×

นักลงทุนต่างชาติตอกหมุดพื้นที่ EEC เล็งลงทุนธุรกิจแห่งอนาคต ไม่หวั่นโควิด-19

โดย THE STANDARD TEAM
01.10.2020
  • LOADING...

แม้ว่าจะมีวิกฤตโควิด-19 แต่ภาคธุรกิจและการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยยังเดินหน้าต่อเนื่อง ล่าสุดมีนักธุรกิจและนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่าร้อยรายเข้าร่วมงานสัมมนา ‘Thailand’s Eastern Economic Corridor’ หัวข้อ ‘Experience the Exclusive Possibilities for Your Business in the EEC’ ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรรศการ (TCEB) เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองนักลงทุนที่ต้องการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ยุทธศาสตร์ EEC 


สแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย หรือ JFCCT กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งมิติบรรยากาศการค้าการลงทุนที่ขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีนักธุรกิจต่างประเทศอยากเข้ามาค้าขายและลงทุนกับไทย ส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยมีกฎหมายเสริมการลงทุนที่ชัดเจน 

 

ทั้งนี้ JFCCT ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นหอการค้าทั้งหมด 34 หอการค้า โดยมีสมาชิกภายในหอการค้ารวมประมาณ 9,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจการผลิต บริการ และอื่นๆ

 

“พื้นที่ EEC ขณะนี้กำลังมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก และมีธุรกิจที่เข้ามาลงทุนแล้ว เช่น ธุรกิจยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและการเกษตร และการแพทย์ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะมีธุรกิจด้านบริการเข้ามาเพิ่มมากขึ้น”

 

อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์มีข้อเสนอให้รัฐบาลเพิ่มความโปร่งใสในการพัฒนาและส่งเสริมการลงทุน และควรมีระบบบ E-Government อย่างจริงจัง รวมถึงการบริหารพัฒนาที่รวดเร็ว เพราะนักลงทุนต่างชาติให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างมาก 

 

 

สแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) 

 

ฮานส์ แวน เดน บอร์น ผู้อำนวยการหอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย กล่าวว่า จุดเด่นของไทยคือ มีความปลอดภัยสูง เห็นได้จากช่วงการเกิดโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งภายใต้วิกฤต นักลงทุนจากต่างชาติยังต้องมีการขยายกิจการตลอดเวลา จึงต้องหาพื้นที่และโอกาส รวมถึงการมองภาพการลงทุนในระยะยาว โดยมองว่ารัฐบาลควรสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ

 

ด้าน ไรอัน วู้ด ผู้บริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนในประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ EEC กล่าวว่า กลุ่มอมตะกำลังพัฒนาโครงการใหม่ในชลบุรี ได้แก่ โครงการ Nanjing มีทั้งโรงงานฐานการผลิต พื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย ศูนย์วิจัยและพัฒนา และโครงการ Yokohama 2 ซึ่งจะมีพื้นที่สำหรับการลงทุนและศูนย์การแพทย์ร่วมด้วย 

คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย สกพอ.    

        

อย่างไรก็ตาม คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย สกพอ. กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ สกพอ. เน้นส่งเสริมการลงทุนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากเดิมที่ให้ความสำคัญ S-curve ทั้ง 12 อุตสาหกรรม ปัจจุบันจะโฟกัสเฉพาะบางอุตสาหกรรมที่สร้างโอกาสเติบโตสูง เช่น สุขภาพและการแพทย์ และมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจอาหาร การเกษตร ระบบการขนส่งและกระจายสินค้า ฯลฯ 

 

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมหลักอยู่แล้ว และมั่นใจว่าจะรองรับการลงทุนใหม่ที่เกิดขึ้นได้ 

 

“ขั้นตอนต่อไปคือ การกระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะที่ผ่านมานักลงทุนอาจจะยังไม่รู้ ซึ่ง EEC และสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI จะช่วยกันทำงาน แม้ว่าจะเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่ EEC ก็ยังทำงานกับต่างชาติอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการประชุมออนไลน์กับธนาคารต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในยุโรป จีน หรือญี่ปุ่น เพื่อให้เขาพาลูกค้าเข้ามาติดต่อลงทุนในไทย” คเณศกล่าว

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising