×

ประท้วงวุ่น สุณัฐชา สส. ปชป. อภิปรายงบฯ 67 แตะนายกฯ-ทักษิณ บอกเศรษฐาสืบทอดดีเอ็นเอ ทรท. จัดงบทอดทิ้งคนใต้

โดย THE STANDARD TEAM
05.01.2024
  • LOADING...

วันนี้ (5 มกราคม) ที่รัฐสภา ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก วันที่ 3 

 

สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส. ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงการจัดงบให้กับพื้นที่ภาคใต้ในสัดส่วนที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นว่าเป็นการจัดสรรอย่างไม่เป็นธรรมกับคนภาคใต้ ตนไม่แน่ใจว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้จัดสรรงบประมาณบริหารราชการแผ่นดินผ่านกฎหมายฉบับนี้ตัวจริงหรือไม่ 

 

สุณัฐชากล่าวว่า ตนคาดหวังว่างบนี้จะถูกนำไปใช้ตอบโจทย์ความต้องการในพื้นที่ ส่งเสริมความเป็นอยู่ประชาชนให้ดีขึ้น ฉะนั้นเม็ดเงินควรจัดสรรอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมเท่าเทียม ไม่เลือกที่รักมักที่ชังเพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง เหมือนเหตุการณ์ในอดีตที่คนใต้ทั้งภาคถูกเลือกปฏิบัติ เพราะไม่นิยมชมชอบพรรคแกนนำรัฐบาลในขณะนั้น 

 

จัดงบทิ้งคนใต้ตั้งแต่ ทรท. สู่ พท.

 

สุณัฐชากล่าวว่า ตนมีข้อกังวลในการจัดทำงบภายใต้รัฐบาลเศรษฐีที่ชื่อว่า เศรษฐา ทวีสิน ผู้ที่ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลว่า เซลส์แมนสแตนด์ ‘ชิน’ จากฉายานี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีดีเอ็นเอหรือรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทยที่มีนายใหญ่สายชินเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลในปี 2554 เจ้าของความคิดที่ว่า จังหวัดไหนไม่เลือกให้รอการพัฒนาไปก่อน จนกลายเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นยุครัฐบาลที่มีข้อครหาในการจัดทำงบมากที่สุด ในที่สุดก็มาเป็นเพื่อไทยที่เริ่มต้นภายใต้การนำของรัฐบาลสายชิน นายกฯ หญิงคนแรกของไทย ที่เมินการจัดสรรงบประมาณพื้นที่ภาคใต้ แต่ใช้งบสูงถึง 1.39 ล้านล้านบาทไปกับนโยบายโด่งดังอย่างจำนำข้าวที่ตัวเลขสูงแต่ประสิทธิผลต่ำ แต่สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นน้ำตาของชาวนาทั้งประเทศ 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปราย สรวงศ์ เทียนทอง สส. สระแก้ว พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง โดยบอกว่า เราอยู่ในยุคปีใหม่ 2567 ย้อนอะไรกลับไปนานขนาดนั้น แล้วนี่ก็งบปี 2567 ขอความกรุณาอยู่ในประเด็น ซึ่งพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัยว่าการอภิปรายงบนั้น ประชาชนดูอยู่ 

 

ประท้วงวุ่น กระทบนายของบ่าว

 

จากนั้น พิทักษ์เดช เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง ยืนยันว่าการอภิปรายของสุณัฐชายังอธิบายอยู่ในประเด็น ไม่ได้ไปกระทบกระทั่งนายของบ่าว ต่อมาสรวงศ์ได้ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง โดยขอให้พิทักษ์ถอนคำพูด เพราะเป็นเรื่องไม่ดี ประชาชนดูอยู่ 

 

สุณัฐชาจึงขออภิปรายต่อและขอให้ฝ่ายรัฐบาลใจเย็นๆ อยากให้เข้าใจว่าไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แค่อยากจะทำให้เห็นรากเหง้าของรัฐบาลชุดนี้ เพราะตนและชาวใต้เกือบ 10 ล้านคน กลัวความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรงบประมาณจะถูกส่งต่อมาถึงนายกฯ ผ่านร่างงบประมาณฉบับนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับแผนงานพัฒนาระบบคมนาคม โลจิสติกส์ โดยทุ่มงบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 58,000 ล้านบาท แต่เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียด สิ่งที่รัฐบาลวาดฝันไว้กับคนไทยทั้งประเทศไม่ได้สวยหรูนัก โดยเฉพาะกับชาวใต้ 14 จังหวัดที่ได้รับงบพัฒนาเพียงแค่ 3,973 ล้านบาท หมุนเวียนใน 209 โครงการ จากทั้งหมด 1,577 โครงการ 

 

หลายโครงการภาคใต้ไม่ปรากฏ

 

สุณัฐชาอภิปรายด้วยว่า ทั้งนี้พบหลายโครงการที่หายไป เช่น แผนงานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เช่น มอเตอร์เวย์สายใต้, รถไฟทางคู่สายใต้ เส้นทางชุมพร-นราธิวาส, โครงการสะพานเชื่อมอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช-อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี, โครงการก่อสร้างสนามบินในจังหวัดพัทลุงที่ไม่พบงบศึกษาหรือสำรวจ, โครงการก่อสร้างถนน 4 เลน สาย 4046 เชื่อมจังหวัดกระบี่, โครงการแผนพัฒนาจังหวัดภูเก็ตด้วยรถไฟฟ้าและสนามบินอันดามันที่ไม่พบรายละเอียด แม้นายกฯ จะลงพื้นที่เพื่อขายฝัน แต่ตนมองว่าเป็นฝันระยะไกล 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของสุณัฐชาซึ่งจะกล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ และได้นำภาพการฉลองปีใหม่ของเศรษฐาซึ่งสวมชุดสีแดงมาประกอบ ทำให้พิเชษฐ์ขอให้ยุติการอภิปราย และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพดังกล่าวว่าได้ขออนุญาตหรือรับอนุญาตแล้วหรือไม่ ทำให้เกิดเหตุประท้วงเรื่องการควบคุมการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุมว่าไม่เป็นกลาง ทำให้พิเชษฐ์กล่าวว่า ทราบว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและยังไม่แจ้งตน หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการแล้วยินดีและขอให้ผู้อภิปรายได้อภิปรายต่อไป 

 

เศรษฐาสืบทอดดีเอ็นเอทิ้งคนใต้

 

ทั้งนี้ สุณัฐชากล่าวตอบโต้ว่า “คิดว่ารูปที่นายกฯ สวมเสื้อสีแดง และปาร์ตี้ที่ทำเนียบรัฐบาลไม่มีอะไรเสียหายหรืออาย เพราะการเป็นนักโทษเทวดาอยู่บนชั้น 14 น่าอายกว่ามาก” ทำให้ สส. พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงในประเด็นดังกล่าว 

 

สุณัฐชาอภิปรายต่อว่า จากตัวอย่างโครงการในภาคใต้ที่ถูกทำให้อันตรธานหายไป จากข้อมูลค่าเฉลี่ยต่อหัวที่คนใต้ได้รับในการพัฒนาน้อยที่สุด ส่อเค้าลางว่างบประมาณปีแรกของรัฐบาลเศรษฐาไม่ต่างจากยุครัฐบาลนายใหญ่เพื่อไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ตนไม่สามารถรับหลักการจนกว่าจะทบทวนให้รอบคอบ คืนความเป็นธรรมให้คนภาคใต้ได้

 

“ท่านนายกฯ อาจลุกขึ้นมาแก้ตัวว่าตัวท่านและผู้นำในอดีตเป็นคนละคนกัน แต่การจัดทำงบประมาณในลักษณะนี้ยิ่งทำให้ดิฉันมั่นใจว่าถึงแม้จะเป็นคนละคนกัน แต่พฤติกรรมทอดทิ้งคนใต้ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาถึงท่านนายกฯ ที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2567” สุณัฐชากล่าว ทั้งนี้ การประท้วงยังคงมีต่อเนื่องไปจนกว่าสุณัฐชาอภิปรายจบ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising