×
SCB Omnibus Fund 2024

แข็งต่อเนื่อง! เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ อาจกดดันให้เคลื่อนไหวได้ทั้งสองทาง

02.12.2022
  • LOADING...
ค่าเงินบาท

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (2 ธันวาคม) ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาก (แข็งค่าสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2022) จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai Global Markets ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงสู่ระดับ 104.7 จุด ต่ำกว่าโซนแนวรับสำคัญที่ 105 จุด ซึ่งในเชิงเทคนิคัลจะชี้ว่า เงินดอลลาร์ได้เริ่มกลับมาเป็นเทรนด์ขาลงที่ชัดเจนขึ้น โดยปัจจัยกดดันเงินดอลลาร์ยังคงเป็นแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ตามข้อมูลเงินเฟ้อและภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


นอกจากนี้ การปรับตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์) ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุโซนแนวต้านสำคัญ สู่ระดับ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังกล่าว อาจทำให้มีผู้เล่นบางส่วนเข้ามาขายทำกำไรทองคำ ซึ่งโฟลวธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาท

 

สำหรับวันนี้ ไฮไลต์สำคัญที่ควรจับตาและระมัดระวัง คือรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงเป็นภาคส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยตลาดประเมินว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยรวมอาจชะลอลง สะท้อนผ่านยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในเดือนพฤศจิกายนที่จะเพิ่มขึ้น 2 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่มีการจ้างงาน +2.6 แสนตำแหน่ง นอกจากนี้ ค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) อาจโตชะลอลงเหลือ +0.3%m/m หรือ +4.6%y/y ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันต่อสถานการณ์เงินเฟ้อหรือลดความเสี่ยงของ Wage-Price Spiral ที่ Fed กังวล

 

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้ มองว่าค่าเงินบาทได้แข็งค่าอย่างรวดเร็ว หลังหลุดจากโซนแนวรับที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ สู่ระดับ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งธนาคารได้ประเมินในวันก่อนหน้าว่าอาจเป็นระดับที่เงินบาทสามารถแข็งค่าไปได้ หากหลุดจากแนวรับสำคัญ โดยปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทยังคงเป็นการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลวธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ และฟันด์โฟลวนักลงทุนต่างชาติที่เดินหน้าซื้อสุทธิหุ้นและบอนด์ไทย ซึ่งประเมินว่าค่าเงินบาทยังพอได้แรงหนุนจากปัจจัยฝั่งแข็งค่าดังกล่าวในวันนี้ได้บ้าง โดยเฉพาะโฟลวธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ และอาจมีโฟลวซื้อสุทธิบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติม หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ดี การแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาท (ซึ่งใกล้ระดับ 34.75 บาทต่อดอลลาร์) อาจส่งผลให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาช่วยดูแลความผันผวนของค่าเงินบาทได้บ้าง นอกจากนี้ ผู้เล่นบางส่วนที่มีสถานะ Short USDTHB (มองว่าเงินบาทแข็งค่า) ก็อาจเริ่มทยอยขายทำกำไรได้บ้าง เนื่องจากโซน 34.75 บาทต่อดอลลาร์ก็เริ่มเป็นโซนแนวรับเชิงเทคนิคัล ทำให้การแข็งค่าของเงินบาทอาจชะลอลงได้บ้างในระยะสั้นนี้ 

 

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดอาจรอติดตามรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งต้องระวังว่าหากการจ้างงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงชัดเจนมากขึ้น สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่ลง ก็อาจยิ่งหนุนแนวโน้ม Fed ขึ้นดอกเบี้ยได้อีกไม่มาก หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นใกล้โซนแนวรับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ แต่หากการจ้างงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งหรือดีกว่าคาด ก็อาจทำให้ตลาดเริ่มกังวลต่อมุมมองดังกล่าว ซึ่งอาจเห็นการกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ได้บ้าง และเงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแถว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ได้เช่นกัน

 

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมา ได้สะท้อนถึงความจำเป็นของการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ธนาคารคงแนะนำผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก

 

โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.65-34.90 บาทต่อดอลลาร์

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising