“อย่างน้อยสิ่งที่เราทำ มันทำให้เด็กอยากเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเก่งระดับประเทศหรอก แค่ให้เขารู้สึกว่าการเรียนภาษาอังกฤษมันสนุกได้ แค่นี่เราก็มีความสุขแล้ว” ครูบอลลี่-ธีรพงษ์ มีสัตย์ หรือทิชเชอร์บอลลี่ ของเด็กๆ โรงเรียนประสาทรัฐประชากิจ จังหวัดราชบุรี ที่โด่งดังจากคลิปไวรัล มิติใหม่แห่งการสอนภาษาอังกฤษ! เมื่อปี 2562

และเป็นคนเดียวกันที่โดนกระแสสังคม (บางส่วน) ตัดสินว่าทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับอาชีพครู โชคดีที่ครูบอลลี่บอกตัวเองเสมอว่า “ฉันจะไม่ทิ้งพาร์ตความสนุกในตัวไป” แถมยังกลายเป็นพลังผลักดันความแซ่บ ซ่า กล้าเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้น พร้อมกับพิสูจน์ให้โลกได้เห็นพลังความสนุกที่ครูบอลลี่สอดแทรกไปกับการสอนภาษาอังกฤษ ด้วยการแต่งตัวจัดหนัก แต่งหน้าจัดเต็ม จนทำสามารถเปลี่ยน ‘วิชาบังคับ’ ที่เด็กบางคนเคยรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้เรียนเพื่อสอบ เรียนเพราะอยู่ในหลักสูตร ให้กลายเป็นวิชาที่เด็กอยากเรียนที่สุดในโรงเรียนได้ 

ค้นหาวิธีปลดปล่อยความสนุกในหัวใจจากสิ่งที่ทำ

“ครู ไม่ใช่อาชีพแรกที่อยากทำ แต่คนต่างจังหวัดอยากให้ลูกหลานรับราชการ คิดแค่ว่าอาชีพครูจะทำให้คนยอมรับในตัวตนของเรามากขึ้น และการได้สิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลให้ครอบครัวก็ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่ ตอนนั้นรู้แค่ว่าชอบภาษาอังกฤษ ชอบคลุกคลีกับนักเรียนแลกเปลี่ยน ชอบช่วยครูทำค่าย English Camp ระหว่างนั้นก็เริ่มเห็นว่าการได้ให้ความรู้คนอื่น ได้ให้โอกาสคน มันก็เป็นความสนุกเหมือนกัน

“จบจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะศึกษาศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษปุ๊บก็สอบบรรจุครูทันที เข้ามาสอนด้วยเป้าหมายที่ท้าทายตัวเองมากๆ คือเราโตมาในโรงเรียนชนบท และถูกปฏิบัติต่างจากคนอื่นเพียงเพราะเป็นเพศที่สาม มีกิจกรรมอะไรก็ไม่ได้เข้าร่วม เหมือนถูกมองข้ามความสามารถไป โอกาสต่างๆ ที่เด็กคนหนึ่งควรได้รับก็ไม่ได้ เราคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทยอีกแล้ว และมันควรเริ่มที่โรงเรียน เป้าหมายคือ ต้องสร้างทัศนคติใหม่ให้เด็กๆ มองทุกคนอย่างเท่าเทียม และถ้าเด็กคนไหนขาดโอกาสทางการศึกษา เราจะต้องสอนให้เขามีวิชาความรู้ เพื่อให้เขาจบไปมีอาชีพที่มั่นคง อนาคตเขาต้องดีกว่าเรา” 

‘ความสนุก’ เครื่องมือทลายกำแพงความต่างที่ได้ผลดีที่สุด

“ไม่ว่าจะเป็นครูที่สอนวิชาอะไร ก็ไม่สามารถบังคับให้เด็กสนใจได้ เราต้องทำให้เขาชอบมันก่อน หรือชอบที่ครูสอน พอเราทำให้เขาชอบหรือทำให้เขาสบายใจ บางทีเราต้องฟังว่านักเรียนต้องการอะไรด้วย ถ้าเราเปิดใจให้เขา เขาก็พร้อมจะเปิดใจให้เรา หลังจากนั้นเราบอกหรือสอนอะไรเขาก็จะฟัง ซึ่งเราเลือกใช้ความสนุก ความเป็นคนเอ็นเตอร์เทน เล่นใหญ่ เสียงดัง เป็นตัวทลายกำแพงเรื่องอายุและความต่าง 

“เคยมีครูวิชาอื่นมาบ่นว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ส่งการบ้าน แต่เชื่อไหมว่าเขาตั้งใจเรียนวิชาเรา เพราะเขารู้สึกสบายใจที่จะถาม ถึงผลการเรียนจะไม่ได้ดีขึ้นทันที แต่อย่างน้อยมันเห็นผลเรื่องความสนใจของเด็ก ต้องบอกก่อนว่าการสอนภาษาอังกฤษมีความยากอยู่แล้ว เพราะเด็กส่วนหนึ่งรู้สึกว่าเขาต้องเรียนวิชานี้เพราะถูกบังคับ เพราะอยู่ภายใต้คำว่าการศึกษาภาคบังคับ ดังนั้น เราจะทำอย่างไรให้เด็กในห้องทั้งหมด ทั้งคนที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษและคนที่ไม่ชอบ ให้เขาชอบเหมือนกัน เราอาจทำให้เด็กเก่งภาษาอังกฤษทั้งหมดไม่ได้ แต่เราจะทำให้เด็กชอบภาษาอังกฤษ นี่คือความท้าทายของเรา

“และประเทศไทยไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลเหมือนหลายๆ ประเทศในอาเซียน พอเรียนแล้วไม่มีโอกาสใช้ก็ลืม ประกอบกับทัศนคติที่ว่าเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ จะเรียนไปทำไม หน้าที่ของเราคือ ชี้ให้เขาเห็นว่าภาษาอังกฤษจำเป็นกับเขาในอนาคตอย่างไร กลุ่มเด็กๆ ของเราซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กในชุมชน ก็เน้นไปที่การสร้างอาชีพ โอกาสที่เขาจะได้งานดีๆ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว  

“ปัญหาการเรียนภาษาอังกฤษที่เราเจอส่วนใหญ่คือ พื้นฐานมาไม่เท่ากัน เด็กมาจากต่างโรงเรียนก็มีพื้นฐานต่างกัน บางทีต้องตั้งต้นใหม่เพื่อให้เด็กในห้องไปได้พร้อมๆ กัน ไหนจะต้องเร่งสอนเพื่อให้ทันกับแผนการเรียนการสอนในแต่ละเทอมที่ว่า เช่น ม.1 ความรู้ภาษาอังกฤษที่นักเรียนได้รับต้องครอบคลุมเนื้อหาอะไรบ้าง เราจะต้องเรียนควบคู่ไปกับการสอบตัวชี้วัด และทำไมต้องทำแบบนั้น เพราะว่าตอนขึ้น ม.3 และตอนขึ้น ม.6 ต้องเอาไปสอบ O-NET นั่นหมายความว่าตอนนี้เด็กไทยเรียนเพื่อไปสอบแข่งกัน เราเชื่อว่าครูทุกคนก็อยากเติมสีสันความสนุกในการเรียน แต่เวลาที่จำกัดจากหลักสูตรที่กำหนดมา ทำให้บางครั้งครูก็ต้องอัดๆ ความรู้ จนเขาไม่สามารถสอดแทรกความสนุกเข้าไปได้

“แต่สำหรับครูบอลลี่ ต้องสนุกค่ะ! (หัวเราะ) อย่างไรความสนุกในการเรียนภาษาอังกฤษก็สำคัญ วิธีคือทำอย่างไรก็ได้ให้เด็กชอบตัวตนเราก่อน นั่นก็คือทำให้เด็กสนุก ซึ่งในความสนุกของเรามันไม่ใช่แค่การแต่งตัว แต่งหน้า แต่มันเกิดจากภาษาที่ใช้ ท่าทาง แต่ในความสนุกเด็กๆ ต้องได้ความรู้ และสิ่งที่ต้องเติมให้เขาคือมารยาทและกาลเทศะ เด็กทุกคนจะรู้ว่าเล่นกับครูได้ แต่ต้องรู้จักกาลเทศะ สนุกในห้องเรียนได้ แต่ต้องมีกฎกติกา เราจะฝึกทั้งวิชาความรู้และวิชาชีวิตให้กับเขา ถ้าอยากเจอครูบอลลี่ร่างนางฟ้าต้องทำตามกฎ แต่ถ้าใครไม่ตั้งใจเรียน หรือทำให้เพื่อนในห้องต้องเสียการเรียนไปด้วย จะเจอครูบอลลี่อีกร่างทันที” 

@harryballyก็เต้นไปเลยสิคะ!🤣 English with Kru Bally ep.2 #ครูบอลลี่ #ยิ้มสู้เจเนอเรชัน #Wacom♬ original sound – HarryBally

อยากเห็นคุณภาพชีวิตของเด็กไทยพัฒนามากกว่าที่จะวัดกันที่คะแนนสอบ

“เป้าหมายของเราคือ ‘ภาษาอังกฤษ’ ต้องทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น เราเลยอยากเห็นคุณภาพชีวิตของเด็กไทยพัฒนามากกว่าที่จะวัดกันที่คะแนนสอบ ที่สำคัญคือ เขาต้องมีภูมิคุ้มกันนำสิ่งที่เราสอนเป็นอาวุธติดตัวเลี้ยงดูตัวเอง เลี้ยงดูพ่อแม่ได้ หรือพาพ่อแม่ไปอยู่ในจุดที่มีความสุขได้” 

“เรียนกับครูบอลสนุกจังเลย” เสียงเล็กๆ ที่เติมพลังใจในวันที่เหน็ดเหนื่อย

“คำๆ นี้มันเป็นพลังใจที่ดีมากๆ เวลาได้ยินเด็กที่เรียนกับเราชอบและอยากเรียนภาษาอังกฤษ หรือเด็กห้องอื่นที่ไม่ได้เรียนกับเรามาบอกว่าอยากเรียนกับครูบอลลี่ มันเป็นพลังบวกที่ทำให้เรามีพลังในการสู้ต่อบนเส้นทางครู โดยเฉพาะช่วงโควิดเป็นช่วงที่ดาวน์มาก การเรียนออนไลน์คือการพูดคนเดียวหน้าจอ มันกระทบกับสุขภาพจิตมาก แต่พอได้เห็นคอมเมนต์ดีๆ ก็มีพลังสู้ต่อ เห็นฟีดแบ็กจากแฟนเพจ จากผู้ปกครอง จากนักเรียนที่เราไม่ได้สอน มันคือความภูมิใจ ไม่สำคัญว่าเขาจะเรียนเก่งหรือจะใช้สิ่งที่เราสอนไปหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เราได้ใจเขาแล้ว

“ที่สำคัญ ตลอด 6 ปีที่เป็นครูที่นี่ รู้สึกโชคดีที่ผู้ใหญ่เปิดใจและยอมรับสไตล์การสอนและตัวตนของเรา อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปหลายสื่อว่าจุดเริ่มต้นในการแต่งหน้าแปลกๆ เกิดจากความบังเอิญที่ไปร่วมกิจกรรมของโรงเรียนแล้วล้างหน้าไม่ทัน ก็เข้าสอนทั้งแบบนั้นเลย พอเห็นว่านักเรียนตลก สนุก และทำให้เขาตั้งใจฟังเรามากขึ้น ก็เลยลองเอามาปรับใช้ แต่ถึงจะไม่ได้แต่งเต็ม คาแรกเตอร์เราก็เป็นเหมือนที่เห็นในคลิปอยู่แล้ว เป็นพวกไฮเปอร์ เล่นใหญ่ เสียงดัง การแต่งตัว แต่งหน้า เป็นแค่ออปชันเสริมเป็นครั้งคราวสร้างสีสันให้กับเด็กๆ

“การแต่งหน้าแฟนซีบางทีก็ช่วยปิดบังอารมณ์ที่เราไม่อยากแสดงออกให้เด็กๆ เห็น เคยมีเหมือนกันที่อารมณ์ไม่ดี เบื่อๆ ก็เอาวิกมาใส่ ทาลิปสติกให้ปากใหญ่ๆ แล้วนั่งทำหน้าบึ้งๆ เด็กเห็นก็ขำกันใหญ่คิดว่าเรากำลังเล่นตลก แต่เปล่านะ ข้างในคือบูดมาก แต่พอเด็กขำ กลายเป็นอารมณ์ที่หนักๆ ของเราก็ค่อยๆ เบาขึ้นไปด้วย

“ดังนั้น การสร้างความสนุก สำหรับครูบอลลี่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องเหมาะสม บางทีเราเสียงดังเกินไปจนเด็กกลัว อันนี้เราเองก็ทำไม่ถูกต้อง (หัวเราะ) หรือบางคนสนุกจนออกนอกกรอบ เช่น คอมเมนต์สนุกมือ บูลลี่สนุกปาก จนลืมคิดไปว่าคนอื่นเขาไม่สนุกด้วย เราต้องสนุกอย่างมีขอบเขต สนุกให้อยู่ในกฎเกณฑ์ เวลาเราสร้างความสนุก คนที่อยู่รอบข้างเราต้องสนุกและมีความสุขไปด้วย ไม่ใช่ทำให้คนอื่นเสียความรู้สึก”  

ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วสร้างความสุขจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ รอบตัว

“โดยเฉพาะช่วงนี้ ความรู้สึกของทุกคนเปราะบาง เราต้องไม่สร้างความสนุกบนความทุกข์ของคนอื่น และสำหรับคนที่รู้สึกเครียดกับสถานการณ์ตอนนี้ อันดับแรกเลย เราต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น อะไรที่ทำให้เรามีความสุข ทำเลย ลองสร้างสีสันให้กับตัวเอง เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ เช่น ทรงผม สไตล์การแต่งตัว หรือเอาง่ายๆ แค่เปลี่ยนหน้าจอโทรศัพท์ให้มีสีสันสดใสก็ได้ หรือหาเพื่อนคุย การได้คุยได้แชร์ปัญหากับเพื่อน ก็เหมือนเราได้ปล่อยวางปัญหา ช่วงนี้ถ้ายังต้อง Work from Home ก็ใช้ Zoom โทร FaceTime กันไปก่อน หรือจะสังสรรค์ทิพย์ก็ได้ หาวิธีสร้างความสุขให้ตัวเองให้ได้ 

“ส่วนตัวเราเองจะชอบโทรคุยกับเพื่อน ไม่ก็ซื้อของที่อยากได้ ใครบอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้นี่เถียงใจขาด แต่อย่าลืมว่าต้องห้ามใช้จ่ายเกินตัว อีกวิธีคือ เราเป็นคนชอบสะสมของเล่น ซื้อมาแล้วไม่แกะ เบื่อๆ ค่อยเอาออกมาดูเพื่อซึมซับสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือถ้าสุดท้ายไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ก็จะนึกถึงครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นพลังที่ไม่มีวันหมด” 

ต้องขอบคุณที่ย้ำเตือนว่า “ฉันจะไม่ทิ้งพาร์ตความเป็นเด็กในตัวไป”

“เราไม่ใช่คนที่หาความสุขจากคนอื่น แต่เราหาความสุขจากสิ่งที่เราชอบ จากความเป็นเด็กในตัวเรา เรายังชอบดูการ์ตูน เล่นเกม สะสมของเล่น คำประเภทที่ว่า “โตแล้วทำไมยังเล่นสนุกแบบเด็กๆ” เป็นคำที่ทำอะไรเราไม่ได้เลย เพราะเราสามารถแยกพาร์ตความเป็นมืออาชีพในการทำงานกับพาร์ตสิ่งที่ชอบออกจากกันได้

“แรงบันดาลใจหรือไอเดียในการแต่งตัวที่เห็นก็มาจากของเล่น ของสะสม และการ์ตูนที่เราชอบดู หรือของเล่นบางชิ้นก็เอามาเป็นพร็อพประกอบการสอน เอาไม้กายสิทธิ์มาแทนพอยเตอร์ ใช้สิ่งที่เราชอบ ใช้ความสนุกสนานในตัว ให้เด็กๆ ได้เห็นว่าเราก็สามารถให้ความรู้เขาได้ แม้ว่าภายนอกเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม

“และสิ่งที่ทำมันก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าการเล่นสนุกระหว่างสอนมันสร้างประโยชน์ได้ ทำให้เด็กชอบภาษาอังกฤษมากขึ้น ทำให้เด็กๆ ในห้องเรียนมีความสุข หรือคนที่ดูคลิปเราแล้วเกิดความรู้สึกอยากเรียนภาษาอังกฤษ ถ้าคุณเข้าใจหน้าที่ของความสนุก คุณจะเข้าใจว่าไม่ว่าคุณเป็นใคร อายุเท่าไร ‘ความสนุก’ เป็นเรื่องของทุกคน” 

แล้วคุณล่ะ? ค้นพบความสนุกของตัวเองหรือยัง

‘แฟนต้า’ ขอร่วมเป็นพลังเล็กๆ ในการส่งต่อแรงบันดาลใจดีๆ เพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน ผ่านแคมเปญ ‘แฟนต้า แก๊งซ่า แซ่บทุกสี’ (Fanta Colorful People) พร้อมชวนทุกคนออกมาปลดปล่อยความสนุกในหัวใจผ่านกิจกรรมที่ชอบ เพื่อส่งต่อรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้คนอื่นๆ ได้มีความสุขไปด้วยกัน