×

พ.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาทีมชาติไทยโดนหักค่าหัวคิวเงินรางวัลเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 50%

โดย THE STANDARD TEAM
07.11.2023
  • LOADING...
สืบศักดิ์ ผันสืบ

วันนี้ (7 พฤศจิกายน) ก่อนการประชุมสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย พ.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เป็นตัวแทนอดีตนักกีฬาเรื่องการยื่นร้องเรียนการทำหน้าที่ของผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อทีมชาติไทย โดยมี บุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับเรื่อง 

 

โดยก่อนหน้านี้ ตุ๊ก-ธิดาวรรณ ดาวสกุล อดีตนักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์และซีเกมส์หลายสมัย ได้ออกมาจุดประเด็นเรื่องอื้อฉาวในวงการตะกร้อทีมชาติไทย ซึ่งเธอและนักกีฬาทีมชาติหลายคนเคยถูกสตาฟฟ์โค้ชเรียกรับส่วนแบ่งจากเงินอัดฉีดของนักกีฬาที่ได้รับจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว เมื่อปี 2010

 

ล่าสุด พ.ต.ท. สืบศักดิ์ หรือ สารวัตรโจ้ ได้เปิดเผยว่า 

 

“นักกีฬาชุดปัจจุบันไม่กล้าออกชื่อ เพราะมีผลต่อการเรียกเก็บตัวในรายการต่อๆ ไป แต่หลายคนก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีช่องทางการเงิน การโอนเงินให้ใครบ้าง ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เราอยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการ เพราะผู้ฝึกสอนและสมาคมฯ มีส่วนแบ่งจากรัฐบาลอยู่แล้ว เช่น เอเชียนเกมส์ครั้งที่ผ่านมา สตาฟฟ์โค้ชก็ได้เงินอยู่แล้ว 5.8 ล้านบาท 

 

“แต่นักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งคว้ามา 4 เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ที่หางโจว นักกีฬาทีมชุดจะได้เงินคนละ 2 ล้านบาท นักกีฬาที่แข่งทีมเดี่ยวจะได้ 4 ล้านบาท เงินทั้งหมดรวมคือ 34 ล้านบาท เป็นทีมชุด 24 ล้านบาท ทีมเดี่ยว 10 ล้านบาท 

 

“แต่ปรากฏว่ามีการหักเงินนักกีฬา นักกีฬาที่แข่งทั้งชุด-เดี่ยวได้เงินเพียง 2.1 ล้านบาทเท่านั้น เกือบ 50% โดยอ้างว่าเป็นการหักเงินเพื่อไปให้นักกีฬาที่ไม่ติดทีมชาติ แต่ตรงนี้เงินก็ยังหายไป 3.3 ล้านบาท ส่วนทีมหญิงเงินหายไป 6.75 ล้านบาท ผมว่าเยอะมาก

 

“นักกีฬาจะได้รับเงินโอนมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และจะหักเงินสองวิธีคือ ให้โอนเงินหักไปยังตัวพักเงิน ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาคนหนึ่ง ก่อนจะโอนให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ส่วนอีกวิธีคือให้เบิกเงินสดมาทั้งหมดและไปนัดพบกันที่ร้านอาหาร และหักเงินกันตรงนั้น ซึ่งทั้งสองวิธีนั้นทำเพื่อไม่ให้มีหลักฐาน แต่ทุกวันนี้น้องนักกีฬาชุดปัจจุบันพร้อมให้ข้อมูล เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูด

 

“ที่ผ่านมาในอดีต นิตินัดดา แก้วคำไสย์ ซึ่งเป็นนักกีฬาหญิงที่เก่งมาก พอพ่อออกมาพูดเรื่องนี้ จากนั้นก็หลุดทีมชาติไปเลย อีกคนอย่าง ปูดำ-พิกุล สีดำ น้องเป็นนักกีฬาเหรียญทองซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ก็เคยพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินรางวัล แต่เขาก็ถูกตัดออกจากทีมชาติไปเลย จนปัจจุบันต้องออกไปเก็บผลไม้หาเลี้ยงชีพอยู่ที่เกาหลี ซึ่งผมมองว่านักกีฬาที่เล่นเพื่อชาติไม่ควรจะต้องลงเอยแบบนี้”

 

ด้าน สมพร ใจสิงหล อดีตนักกีฬาทีมชาติ เผยว่า ตนเล่นทีมชาติเป็นสิบๆ ปี อย่างเอเชียนเกมส์ก็จะถูกหักครึ่งหนึ่งของเหรียญทองทีมเดี่ยวตลอด อยากให้นักกีฬาทุกคนทั้งอดีตและปัจจุบันได้รับความเป็นธรรม

 

ร.ท. สุริยัน เป๊ะชาญ อดีตนักกีฬาทีมชาติ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกตนทุกคนประสบพบเจอมาจริงๆ ตนเล่นทีมชาติมา 22 ปี สมัยที่เล่นคิงส์คัพได้เงินครั้งละ 5,000 บาท ไม่มีปัญหา แต่พอเงินรางวัลเป็น 1 ล้านบาทก็เกิดปัญหาขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ปี 2010 ทีมเดี่ยว 5 คน สมัยก่อนจะได้เงินคนละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 5 ล้านบาท เงิน 2.5 ล้านบาทจะถูกหักให้ผู้จัดการทีมไปเลย แต่ตอนนั้นเราพูดไม่ได้เพราะเราอยู่ใต้อำนาจของการคุมทีม ถ้าอยากเล่นต่อเราไม่มีทางเลือก ได้เท่าไรก็ต้องเอา

 

ก่อนที่สารวัตรโจ้จะสรุปว่า “ผมหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการดำเนินงานเตรียมทีมชาติ หวังว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบปัญหาเป็นสิบปีที่ผ่านมา และอยากยุติการแต่งตั้งคณะกรรมการทีมชาติก่อน เพื่อให้น้องๆ ได้พูด ให้ได้คำตอบภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนน้องๆ นักกีฬานั้น พี่อยากให้ออกมาพูด พี่ช่วยได้เท่านี้ ถ้าน้องไม่พูดเท่ากับสนับสนุนระบบนี้ และนักกีฬาในอดีตทุกคนควรจะได้รับเงินที่ควรจะเป็นของพวกเขาคืนด้วย”

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising