×

มัดรวมแรงกระเพื่อม Taylor Swift ที่วอลล์สตรีท กับปรากฏการณ์ที่โลกการเงิน (แทบ) ไม่เคยเห็นมาก่อน

30.12.2023
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 MIN READ
  • ช่วงปลายปีแบบนี้ โลกมักจะรอลุ้นว่าใครกันหนอที่จะได้รับมงเป็นบุคคลแห่งปี หรือ Person of the Year ของนิตยสาร TIME สำหรับปี 2023 หลายคนเสนอชื่อ Taylor Swift นักร้องสาวซูเปอร์สตาร์ที่นำทั้ง Joy และ Job (ความสุขและงาน) ไปสู่ทุกที่ที่เดินทางไป โดยมีบางเสียงถึงกับยกย่องว่า สาวเทย์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในอเมริกา!
  • ประเด็น Joy อาจไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่ประเด็น Job นั้นต้องขยาย โดยเฉพาะเมื่อสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่า ผู้ชมทัวร์คอนเสิร์ตของ Taylor Swift มีการใช้จ่ายในและรอบนอกสถานที่แต่ละแห่ง ‘มากพอๆ กับซูเปอร์โบวล์’ ต่างเพียงแต่ว่าทั้งหมดเกิดขึ้นใน 53 คืน ณ 20 สถานที่ที่แตกต่างกันไปในตลอดระยะเวลา 5 เดือน
  • อีกหนึ่งในปรากฏการณ์ที่โลกการเงินแทบไม่เคยเห็นมาก่อนคือ ในบันทึกการวิจัยทางการเงินฉบับล่าสุด นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทหันมาใช้ชื่อเพลงของ Taylor Swift เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านในสังคมคนการเงิน ซึ่งภาวะนี้ไม่เพียงหมายความว่าผู้ซื้อขายหุ้นหลายคนกลายเป็น ‘Swifties’ ไปแล้ว แต่ยังสะท้อนถึงแรงกระเพื่อมที่กระแส Taylor Swift ส่งผลต่อวอลล์สตรีทอย่างชัดเจน

ไม่ใช่พ่อมดอย่าง Elon Musk และไม่ใช่ Volodymyr Zelenskyy ประธานาธิบดียูเครน แต่เป็นนักร้องดัง Taylor Swift ที่ Peggy Noonan คอลัมนิสต์แห่ง The Wall Street Journal ได้เสนอชื่อให้เป็น Person of the Year โดยแสดงความคิดเห็นบอกผู้อ่านว่า “เราทุกคนควรขอบคุณ Taylor Swift” เพราะแม่เทย์คือสิ่งดีงามที่สุดที่เกิดในสหรัฐฯ ในช่วงปีที่ผ่านมา



Noonan อธิบายว่า ทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำลายทุกสถิติของ Taylor Swift ไม่เพียงทำให้ชื่อเสียงของนักร้องสาวแข็งแกร่งในฐานะอเมริกันป๊อปไอคอนเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกที่ที่สาวเทย์เดินทางไป หนึ่งในสัญญาณที่เห็นชัดคือในช่วงจบทัวร์ ‘The Eras Tour’ ที่สหรัฐฯ ซูเปอร์สตาร์สาวได้มอบเงินโบนัสจำนวน 55 ล้านดอลลาร์ให้กับทีมงานจนเป็นข่าวดัง ขณะที่ย่านใจกลางเมืองทั่วสหรัฐฯ ที่เคยได้รับผลกระทบจากโรคระบาด การจลาจล และการประท้วงในปี 2020 ล้วนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามา และธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่นที่บูมขึ้นอีกครั้ง

 

ประเด็นที่ว่าคอนเสิร์ตของ Swift ได้สร้างงานในหลายเมืองของสหรัฐฯ นั้นถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะทัวร์คอนเสิร์ตที่ลอสแอนเจลิสที่ขายตั๋วได้หมดในเดือนสิงหาคมนั้น ได้อัดฉีดเม็ดเงินสู่ท้องถิ่นมากกว่า 320 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงงาน 3,300 ตำแหน่ง และรายได้ในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น 160 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดเป็นปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความบันเทิงแบบยิ่งใหญ่มาก เรียกว่า Taylor Swift ไปที่ไหน ก็เหมือนสามปีวิกฤตโควิดนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

 

2023 ปีทอง Taylor Swift

 

ต้องยอมรับว่าปี 2023 เป็นปีทองของ Taylor Swift ผู้อยู่ในธุรกิจนี้มาเป็นเวลานาน เมื่ออายุได้ 10 ขวบหนูน้อย Swift ได้ตัดสินใจเป็นนักแต่งเพลง จนเมื่ออายุ 13 ปีก็ได้รับข้อเสนอจาก RCA ซึ่งเป็นค่ายในเครือ Sony Music และอีก 1 ปีต่อมา Taylor Swift ก็ชักชวนพ่อแม่ซึ่งทำงานเป็นโบรกเกอร์หุ้นของ Merrill Lynch และผู้บริหารฝ่ายการตลาด ให้ย้ายจากชานเมืองเพนซิลเวเนียไปยังแนชวิลล์ เพื่อช่วยสานฝันด้านดนตรีให้เป็นจริง



ในปี 2005 สาว Taylor Swift เซ็นสัญญากับ Big Machine Records หลังจากได้รับความสนใจจากหัวหน้าวง Scott Borchetta ที่ The Bluebird Cafe ในแนชวิลล์ และเมื่ออายุเพียง 16 ปี Taylor Swift ก็ออกอัลบั้มเปิดตัวโดยใช้ชื่อตัวเอง ซึ่งทำสถิติระดับประเทศ ตั้งแต่นั้น Taylor Swift ทยอยออกอัลบั้มต่อเนื่อง 10 อัลบั้ม และได้รับรางวัลมากมายนับไม่ถ้วน รวมถึงรางวัลแกรมมี่ 12 รางวัล จากการเสนอชื่อเข้าชิง 46 ครั้ง

 

ทำไม Taylor Swift ถึงประสบความสำเร็จขนาดนี้? บางคำวิเคราะห์เชื่อว่า Taylor Swift มีคุณสมบัติที่หายากหลายข้ออยู่ในตัว ทั้งจรรยาบรรณในการทำงาน ความเข้าใจด้านการตลาด สัญชาตญาณทางธุรกิจ และความมุ่งมั่นที่ไม่ธรรมดา แต่ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ Taylor Swift เป็นนักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะเขียนร่วมกับนักแต่งเพลงและผู้สร้างเพลงฮิตชั้นนำ แต่ศาสตราจารย์วิชาภาษาอังกฤษก็ยังยกย่องว่า Taylor Swift มีพรสวรรค์ด้านการผสมผสานคำจนทำให้เพลงมีท่อนฮุกที่ติดหู

 

ปี 2023 ถือเป็นอีกปีที่ดีที่สุดของสาว Taylor Swift เพราะไม่เพียงทัวร์คอนเสิร์ตที่สร้างสถิติถล่มทลาย แต่ Taylor Swift ยังแฮปปี้กับความรักที่เป็นข่าวดังในปีนี้ พร้อมกับได้รับเลือกให้เป็น ‘ศิลปินแห่งปี’ จาก Apple Music ขณะเดียวกันก็มีการออก ‘ภาพยนตร์คอนเสิร์ต’ บล็อกบัสเตอร์ที่บันทึกจากเวทีทัวร์ของเธอ และล่าสุดคือ Taylor Swift เพิ่งประกาศว่าจะพร้อมให้ทุกคนได้เช่าคอนเทนต์ในบริการสตรีมมิง เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของเทย์เอง

 

การฉายคอนเสิร์ตบนบริการสตรีมมิงนี้ทำให้ Taylor Swift ถูกมองว่ากำลังดำเนินกลยุทธ์การตลาดระดับปรมาจารย์ เพราะไม่เพียงการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาทั่วโลก แต่การออกฉายภาพยนตร์คอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์หลังจากการทัวร์อเมริกา และการให้บริการผ่านบริการสตรีมมิงนั้น เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้แฟนเพลงสามารถชำระค่าคอนเสิร์ตเดียวกันได้หลายครั้ง 

 

 

การตัดสินใจออกฉายภาพยนตร์บนสตรีมมิงในวันเกิดนั้นถูกมองว่าจะสามารถเพิ่มมิติที่มีเอกลักษณ์ และสอดคล้องกับแนวทางการเล่าเรื่องของ Taylor Swift ที่เป็นธรรมชาติมากๆ เรียกว่าตกผลึกจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับฐานผู้ฟัง และการมอบสิ่งที่แฟนเพลงต้องการ

 

ในมุมนักเศรษฐศาสตร์เชื่อกันว่า อิทธิพลมหาศาลของ Taylor Swift เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของ Taylor Swift กับผู้ชม ซึ่งส่งผลให้เกิดทั้งความภักดีและการสนับสนุนทางการเงิน นำไปสู่ความเต็มใจของทุกคนที่จะลงทุนเพื่อแลกกับการรับประสบการณ์คอนเสิร์ตของแม่เทย์ ซึ่งการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมป๊อปกับพลังทางการเงินนี้เองที่ขยายผลไปสู่วงกว้าง ทำให้ Taylor Swift กลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น

 

พลังวัฒนธรรม สู่อิทธิพลเศรษฐกิจ-องค์กร

 

ความสามารถในการกระตุ้น GDP ของ Taylor Swift ทำให้ข้อมูลเม็ดเงินจากพลังแฟนคลับ Taylor Swift ถูกบันทึกใน June Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐแห่งฟิลาเดลเฟีย หรือ Federal Reserve Bank of Philadelphia ซึ่งประกาศว่า The Eras Tour ที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2023 นั้นมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ของโรงแรมในเมือง ทำให้เดือนพฤษภาคม 2023 เป็นเดือนที่รายได้ของโรงแรมแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ ขณะที่องค์กรการท่องเที่ยวในชิคาโกระบุว่า ทัวร์ของ Taylor Swift ได้สร้างสถิติยอดจองโรงแรมสูงที่สุดตลอดกาลในช่วงต้นเดือนมิถุนายน โดยมีการเข้าพักในโรงแรมมากกว่า 44,000 ห้องในแต่ละคืนของคอนเสิร์ต และสร้างรายได้จากโรงแรม 39 ล้านดอลลาร์

 

อีกปรากฏการณ์หายากที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือเพลงทั้งเก่าและใหม่ของสาวเทย์ได้สร้างกระแสรับชมและรับฟังหลายล้านสตรีม พร้อมกับที่ภาพยนตร์ซึ่งถ่ายทำจากเวทีทัวร์ของ Taylor Swift ก็ทำรายได้ทะลุ 200 ล้านดอลลาร์ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก และการปรากฏตัวของแม่เทย์ในเกมฟุตบอลก็ช่วยเพิ่มเรตติ้ง NFL หรือ National Football League ดันยอดขายเสื้อแข่งทีม Kansas City Chiefs ต้นสังกัดของแฟนหนุ่ม Travis Kelce ให้คึกคักอีกครั้ง ตรงนี้ Bloomberg Economics ประมาณการว่า กระแส Taylor Swift ร่วมกับทัวร์ของ Beyoncé และภาพยนตร์ Barbenheimer อาจมีส่วนช่วยให้การเติบโตของสหรัฐฯ สูงขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด 

 

ฟากนักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทนั้นมีการใช้ชื่อเพลงของ Taylor Swift สอดแทรกไว้ในบันทึกการวิจัยของบริษัท แสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบและอารมณ์ขันของแต่ละค่าย

 

ตัวอย่างเช่น บันทึกการวิจัยจาก BTIG มีชื่อว่า ‘Now We Got Bad Blood’ และอีกหนึ่งฉบับจาก David Kostin แห่ง Goldman Sachs ก็จั่วเรื่องสำหรับรายงานว่า ‘All You Had To Do Was Stay’ ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดเป็นภาพว่า นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทจำนวนมากได้กลายเป็นแฟนตัวยงของ Taylor Swift โดยเพิ่มน้ำเสียงที่สดชื่นและเป็นกันเองมากขึ้นให้กับรายงานที่แสนจะเป็นทางการของบริษัท

 

ในอีกด้าน ผลกระทบของ Swift ยังลามไปถึงด้านวัฒนธรรมองค์กรด้วย เพราะการที่ Taylor Swift มอบโบนัสมากมายให้กับทีมงานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนคอนเสิร์ตมูลค่ารวม 55 ล้านดอลลาร์นั้น ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการแบ่งปันผลกำไรขององค์กรที่มีรายได้สูงลิ่ว บางรายงานมองว่า ‘ความมีน้ำใจ’ นี้เกิดขึ้นกับ Taylor Swift ได้ องค์กรก็ควรจะทำได้เช่นกัน ไม่ใช่เอะอะก็มอบโบนัสให้ผู้บริหารระดับสูง

 

แน่นอนว่าการแบ่งปันน้ำใจของ Taylor Swift นั้นมาจากความสำเร็จอันงดงามของการเดินสายทัวร์ โดยทำรายได้เกือบ 13 ล้านดอลลาร์ต่อคืน เบื้องต้นทรัพย์สินสุทธิของ Taylor Swift อยู่ที่ประมาณ 740 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ในไม่นาน ทำให้ Taylor Swift เป็นหนึ่งในศิลปินที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเรียบร้อย

 


Taylor Swift บุคคลแห่งปี

 

นี่ไม่ใช่ปีแรกที่ Taylor Swift มีชื่อเข้าไปอยู่ในทำเนียบตัวเต็งบุคคลแห่งปีของนิตยสาร TIME แต่เทย์เทย์เคยเป็นหนึ่งในกลุ่ม The Silence Breakers กลุ่มพลังเงียบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ปลดปล่อยตนเองจากการเป็นเหยื่อของการถูกการคุกคามทางเพศ และลุกขึ้นต่อต้านการถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดย The Silence Breakers ถูกยกเป็นบุคคลแห่งปี 2017 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

 

สำหรับปีนี้ ชื่อของ Taylor Swift ไม่ได้ถูกกล่าวถึงแค่ในวงการบันเทิง แฟชั่น หรือกีฬาเท่านั้น แต่ยังถูกยกย่องว่าเป็นผู้รอบรู้ทางการเมือง สามารถจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นเยาว์ให้สนใจเรื่องการเมืองได้ด้วย แปลว่าการมอบความสุขให้กับชาว Swifties หลายล้านคนสามารถแสดงให้เห็นถึงพลังสำคัญทางวัฒนธรรมที่มีต่อคนรุ่นต่อไปของ Taylor ทำให้ Swift กลายเป็น ‘ความมหัศจรรย์’ ที่เห็นได้ด้วยตาและรับรู้ได้ด้วยใจ ซึ่งส่งให้ Taylor Swift กลายเป็นอีกคนสำคัญที่สมควรได้รับการยกย่องในปี 2023 และปีต่อๆ ไป

 

วันนี้ Taylor Swift คือป๊อปสตาร์คนล่าสุดที่ถูกวิเคราะห์ในหลักสูตร ‘Artistry & Entrepreneurship: Taylor’s Version’ ซึ่งจะเปิดสอนที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (UC Berkeley) เพื่อเจาะลึกปัจจัยสำหรับการก้าวขึ้นสู่ปรากฏการณ์ระดับโลก 

 

โดยก่อนหน้านี้ Jay-Z, Queen และ Bob Marley ต่างเป็นหนึ่งในหลายศิลปินที่ดึงดูดความสนใจของนักเรียนมานานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะกลุ่มที่มองว่าดนตรีเป็นมากกว่าแฟชั่น ซึ่งในกรณีของ Taylor Swift นักศึกษาจะไม่ได้เรียนเกี่ยวกับด้านเพลงเท่านั้น แต่ยังมีส่วนของ ‘การเป็นผู้ประกอบการ’ ที่เป็นอีกแง่มุมที่ควรค่าแก่การศึกษา และเป็นคำตอบของที่มาอาณาจักรเงินหลายร้อยล้านของสาวเทย์

 

รวมถึงแรงกระเพื่อมอื่นจาก Taylor Swift ที่ชาวโลกยังต้องรอดูอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ภาพ: Buda Mendes / TAS23 / Getty Images for TAS Rights Management

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising