่เจอได้ยังไง จะไม่เจอกันทั้งชาติเลยเหรอ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่

 

สุริยะคอนเฟิร์มร่วมต้อนรับ-เตรียมขอคำแนะนำพัฒนากระทรวงคมนาคม

 

ด้าน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันนี้ตนเองเข้าที่ทำการพรรคแน่นอน และก็ทราบข่าวว่าจะมี สส. จำนวนมากเข้าไปที่พรรค ซึ่งมากกว่าทุกๆ ครั้ง เพราะทุกคนมีความรู้สึกอยากจะต้อนรับทักษิณด้วยความอบอุ่น เพราะท่านเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ความสำเร็จของพรรค

 

สุริยะกล่าวต่อว่า ตนเองในฐานะคนที่ได้เคยทำงานร่วมกับทักษิณมาตั้งแต่ 25 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นตนเป็นเลขาธิการพรรค และทักษิณเป็นหัวหน้าพรรค ก็ช่วยกันทำให้กระทรวงคมนาคมในยุคนั้นมีผลงานสำเร็จ โดยเฉพาะการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ที่สร้างสำเร็จตรงเวลา และได้รับการจัดอันดับเป็นสนามบินที่ดีอันดับต้นๆ ฉะนั้นตนคิดว่าถ้ามีโอกาสกระทรวงคมนาคมก็คงจะไปขอคำปรึกษาว่าจะทำอย่างไรให้สนามบินสุวรรณภูมิกลับมาติดอันดับโลกให้ได้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในเรื่องระบบรางและการทำถนนที่ต้องพัฒนา

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ทักษิณกลับมาจะทำให้พรรคเพื่อไทยยิ่งใหญ่เหมือนปี 2548 หรือไม่ สุริยะกล่าวว่า ตนเชื่อว่าสิ่งที่อดีตนายกฯ ทำสำเร็จแต่คนรุ่นใหม่อาจจะยังไม่รับรู้ ก็คือการแก้ไขปัญหาวิกฤตต้มยำกุ้ง ผลงานของท่านก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถจับต้องได้ ฉะนั้นประสบการณ์ของท่านก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่เราต้องเรียนรู้และนำมาใช้ พร้อมทั้งยอมรับว่าการเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยในวันนี้จะทำให้ สส. ของพรรคเพื่อไทยมีกำลังใจที่ดีขึ้นแน่นอน

 

ทวี​ย้ำ เงื่อนไข​พักโทษ​ไม่ห้ามเคลื่อนไหวการเมือง​

 

ส่วน พ.ต.อ. ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม​ กล่าวถึงกรณีทักษิณเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย​จะทำให้เป็นประเด็นทางสังคม และเป็นเป้าทางการเมืองในการอภิปรายทั่วไป​ ตามมาตรา 152 ว่า​คงเป็นการอภิปรายคล้ายกับสมาชิกวุฒิสภา​ (สว.) แต่อาจจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นกว่า

 

ส่วนจะทำให้สังคมเคลือบแคลงใจหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี​ กล่าวว่า​ ปกติเราจะดูแค่หลักเกณฑ์การคุมประพฤติ การพักโทษก็อยู่ในเรื่องของโทษของกรมราชทัณฑ์​ ยังอยู่ในเงื่อนไขของการเป็นนักโทษ เพราะกรมราชทัณฑ์จะไปลดโทษให้ใครไม่ได้​ แต่มีกระบวนการเรียกว่าการบริหารโทษ การพักโทษหรือการใช้ที่คุมขังอื่นในกฎหมายกรมราชทัณฑ์และกฎกระทรวง

 

พ.ต.อ. ทวี กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลเป็นที่คุมขัง ซึ่งนักโทษเมื่อไปนอนที่โรงพยาบาลเราก็หักจากการต้องโทษ แต่ถ้าหากถามนักโทษอยู่โรงพยาบาลกับเรือนจำนักโทษอยากอยู่เรือนจำมากกว่า อยู่โรงพยาบาลสภาพลำบาก เหมือนเราไปอยู่โรงพยาบาล​ ส่วนการเคลื่อนไหวอื่นๆ กรมคุมประพฤติมีข้อห้าม คือห้ามไปมั่วสุมยาเสพติด และห้ามไปเยี่ยมนักโทษด้วยกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ มีสิทธิและเสรีภาพ โดยกรมคุมประพฤติมีหน้าที่ควบคุมดูแล โดยในกฎกระทรวงไม่ได้เขียนเงื่อนไขการพักโทษว่าห้ามเกี่ยวข้องกับการเมือง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ากรณีทักษิณมีการตั้งข้อสังเกตถึงมาตรฐานของขบวนการยุติธรรม จะชี้แจงต่อสังคมอย่างไร พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า​ กระบวนการยุติธรรมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญบอกให้รัฐต้องปฏิบัติตามกฎหมาย​ หากทำนอกกฎหมายถือเป็นการทำตามอำเภอใจ อย่างที่ตนพูด การถูกกฎหมายต้องพยายามพัฒนากฎหมาย​ในบางช่วงที่ออกมาก่อน จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นใหม่จะต้องมีการแก้ไข อย่างเช่นกฎหมายราชทัณฑ์ ซึ่งหากดูจริงๆ กฎหมายของกรมราชทัณฑ์เกิดจากสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ​ (สนช.) เป็นผู้ร่าง​ในปี​ 2559 และมีการประชุมถึง 21 ครั้ง จนวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ออกมาเป็นกฎหมายราชทัณฑ์​ ปี 2560 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่นำกฎหมายลูกมาใส่

 

ทั้งนี้ ภายหลัง สมศักดิ์​ เทพสุทิน​ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น​มาออกเป็นกฎกระทรวง ซึ่งเดิมถ้าออกเป็นแพ็กเกจใหญ่จะเป็นการคิดในห้องแอร์เกินไป​ ผู้ปฏิบัติอาจจะลำบาก ถึงได้แยก​ออกมา เช่น การรักษาพยาบาล การไปที่คุมขังอื่น หรือการพักโทษ เป็นขั้นตอนไป​

 

พ.ต.อ. ทวี ยืนยันว่า กฎหมายถูกร่างมาโดย สนช. และเป็นกฎหมายที่เกิดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งตนก็มาปฏิบัติตาม หากดูดีๆ คนราชทัณฑ์แทบไม่มีอำนาจ เช่น การพักโทษ ก็มีคณะกรรมการพักการลงโทษ มีปลัดกระทรวงยุติธรรม และมีข้าราชการอื่น รวมถึงจากศาลยุติธรรม เป็นคณะกรรมการ ถ้าเรายอมรับกติการัฐต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าปฏิบัตินอกกฎหมายเราถือว่าไม่ใช่หลักนิติธรรม

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรมราชทัณฑ์​จะต้องเตือนทักษิณ​ให้เคลื่อนไหวทางการเมืองน้อยลงหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เราเคารพในความคิดเห็นที่หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี กระทรวงยุติธรรมคงไม่มีหน้าที่ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว นอกจากภารกิจหน้าที่ที่เรารับผิดชอบ ส่วนที่ผ่านมามีนักการเมืองที่ถูกพักโทษเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับทักษิณหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า คนพักโทษแต่ละปีมีเป็นหมื่น แต่อาจจะไม่มีสื่อไปตาม​ ซึ่งมองว่าจากรายงานที่กรมคุมประพฤติส่งมาเมื่อคืนนี้ ทักษิณก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกอย่าง​

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหนักใจหรือไม่ที่ทักษิณมีการเคลื่อนไหวเดินทางในหลายพื้นที่ ซึ่งถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า อยากให้สังคมแยกส่วน กระทรวงยุติธรรมไม่ได้หนักใจ เมื่อวานนี้ครบ 133 ปี​กระทรวงยุติธรรม ที่เราจะมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้คนทุกคนได้รับความยุติธรรมถ้วนหน้า ซึ่งคำว่ายุติธรรมอาจเป็นนามธรรมเกินไป ต้องทำตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่บัญญัติไว้ก่อน​ ส่วนกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรมก็ต้องแก้ไข แต่ในที่สุดก็ต้องให้สภาผู้แทนราษฎร รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นงานสภาที่มาจากผู้ที่ถูกแต่งตั้ง โดยเฉพาะคนในสภาเมื่อวานส่วนใหญ่ก็เป็นคนร่าง ​พ.ร.บ.ราชทัณฑ์​ฉบับนี้ทั้งหมด

 

วราวุธ​มอง​ไม่ผิด แวะทักทายมิตรสหาย​ เยี่ยมที่ทำงานลูกสาว

 

ขณะที่ วราวุธ​ ศิลปอาชา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา​ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทักษิณ​เป็นพ่อของ แพทองธาร​ ชินวัตร​ หัวหน้า​พรรค​เพื่อ​ไทย​ พร้อมกับมองถ้าพ่อไปที่ทำการพรรคของลูกไม่ได้คงผิดปกติ อีกทั้งพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเก่าแก่ ซึ่งทักษิณมีส่วนร่วมในการก่อตั้งพรรค จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเข้าไปทักทายเพื่อนสนิทมิตรสหายที่เคยร่วมทำงานกันมา

 

ส่วนทางการเมืองนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าพรรค​ ถ้าจะส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อม​ ซึ่งตนมองว่าระดับทักษิณนั้นอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้ ไม่จำเป็นต้องไปที่ทำการพรรค​ และคิดว่าการที่ทักษิณเดินทางไปพรรคเพื่อไทย​คงเป็นเพียงการเข้าไปทักทาย​เพื่อนสนิทมิตรสหายและในฐานะพ่อของแพทองธาร​

 

ส่วนการเข้าไปของทักษิณจะเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น วราวุธ​ได้ยกตัวอย่างตนกับ ​กัญจนา​ ศิลปอาชา​ ซึ่งเป็นพี่สาว ซึ่งไม่ต่างกันกับกรณีของทักษิณที่เดินทางเข้าที่ทำการพรรค​ คงไม่ใช่เป็นการครอบงำพรรค​ โดยเชื่อว่าแพทองธารคงมีวิจารณญาณ​ในการทำงานพอสมควร​ แต่การที่มีปัญหาหรือข้อหาเรื่องต่างๆ สามารถทำได้ในฐานะพ่อ​ เช่นเดียวกันตนที่ปรึกษาพี่สาวในการทำงานในฐานะคนในครอบครัว​

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising