คนขับแท็กซี่ส่วนบุคคลเขียวเหลืองกว่า 100 คน นำโดยนายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงคมนาคม เรียกร้องให้ยกเลิกประกาศกฎกระทรวงให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ติดตั้งระบบติดตามรถ หรือ GPS พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ มิเตอร์ค่าโดยสาร ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสาร (Emergency) และกล้องบันทึกภาพภายในรถแบบ Snap Shot
วรพล กล่าวว่า ปัจจุบันคนขับรถแท็กซี่ส่วนบุคคลเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถนำรถใหม่มาขึ้นทะเบียนแท็กซี่ได้หากยังไม่ติดตั้งอุปกรณ์ตามที่ประกาศกฎกระทรวงกำหนด
29,000 บาท คือราคาขั้นต่ำของอุปกรณ์ทั้งหมด หากรวมค่าติดตั้งเบ็ดเสร็จจะตกประมาณ 50,000 บาท และยังต้องเสียค่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตรายเดือนคันละ 450 บาท เพื่อเชื่อมต่อระบบ GPS Tracking ของกรมการขนส่งทางบก
สิ่งที่คนขับแท็กซี่เรียกร้องคือ ขอให้รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมด หรือไม่ก็ยกเลิกกฎกระทรวงนี้กลับไปใช้กฎกระทรวงเดิม
ส่วนในเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับบริษัทเอกชนและกรมขนส่งทางบกพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘Pro Taxi’ ขึ้นยกระดับแท็กซี่ไทย แก้ปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร โดย Pro Taxi จะสามารถเชื่อมกับระบบกลางของกรมการขนส่งทางบกได้ และเตรียมเปิดให้สามารถดาวน์โหลดได้ในช่วงเดือนมกราคม 2561
ปัจจุบันทางสมาคมฯ มีแท็กซี่ส่วนบุคคลเป็นสมาชิกกว่า 8,000 คน ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีแอปพลิเคชันรองรับเรื่องความปลอดภัยอยู่แล้ว ไม่เห็นความจำเป็นต้องเพิ่มอุปกรณ์พวกนี้ซึ่งล้าสมัยและมีราคาแพง
วรพล เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบริษัทได้รับอนุญาตให้ติดตั้งระบบ GPS และอุปกรณ์อื่นๆ รวม 16 บริษัท ประกอบด้วย 8 บริษัท กับอีก 8 สหกรณ์ ซึ่งแต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน
วรพล มองว่า อุปกรณ์พวกนี้เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางราย แต่เป็นการทำร้ายคนขับแท็กซี่ทั่วประเทศ ล่าสุดมีแท็กซี่ออกใหม่ที่ขึ้นทะเบียนไม่ได้เพราะยังไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ GPS กว่า 10,000 คัน และภายในปีหน้าจะมีแท็กซี่ขอจดทะเบียนใหม่อีกกว่า 80,000 คัน
ทั้งนี้ภายหลังการพูดคุยระหว่างสมาคมกับนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สรุปว่ากระทรวงคมนาคมรับทราบความเดือดร้อนและปัญหาที่เกิดขึ้น คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางสมาคมได้ยื่นศาลปกครองขอให้พิจารณายกเลิกประกาศกฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล