วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าจากการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ในวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ชนินทร์กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ครั้งที่ 2 โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 2 คณะ โดยคณะกรรมการได้รับทราบผลการศึกษาของคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติฯ และได้มีมติร่วมกันที่จะดำเนินการต่อใน 2 เรื่อง ได้แก่
- มอบหมายให้คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติฯ ดำเนินการจัดทำข้อเสนอ ในการแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พุทธศักราช 2564 เพื่อให้การทำประชามติเป็นเครื่องมือในการสอบถามความเห็นประชาชนที่ใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพ และเป็นสากล รวมถึงพิจารณากำหนดประเด็นที่จะต้องแก้ไขในมาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน เพื่อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
- มอบหมายให้ประธานนำส่งประเด็นข้อสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินการทำประชามติให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโดยตรงตามรัฐธรรมนูญ ตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ เพราะข้อคิดเห็นจากเลขาธิการ กกต. ที่ได้หารือร่วมกันก่อนหน้านี้ อาจไม่สามารถพิจารณาเป็นความเห็นที่เป็นข้อยุติได้
ชนินทร์กล่าวว่า ในส่วนการรายงานความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น ได้พบความเห็นแตกต่างในหลากหลายประเด็นและได้บันทึกประเด็นทั้งหมดไว้ก่อน เนื่องด้วยคณะอนุกรรมการฯ ยังต้องรวบรวมความคิดเห็นเพิ่มเติมจากการลงพื้นที่อีก 2 ภาค คือการรับฟังกลุ่มความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่ภาคเหนือ และกลุ่มมุสลิมที่ภาคใต้ ตลอดจนรอความเห็นจากการทำแบบสอบถามจากสมาชิกรัฐสภาทั้ง 750 คน ภายหลังการเปิดสมัยประชุมสภา เพื่อนำมาจัดทำข้อสรุปที่ครบถ้วนในการรายงานที่ประชุมคณะกรรมการในการประชุมครั้งถัดไป
“กระบวนการเพื่อหาข้อสรุปในการทำประชามติของรัฐบาลมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก เพราะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แม้จะประสบความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย แต่ทุกฝ่ายก็ตั้งใจจะแสวงหาจุดร่วมที่ลงตัว เพื่อให้กระบวนการเดินต่อไปได้ ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปี 2566 คณะกรรมการจะสามารถจัดทำข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้สมบูรณ์ และได้เริ่มเดินหน้าการทำประชามติเพื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพี่น้องประชาชนที่แท้จริงได้แน่นอน” ชนินทร์กล่าว