×

คนไทยอินเรื่องสิ่งแวดล้อมแค่ไหน ในกรณีร้านค้าปลีก ‘งดแจกถุงพลาสติก’

05.09.2019
  • LOADING...

ต้องยอมรับว่า ปี 2562 เป็นปีที่ ‘กระแสรักษ์โลก’ ตื่นตัวเป็นอย่างมากในเมืองไทย สิ่งที่เห็นจากฝั่งธุรกิจ โดยเฉพาะบรรดาร้านค้าปลีกเจ้าใหญ่ ต่างออกนโยบาย ‘ลดใช้ถุงพลาสติก’ กันถ้วนหน้า คำถามที่ตามมาคือ วันนี้คนไทยอินเรื่องสิ่งแวดล้อมกันแค่ไหน?

 

สลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการ บรรษัท เทสโก้ โลตัส ตอบคำถามนี้กับ THE STANDARD ว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคนไทยสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากแค่ไหน เพราะยังไม่มีตัวเลขที่วัดออกมาชัดเจน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดๆ คือ การที่คนไทยกำลังตื่นตัวเรื่องนี้กันมากๆ 

 

หากแต่ไม่ใช่ทุกกลุ่ม เพราะอย่างเทสโก้ โลตัสออกมาทำแคมเปญงดแจกถุงพลาสติกทุกวันที่ 4 ของเดือน และเปลี่ยนเป็น ‘ถุงกระดาษ’ ที่ได้ร่วมมือกับเอสซีจี นำกล่องบรรจุสินค้าที่ใช้แล้วจากเทสโก้ โลตัสกลับสู่โรงงาน เพื่อรีไซเคิลเป็นกระดาษใหม่ มาแจกให้กับลูกค้า ยังมีทั้งกลุ่มที่ชอบและไม่ชอบ

 

แต่เพราะเรื่องนี้กำลังอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค จะไม่ทำเลยก็ไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำคือ การค่อยๆ ให้ความรู้กับผู้บริโภคไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความเคยชิน การเปลี่ยนพฤติกรรมของคนเป็นเรื่องยากและถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างการเก็บค่าถุงเหมือนกับต่างประเทศ ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษารายละเอียดเสียก่อน 

 

“ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน อย่างการใช้ถุงกระดาษมีต้นทุน 3-4 บาท ที่ทางเทสโก้ โลตัสต้องแบกรับไว้เอง ไม่ได้ผลักภาระไปให้ผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่มากเมื่อเทียบกับถุงพลาสติกราคาหลักสตางค์ที่ยิ่งสั่งผลิตเยอะ ยิ่งราคาถูก ขณะเดียวกัน เราก็ต้องรักษาราคาให้เข้าถึงได้ไปพร้อมกัน”

 

คำตอบนี้สอดคล้องกับคำพูดของ สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส ที่ได้ออกมายอมรับว่า เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นเทรนด์ของโลกที่ไม่ทำไม่ได้ แต่การที่ทำก็ไม่ได้คาดหวังถึงยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น เพราะสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ถ้าไม่มีอีโคโนมีออฟสเกล จะทำให้ต้นทุนของผู้ที่เริ่มก่อนสูงกว่า

 

แต่เชื่อว่า “ระยะสั้นจะส่งผลกระทบในเชิงต้นทุน 2-3 ปีเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะกลายเป็นความยั่งยืนมากกว่า”

 

ล่าสุด เทสโก้ โลตัสได้ออกมาประกาศนโยบายด้านความยั่งยืน The Little Helps Plan เป็นนโยบายที่ธุรกิจภายใต้กลุ่มเทสโก้ทั่วโลกปฏิบัติร่วมกัน ก่อนจะปรับให้เข้ากับสถานการณ์ของท้องถิ่น

 

สำหรับไทย แผนนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ภายในระยะ 6 เดือนข้างหน้า การจัดหาผลิตภัณฑ์ต้องเพิ่มปริมาณรับซื้อตรงเกษตรกรจาก 60% เป็น 70% สุขภาพ พัฒนากลุ่มสินค้า Balanced Diet และอาหารเจพร้อมทานปราศจากผงชูรส บรรจุภัณฑ์ไม่ใช้วัสดุที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ในบรรจุภัณฑ์สินค้าแบรนด์เทสโก้ กับยกเลิกการใช้หลอดพลาสติกทั้งหมด และขยะอาหาร จะไม่ทิ้งอาหารที่จำหน่ายไม่หมดแต่ยังรับประทานได้จากไฮเปอร์มาร์เก็ตทุกสาขา

 

ส่วนระยะยาว การจัดหาผลิตภัณฑ์ในส่วนของผักใบพื้นบ้านทั้งหมด 100% จะซื้อตรงจากเกษตรกร ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางภายในปี 2565 สินค้าประเภทอาหารแบรนด์เทสโก้ต้องดีต่อสุขภาพ บรรจุภัณฑ์แบรนด์เทสโก้ทั้งหมดจะต้องทำจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ภายในปี 2568 และลดการทิ้งอาหารภายในธุรกิจลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2573

 

สมพงษ์ย้ำว่า นี่เป็นการยกระดับจากแผนงานที่ทำอยู่แล้วมาสู่การเป็นนโยบาย เพราะจะได้มีการตั้งเป้าและวัดผลที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับไฟไหม้ฟางเช่นที่ผ่านมา 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising