×

หาคำตอบดัชนีหุ้นไทยต่ำ 1,600 จุด ราคาหุ้นแบงก์ดิ่งลง (เกือบ) ยกแผง

25.10.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MINS. READ
  • ดัชนีหุ้นไทยลดลงต่ำกว่า 1,600 จุด ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากความกังวลภาพรวมเศรษฐกิจไทย เพราะในระยะ 1-2 วันนี้ไม่มีเหตุการณ์และผลกระทบจากต่างประเทศเข้ามากระทบ
  • หุ้นกลุ่มแบงก์ (8 ธนาคาร) ราคาดิ่งลง นำโดย กสิกรไทย ราคาหุ้นลดลง 7% จากวันก่อนหน้า ไทยพาณิชย์ ราคาหุ้นลดลง 6% จากวันก่อนหน้า ฯลฯ

เมื่อดัชนีหุ้นไทยลดลงต่ำกว่า 1,600 จุด ไหนราคาหุ้นธนาคารกสิกรไทยลดลงมาต่ำสุดในรอบ 7 ปี หุ้นธนาคารอื่นๆ ก็ร่วงตาม เกิดขึ้นจากอะไร และหลังจากนี้เราต้องลงทุนอย่างไร

 

ดัชนีหุ้นไทยต่ำ 1,600 จุด ผลความกังวลเศรษฐกิจในประเทศ

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (บล.เอเซีย พลัส) เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า ระยะนี้ดัชนีหุ้นไทยลดลงต่ำกว่า 1,600 จุด ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากความกังวลภาพรวมเศรษฐกิจไทย เพราะในระยะ 1-2 วันนี้ไม่มีเหตุการณ์และผลกระทบจากต่างประเทศเข้ามากระทบ

 

“ที่ดัชนีหุ้นไทยต่ำ 1,600 จุด น่าจะเกิดคนกังวลภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ เพราะภาพใหญ่การบริโภคที่รัฐพยายามกระตุ้นอยู่น้ำหนักก็ยังดูแผ่ว การลงทุนภาคเอกชนต้องรอดูท่าทีว่าจะมีการกระตุ้นมากกว่านี้ไหม ส่วนการลงทุนภาครัฐแม้จะเริ่มแล้วแต่ยังไม่เห็นเม็ดเงินผ่านเข้ามา ความหวังเลยอยู่ที่รอบนี้ กนง. (คณะกรรมการนโยบายการเงิน) จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหรือไม่”

 

ในช่วงที่ดัชนีหุ้นต่ำกว่า 1,600 จุด ถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนที่ตั้งใจลงทุนระยะยาว เข้าซื้อเก็บไว้ โดยกลุ่มหุ้นที่สนใจได้แก่

 

  • หุ้นที่ตามเทรนด์ EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) เช่น บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA), บมจ. .การช่าง (CK) 
  • กลุ่มหุ้นที่ให้เงินปันผลสูงอย่าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
  • หุ้นที่ราคาไม่เคลื่อนไหวมานาน เช่น บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN), บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) 
  • หุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น บมจ. ปตท. (PTT) 

 

หลังจากนี้ในสัปดาห์หน้า (28 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน) คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 1,580 และแนวต้านอยู่ที่ 1,600 จุด ทั้งนี้อาจจะเห็นเงินทุนไหลเข้าในช่วงหลังเดือนตุลาคม 2562 แต่ปัญหายังเป็นเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าทำให้เงินทุนที่อาจจะไหลเข้าไทยเข้ามาช้าลง 

 

ส่วนช่วงสิ้นปีคาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,655 จุด 

โดยส่วนราคาต่อกำไร (P/E) คาดว่าจะอยู่ที่ 16 เท่า 

 

เจาะลึกเหตุราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ นำโดย KBANK SCB ร่วงลง (เกือบ) ยกแผง 

เมื่อวานนี้ (24 ตุลาคม) ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลดลง นำโดย ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ลดลงราว 7% และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ลดลงราว 6% จากวันก่อนหน้า 

รองลงมา ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ลดลงราว 3% ขณะที่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL), ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), ธนาคารธนชาต (TCAP), ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) ราคาติดลบเฉลี่ยประมาณ 2% จากวันก่อนหน้าเช่นกัน 

 

ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับลดลง คาดว่ามาจากนักลงทุนกังวลสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อ Real Sector ของไทย เช่น ยอดผลิตรถยนต์ไทยที่ติดลบ 5 เดือนต่อเนื่อง ขณะที่การเติบโตเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัวเป็น กดดันโอกาสเติบโตสินเชื่อในอนาคต ทั้งสินเชื่อธุรกิจ นอกจากนี้หนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูงกว่า 80% ของ GDP เป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่มสินเชื่อรายย่อย

 

อย่างไรก็ตาม หนี้เสีย (NPL) ในอุตสาหกรรมธนาคารเพิ่มขึ้น โดยช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 NPL เพิ่มขึ้น 4%เมื่อเทียบจากสิ้นงวดไตรมาส 2 ปี 2562 

 

ปัจจัยเสี่ยงธุรกิจธนาคารปี 2562-2563 

ภายในปี 2562 นี้ คาดว่า กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มธนาคารให้ปรับตัวลดลง จึงแนะนำว่าควรชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารไปก่อน

 

ทั้งนี้ธุรกิจธนาคารยังเจอปัญหาแนวโน้มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีทิศทางลดลง เห็นได้จากธนาคารกสิกรไทยกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานปี 2563 ที่ประเมินว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปีหน้าจะติดลบ 5 ถึง 17% เมื่อเทียบกับปี 2562 

 

ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) ที่เปลี่ยนการบันทึกทางบัญชีจากเดิม กรณีที่จัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย สามารถบันทึก Unrealized Gain / Loss ผ่าน OCI (งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ) และในกรณีที่ขายจริง สามารถบันทึกลงในงบกำไรขาดทุนในรายการกำไรจากการขายเงินลงทุน แต่ตามเกณฑ์ TFRS 9 กำหนดให้บริษัทเลือกว่าจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนในงบกำไรขาดทุน หรือใน OCI หากเลือกบันทึกการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนเข้า OCI ในกรณีที่มีการขายเงินลงทุนดังกล่าว จะต้องบันทึกกำไรใน OCI เพียงอย่างเดียว แต่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคารว่าจะเลือกบริหารสินทรัพย์อย่างไร 

 

นอกจากนี้เกณฑ์ TFRS 9 มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในการตั้งสำรองหนี้สูญ ที่จะต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงของลูกหนี้แต่ละรายในอนาคต (ขึ้นอยู่กับ Model ประเมินความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร) จากเดิมที่ส่วนใหญ่ใช้ข้อมูลในอดีต ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาจะเห็นธนาคารธนาคารพาณิชย์เร่งจัดชั้นเชิงคุณภาพใหม่ เพื่อรองรับเกณฑ์นี้

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising