×

ไม่ใช่แค่ Ant Group เพราะ ‘Tencent’ และบริษัทเทคจีนอีกมากกำลังตกเป็นเป้าหมายต่อไป ‘ทุบธุรกิจผูกขาด’ โดยรัฐบาลจีน

16.03.2021
  • LOADING...

‘65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท’ 

 

ตัวเลขข้างต้นคือมูลค่าบริษัทตามราคาตลาดหรือ Market Cap ของ Tencent บริษัทเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลจากจีนที่ ‘หายวับ’ ไปในอากาศในระยะเวลา 48 ชั่วโมง

 

คำถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับ Tencent แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้ชื่อว่า ‘ทรงอำนาจ’ แข็งแกร่งที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งของประเทศจีน มีทั้งแชตแอปฯ แพลตฟอร์มทำธุรกรรม สื่อความบันเทิง เกม ฯลฯ 

 

ภายหลังจากที่ Tencent ถูกรัฐบาลจีนโดยหน่วยงานที่ดำเนินการตรวจสอบธุรกิจที่ผูกขาดสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 77,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.36 ล้านบาท จากกรณีการเข้าลงทุนในแอปพลิเคชันการศึกษา Yuanfudao ตั้งแต่ปี 2018 เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเจ้าอื่นๆ จากจีน ทั้ง Baidu, ByteDance และ Didi Chuxing รวมถึงบริษัทอื่นๆ รวม 12 แห่ง เนื่องด้วยความผิดที่ใกล้เคียงกันจากการผูกขาดด้านธุรกิจ

 

นั่นจึงทำให้บรรดานักลงทุนต่างเกิดอาการ ‘ผวา’ และหวั่นวิตกต่อจังหวะความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกับ Tencent ในครั้งนี้ จนทำให้หุ้นของพวกเขาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ในสัปดาห์ที่แล้วที่ลดลงราว 8% เรื่อยไปจนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ปรับลดลงอีกกว่า 3.5% ส่งผลให้ Market Cap ของ Tencent ลดจากวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคมที่ 841,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงมาอยู่ที่ 776,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

 

โดยปัจจุบัน Market Cap ของ Tencent ในช่วงปิดตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ประมาณ 778,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ราว 0.40%

 

ท่าทีของรัฐบาลจีนที่มีต่อ Tencent และ Baidu รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีเจ้าอื่นๆ เอาเข้าจริงแล้วก็มี ‘แพตเทิร์น’ ที่ใกล้เคียงกันกับวิบากกรรมที่ Alibaba Group และ Ant Group ต้องประสบพบเจอในช่วงปลายปีที่แล้ว จนเป็นเหตุให้ IPO ครั้งประวัติศาสตร์เป็นเพียงแค่จินตนาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงของเหล่าผู้บริหารและนักลงทุนเท่านั้น นั่นคือการเดินหน้ากวาดล้าง ส่งสัญญาณเตือนให้บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจำนวนมากระวังตัวไว้ให้ดี เพราะพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด

 

สอดคล้องกับรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ในประเทศจีนที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ออกคำสั่งกำชับให้บรรดาหน่วยงาน Regulator ในประเทศ คุมเข้มบริษัทเทคโนโลยี แพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ตให้ดี โดยเฉพาะประเด็นการผูกขาดทางธุรกิจ และส่งเสริมการการแข่งขันด้านธุรกิจที่เป็นธรรม เลี่ยงการขยายตัวของเงินทุนอย่างไม่มีระบบ

 

นอกจากนี้ ยังกำชับให้บรรดาบริษัทในประเทศต้องยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยของข้อมูล และทำให้ความเคลื่อนไหวด้านการเงินเป็นไปตามมาตรการของผู้ควบคุมกฎหมายอีกด้วย

 

ขณะที่รายงานจาก BBC ที่อ้างอิงข้อมูลจากสื่อหลายสำนักเชื่อกันว่า กรณีของ Tencent อาจลงเอยคล้ายๆ กับ Ant Group ที่ถูกบีบให้ต้องจัดตั้งบริษัทใหม่เป็น ไฟแนนเชียล โฮลดิง คอมปานี ขึ้นมา เพื่อรวบรวมธุรกิจด้านการเงินที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบงกิ้ง, ประกัน, ธุรกรรม ฯลฯ

 

มองในแง่หนึ่ง ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนและสีจิ้นผิงในครั้งนี้ก็มี ‘ท่าที’ และจังหวะจะโคนคล้ายคลึงกับท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และออสเตรเลียที่เร่งเดินหน้าหาวิธีรับมือจัดการกับบริษัทเทคโนโลยีที่ดูมี ‘อำนาจ’ และกินรวบตลาดเกินจะควบคุม ก่อนที่อะไรๆ จะสายเกินจัดการ

 

โดยที่ เฉินสี (Chen Xi) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยซีอาน เจียว  (Xi’an Jiaotong University) ยังได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจกับ Bloomberg ไว้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เผยภาพความสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ได้กลายเป็น ‘โครงสร้างขั้นพื้นฐาน’ ในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนในประเทศ ไปจนถึงอำนาจที่อาจสั่นคลอนความมั่นคงของชาติ ซึ่งไม่เพียงแค่จีนเท่านั้น แต่เป็นถึงความท้าทายระดับโลกเลยทีเดียว กับการต้องรับมือกับการขยายตัวของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ

 

ซึ่งต่อจากนี้เราเชื่อว่า ภาพเหตุการณ์ที่รัฐบาล และ Regulator ในหลายประเทศ เดินหน้าเข้าควบคุมบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากอย่างเข้มงวดรัดกุมน่าจะเกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องและชินตาแน่นอน

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising