วานนี้ (18 เมษายน) ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ท. มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงการถูกคุมความประพฤติของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าหลักการของผู้ถูกคุมความประพฤติจะผิดเงื่อนไขหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการพักการลงโทษ คณะกรรมการการลดโทษ หรือเงื่อนไขที่ศาลกำหนดตามมาตรา 56 ซึ่งจะมี 10 เงื่อนไข แต่ในส่วนของคณะกรรมการพักการลงโทษจะมี 7 ข้อห้าม และ 6 ข้อให้ปฏิบัติ ซึ่งส่วนนี้ได้มีการเปิดกว้างให้คณะอนุกรรมการฯ สามารถไปกำหนดได้อีกว่าจะมีข้อห้ามอะไร และข้อให้ปฏิบัติอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม การที่จะไปกำหนดข้อห้ามต่างๆ แก่ผู้ถูกคุมความประพฤติ เช่น กรณีการห้ามพูดกล่าวทางการเมือง จะเหมาะสำหรับผู้ได้รับการพักโทษที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาความมั่นคง เช่น มาตรา 116 หรือข้อหาทางการเมือง หรือการไปไฮด์พาร์กแล้วสร้างความเสื่อมเสีย เป็นต้น แต่ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้ถูกดำเนินคดีดังกล่าวก็จะไม่ถูกกำหนดให้เป็นข้อห้าม ดังนั้นจึงสามารถไปพูดทางการเมือง และพบปะบุคคลทั่วไปได้ ยกเว้นการเข้าเยี่ยมญาติแก่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน
พ.ต.ท. มนตรี กล่าวถึงการรายงานตัวของทักษิณต่อพนักงานคุมประพฤติว่า ตั้งแต่ที่ทักษิณได้รับการคุมประพฤติและพักอาศัยอยู่ในสถานที่พักโทษที่ได้แจ้งไว้นั้น ได้มีการรายงานตัวไปแล้ว 2 ครั้ง ส่วนภายในเดือนเมษายนจะเป็นการรายงานตัวครั้งที่ 3
นอกจากนี้ ในการรายงานตัวครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา ตนทราบว่าทักษิณเป็นฝ่ายเดินทางเข้ารายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ ณ สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 1 ด้วยตัวเอง ส่วนครั้งที่ 3 จะเป็นการไปรายงานตัวด้วยตัวเองหรือเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายเข้าไปพบนั้น ตนขออธิบายตามหลักการ หากผู้ถูกคุมประพฤติมีสุขภาพดีก็ต้องเดินทางไปรายงานตัวด้วยตัวเอง
พ.ต.ท. มนตรี เปิดเผยต่อไปว่า ตั้งแต่ทักษิณได้รับการคุมประพฤติ ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการประพฤติผิดหลักกฎหมายหรือเงื่อนไข ซึ่งการขออนุญาตเดินทางไปยังต่างจังหวัด นอกเขตพื้นที่การพักโทษของผู้ถูกคุมประพฤติ สามารถกระทำได้โดยไม่มีกรอบจำกัด หากมีเหตุธุระจำเป็นเพียงแค่ต้องแจ้งต่อพนักงานคุมประพฤติให้รับทราบ ส่วนเรื่องสถานที่พักโทษ หรือบ้านจันทร์ส่องหล้า ได้มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเป็นสถานที่พักโทษอื่นหรือยังนั้น ตรงนี้ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แต่หลักการปกติก็ต้องกลับมาพักอาศัยยังสถานที่พักโทษที่ได้แจ้งไว้
พ.ต.ท. มนตรี ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรอบระยะเวลาการสิ้นสุดการพักโทษของทักษิณนั้น กระบวนการพักโทษมีระยะเวลากำหนดอยู่แล้ว แต่ถ้ายึดตามหลักการคือ เหลือโทษจำคุกเท่าไรก็พักโทษเท่านั้น ยกเว้นมีเหตุได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษ ระยะเวลาของโทษก็จะลดลง เช่น โทษจำคุกเหลือ 6 เดือน ก็จะถูกคุมประพฤติ 6 เดือน ส่วนถ้าครบกำหนดพักโทษแล้ว กระบวนการหลังจากนี้คือ กรมราชทัณฑ์จะต้องออกใบบริสุทธิ์แจ้งมายังกรมคุมประพฤติ ก็จะถือว่าพ้นการคุมประพฤติทันที ส่วนเรื่องการขออนุญาตเดินทางไปต่างจังหวัดของทักษิณจากนี้ยังคงไม่มีแจ้งมาแต่อย่างใด
พ.ต.ท. มนตรี ยังกล่าวถึงการที่ทักษิณให้สัมภาษณ์เรื่อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะกลับประเทศไทยในเร็วๆ นี้ตามความตั้งใจ หรือการไปรับฟังรายงานต่างๆ ของบรรดารัฐมนตรี หรือให้คำแนะนำ ก็ถือเป็นเรื่องที่สามารถพูดจาได้ เพราะท่านก็มีประสบการณ์ความรู้ที่ผู้บริหารอาจมองว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
