×

THAITANIUM เทิร์นธุรกิจเพลงสู่ตลาดเอเนอร์จี้ดริงก์ เปิดตัว ‘POWER’ ตั้งเป้ายอดขาย 350 ล้าน ในปี 2566 ไม่หวั่นการแข่งขันสูง

01.12.2022
  • LOADING...

THAITANIUM ต่อยอดจากวงการเพลง รุกตลาดเอเนอร์จี้ดริงก์ เปิดตัว ‘POWER’ เครื่องดื่มพรีเมียม เจาะคนรุ่นใหม่ ยันไม่หวั่นการแข่งขันสูง เชื่อยังมีโอกาสโตอีกมาก พร้อมทำการตลาดครบวงจร เตรียมสยายปีกสู่ตลาด CLMV ปีหน้า ดันยอดขายแตะ 350 ล้าน ในปี 2566

 

หากพูดถึงเครื่องดื่มเอเนอร์จี้ดริงก์จะถูกจำกัดอยู่ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ประมาณ 5% หรือมีมูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท ถือว่ายังน้อย แต่นับว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้น

 

แต่ทว่าการทำตลาดเครื่องดื่มไม่ใช่ว่าจะแจ้งเกิดกันได้ง่ายๆ เพราะมีผู้เล่นทั้งรายเล็กรายใหญ่ยึดครองตลาดอยู่หลายรายที่พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา มีการงัดกลยุทธ์ด้านรสชาติ การให้พลังงาน และราคาที่เข้าถึงง่าย เข้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้มีการแข่งขันสูง หากผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ซึ่งล่าสุด ‘ไทยเทเนี่ยม เบฟเวอเรจ’ ได้กระโจนเข้าสู่น่านน้ำเอเนอร์จี้ดริงก์ด้วยชื่อบริษัทที่คุ้นหู เพราะเป็นชื่อของกลุ่มศิลปินแนวฮิปฮอปไทยที่โด่งดัง

 

บริษัท ไทยเทเนี่ยม เบฟเวอเรจ จัดตั้งขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยมีผู้ถือหุ้นร่วมลงทุนกันหลายราย แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นและสัดส่วนการลงทุนที่ชัดเจน แต่หนึ่งในนั้นมีวง THAITANIUM กลุ่มศิลปินแนวฮิปฮอป ประกอบด้วยสมาชิก 3 คน คือ ขันเงิน เนื้อนวล (ขัน), จำรัส ทัศนละวาด (เดย์) และ ปริญญา อินทชัย (เวย์) ถือหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย ซึ่งสัดส่วนเท่าๆ กัน และรวมกันไม่เกิน 50%

 

อำพล สันติชวลิต ผู้จัดการฝ่ายขายการค้าแบบดั้งเดิม บริษัท ไทยเทเนี่ยม เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า แม้ตลาดจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่ายังมีช่องว่างการทำตลาดอีกมาก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

 

จึงจับมือกับ THAITANIUM ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ทำธุรกิจร่วมกันเปิดตัวเครื่องดื่ม THAITANIUM POWER (ไทยเทเนี่ยมพาวเวอร์) ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้พลังงานกลุ่มพรีเมียม เริ่มแรกได้ปล่อยออกมา 1 รสชาติ ในรูปแบบขวด PET ราคา 30 บาท โดยโปรดักต์ได้พัฒนาขึ้นจากทีม R&D ภายใต้ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทเครื่องดื่ม เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนพัฒนาสูตร โดยใช้เวลากว่า 3 ปี และเริ่มขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการกระจายสินค้า

 

ระยะแรกเริ่มวางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และจากนั้นในปี 2566 เตรียมขยายไปร้าน Modern Trade และ Traditional Trade เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน

 

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดตัวรสชาติใหม่อีก 4 รสชาติ ภายในปี 2566 พร้อมเตรียมงบการทำตลาด 16% ของยอดขายรวม เพื่อใช้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้พรีเมียม ควบคู่กับการส่งเสริมการขายในช่วงซัมเมอร์ ควบคู่กับการจัดบูธชวนชิมสินค้า โดยมีวง THAITANIUM เป็นตัวแทนสื่อสารแบรนด์ผ่านฐานแฟนคลับ และเน้นช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

 

พร้อมกันนี้ในปี 2566 เตรียมส่งออกสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในประเทศ CLMV ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุยกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ พร้อมศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคไปพร้อมๆ กัน

 

ด้านขันเงินกล่าวเสริมกับ THE STANDARD WEALTH ว่า หลังจากวง THAITANIUM อยู่ในวงการเพลงมานาน จึงต้องการต่อยอดเข้ามาทำธุรกิจเครื่องดื่ม เพราะมองว่าเครื่องดื่มชูกำลังเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ โดยวางเป้าหมายยอดขายในปี 2566 ไว้ประมาณ 350 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ ในระยะยาวหรือราว 3 ปี บริษัท ไทยเทเนี่ยม เบฟเวอเรจ มีเป้าหมายจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยขันเงินกล่าวว่า การนำพาธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นเป็นเป้าหมายระยะยาว ซึ่งระหว่างนี้บริษัทยังคงต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์อีกมากเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท และหนึ่งในแนวทางเพิ่มมูลค่าให้บริษัทก็คือการดึงพาร์ตเนอร์ศิลปินที่มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่ตรงกับ Core ของบริษัทเข้ามาร่วมงานกัน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising