×

ทักษิณ-พิธา-เศรษฐา ตั้งใจหรือบังเอิญ วัดพลังกลางฝุ่นไฟ

โดย THE STANDARD TEAM
18.03.2024
  • LOADING...
ทักษิณ-พิธา-เศรษฐา

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘จังหวัดเชียงใหม่’ จากเมืองท่องเที่ยวแปรเปลี่ยนกลายเป็นสนามข่าวการเมืองไปชั่วขณะ เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับไปเยือน เชียงใหม่ อันเป็นบ้านเกิด หลังได้รับการพักโทษ 

 

ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง เดินทางไปติดตามเรื่องปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันเช่นกัน ก่อนที่จะเดินทางต่อเพื่อประชุม ครม. สัญจร ที่จังหวัดพะเยา 

 

ขณะที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางลงพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ เช่นเดียวกัน เพื่อดูปัญหาหน้างานการดับไฟป่าร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา

 

THE STANDARD ประมวลสถานการณ์การลงพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ ของตัวละครทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นเรื่องตั้งใจหรือบังเอิญ

 

ทักษิณ-เศรษฐา-พิธา ตั้งใจบังเอิญ

 

ให้หลังไม่ถึงหนึ่งเดือน อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ​ ชินวัตร ซึ่งอยู่ระหว่างการพักโทษก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที โดยกำหนดการแรกที่ทักษิณตัดสินใจออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้าและมุ่งหน้าไปคือ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของทักษิณและครอบครัว และนี่คือการหวนกลับคืนเชียงใหม่ในรอบกว่า 17 ปี

 

ภาพที่ปรากฏคือ การเดินสายไปยังจุดต่างๆ การจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับบ้าน ซึ่งปรากฏภาพของข้าราชการทั้งใหญ่และน้อย รัฐมนตรี รวมถึงนักการเมืองมากมายที่มาร่วมต้อนรับการกลับบ้านของทักษิณ แม้ว่า ณ วันนี้เขาคืออดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือบารมีของคนที่เป็นมากกว่าอดีตนายกฯ

 

ขณะที่กำหนดการของทักษิณสอดคล้องกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงว่า เศรษฐาที่มีกำหนดการจะเดินทางไปเชียงใหม่ช่วงนี้มาก่อนที่ทักษิณจะกำหนดวันเดินทางเสียอีก ไม่ใช่เป็นการนัดพบแต่อย่างใด 

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงงานเลี้ยงต้อนรับทักษิณกลับเชียงใหม่ที่มี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีศักดิ์เป็นน้องเขยทักษิณ เป็นเจ้าภาพ เศรษฐาก็มาปรากฏตัวร่วมโต๊ะอาหารข้างทักษิณ 

 

ด้าน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็มีกำหนดเดินทางมาดูเรื่องปัญหาการดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงาในวันและเวลาที่ไล่เลี่ยกัน จนถูกตั้งคำถามว่า นี่คือการตั้งใจบังเอิญมาเพื่อช่วงชิงกระแสมวลชน

 

ทักษิณ-เพื่อไทย และเชียงใหม่ บ้านเกิดเมืองนอน

 

ทักษิณ ชินวัตร เกิดและเติบโตที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เขาและครอบครัวรวมถึงต้นตระกูล ญาติพี่น้อง ต่างผูกพันกับจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เพราะที่นี่คือบ้านเกิดเมืองนอน

 

นอกจากการเป็นบ้านเกิดของทักษิณแล้ว เชียงใหม่ถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทยนับตั้งแต่การเป็นพรรคไทยรักไทย บางคนถึงขนาดนิยามว่า นี่คือ ‘เมืองหลวง’ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ‘เมืองหลวง’ แห่งนี้ถูกพรรคก้าวไกลตีแตก ชนะ 7 จาก 10 เขต แม้พรรคเพื่อไทยจะพยายามทุ่มสรรพกำลังต่างๆ เพื่อรักษาพื้นที่ ถึงขนาดโค้งสุดท้ายก่อนปราศรัยใหญ่ยังเลือกทิ้งท้ายเวทีต่างจังหวัดที่เชียงใหม่

 

อีกทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมาถึงในช่วงต้นปีหน้า เป็นอีกหนึ่งจุดวัดฐานเสียงสำคัญของแต่ละพรรค โดยในการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2562 ทักษิณลงทุนเขียนจดหมายด้วยลายมือให้คนเชียงใหม่เทคะแนนให้ สว. ก๊อง-พิชัย เลิศพงศ์อดิศร จนได้รับชัยชนะ

 

ในการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้ ใต้กระแสของพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคเพื่อไทยที่ไม่ได้เป็นพรรคอันดับหนึ่งอีกต่อไปในแง่จำนวน สส. จะสามารถยึดเก้าอี้ อบจ. ได้อีกสมัยหรือไม่ เป็นโจทย์ที่ท้าทายอยู่ไม่น้อย

 

แม้ทักษิณจะไม่ได้เอ่ยปากพูดเรื่องการเมืองในขณะนี้ แต่การแจ้งกำหนดการกลับเชียงใหม่อีกครั้งในช่วงสงกรานต์ ก็น่าจะคาดการณ์ได้ว่าพื้นที่เชียงใหม่กำลังถูกให้ความสำคัญอีกครั้ง

 

พิธา-ก้าวไกล ตั้งธงชิง อบจ.เชียงใหม่

 

ในการเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกลกวาดที่นั่ง สส. เชียงใหม่ ได้ 7 จากทั้งหมด 10 ที่นั่ง อีกทั้งยังกวาดเขตสำคัญที่พรรคเพื่อไทยเคยมองว่าเป็นเขตที่แพ้ไม่ได้อย่างเขต 1 คือเขตอำเภอเมือง และเขต 3 คือเขตอำเภอสันกำแพง ถึงขนาดที่สลับตัวผู้สมัคร ทว่าก็ไม่อาจต้านทานได้

 

หากมองที่การเลือกตั้งท้องถิ่นในปี 2562 ในขณะนั้นคณะก้าวหน้าเป็นคนส่งผู้สมัครนายก อบจ. และไม่สามารถชนะได้แม้แต่จังหวัดเดียว ในการเลือกตั้งท้องถิ่นรอบนี้พรรคก้าวไกลจะเป็นผู้ส่งลงสมัครรับเลือกนายก อบจ. เอง เปลี่ยนกลยุทธ์จากส่งให้มากที่สุดเป็นยิงตรงเป้า ส่งเฉพาะพื้นที่ที่คาดหวัง ทุ่มกำลังให้สามารถเอาชนะได้ และเชียงใหม่ก็ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่คาดหวังของพรรคก้าวไกล 

 

แม้พิธาจะปฏิเสธว่าการลงพื้นที่ของเขาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เกี่ยวกับการปูทางสู่การเลือกตั้งท้องถิ่น ทว่าหลังการเดินทางกลับเพียงวันเดียว พรรคก้าวไกลเปิดชื่อ พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ในสังกัดพรรคก้าวไกล ซึ่งนับเป็นเดิมพันสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวมาโดยตลอดว่าพรรคก้าวไกลอาจจะส่ง ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส. พรรคเพื่อไทย บ้านใหญ่ในเชียงใหม่ ลงชิงนายก อบจ. ที่อาจจะมีแต้มต่อในแง่ฐานเสียงท้องถิ่น

 

PM2.5 คนเชียงใหม่เผชิญอากาศแย่ที่สุดในโลก

 

ในเวลานี้เส้นเรื่องที่ทุกฝ่ายพูดถึงในการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่คือ ‘ปัญหาไฟป่า’ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ‘PM2.5’ ซึ่งเป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนาน ไต่ขึ้นเป็นเมืองที่มีอากาศแย่ที่สุดในโลกหลายต่อหลายวัน และจะส่งผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ว่าคุณจะยากดีมีจนหรือร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี อากาศที่ต้องหายใจเข้าไปเป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ แม้คนมีกำลังอาจจะพอมีทางเลือกในการป้องกัน แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งผลกระทบได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์

 

หากจะแยกย่อยออกไปในประเด็นฝุ่น PM2.5 มีอยู่มากมาย แต่ประเด็นเฉพาะหน้าในขณะนี้คือเรื่องไฟป่า อันเป็นต้นเหตุของการเกิดฝุ่น ซึ่งพิธาได้ยืนยันเรื่องการให้รัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่ ‘เขตภัยพิบัติ’ เพื่อนำงบประมาณมาใช้ในการแก้ปัญหาไฟป่าโดยเร่งด่วน ขณะที่เศรษฐายืนยันว่า การประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติอาจทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบมากกว่า โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และได้จัดสรรงบกลางไปสำหรับการแก้ปัญหาเหล่านี้แล้ว

 

นอกจากประเด็นฝุ่นแล้ว ช่วงระหว่างการลงพื้นที่ ทั้งสองฝ่ายยังได้ตอบโต้ทางการเมืองผ่านหน้าข่าวตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งมือไม่พาย อย่าเอาเท้าราน้ำ ไปจนกระทั่งออก พ.ร.บ.ห้ามฝ่ายค้านทำงาน

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าวิธีการหรือแนวคิดการแก้ปัญหาจะไปในทิศทางไหน แต่เสียงสะท้อนจากประชาชนชาวเชียงใหม่ถึงความเดือดร้อนเรื่องฝุ่น PM2.5 ดังสนั่นมาตลอดต่อเนื่องหลายปี รอคอยการแก้ไขปัญหาเพื่อคืนสิ่งที่เรียบง่ายและสามัญที่สุดของชีวิตมนุษย์คือลมหายใจที่ไม่เป็นพิษ

 

เกมวัดพลังมวลชนหรือไม่

 

การเลือกตั้งปี 2566 คือจุดเปลี่ยนของการเมืองไทยสู่ยุคใหม่ ทั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วและการชนะเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล ทำให้ภูมิทัศน์การเมืองไทยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลที่เคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกันต้องสลัดมือกันมาเล่นคนละบทบาท เพื่อไทยตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ก้าวไกลชนะเลือกตั้งแต่รวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จต้องมาเป็นฝ่ายค้าน

 

เมื่อพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งและเคยชนะเลือกตั้งต้องมาเป็นคู่ต่อสู้กันในสนามการเมือง ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า การรักษากระแสและประคองคะแนนความนิยมเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด

 

สำหรับคำถามที่ว่า เป็นการวัดพลังมวลชนหรือไม่ หากจะต้องฟันธงเลยอาจจะไม่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่ายมากนัก แต่ว่ากันว่าในทางการเมืองแล้ว ไม่มีอะไรบังเอิญหากยังเห็นการลงพื้นที่ใกล้เคียงกันในเวลาไล่เลี่ยกัน คำตอบน่าจะชัดขึ้นว่า นี่ใช่การวัดพลังมวลชนระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่ที่กลายเป็นคู่แข่งใหม่หรือไม่

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising