วันนี้ (24 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา ‘ทวีไอพี’ ที่สื่อมวลชนตั้งให้ว่า ต้องขอบคุณในฐานะที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะ หากมองในแง่บวก IP คือ Internet Public ซึ่งอยากใช้ฉายานี้เป็นประโยชน์ เพราะต้องการนำความยุติธรรมไปถึงประชาชน สิ่งที่อยากจะทำในปีใหม่นี้คือการขจัดปัญหายาเสพติด คงไม่เรียกว่าสงครามยาเสพติด แต่จะแก้ไขปัญหาอย่างไรให้ประชาชนมีความปลอดภัย รวมถึงความยากจน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมดูเรื่องหนี้สิน การขจัดผู้มีอิทธิพลและคอร์รัปชัน ตลอดจนการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นสิ่งที่จะต้องทำให้เร็วเพื่อประชาชนทุกคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าความยุติธรรมถูกมองว่าสองมาตรฐานและเป็นความยุติธรรมที่เข้าถึงเฉพาะบุคคล พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า อาจเพราะยังไม่เคยมีใครที่ไม่เคยเข้าไปช่วยเหลือ แต่ถ้าดูเรื่องการพักโทษหากใครคิดว่าไม่เป็นธรรมและมองว่าเป็นสองมาตรฐาน ถ้าเราเข้าช่วยเหลือได้ก็จะช่วยเหลือเต็มที่ ส่วนที่มีการมองว่ากลุ่มการเมืองจะได้รับการพักโทษเป็นลำดับแรกนั้นไม่น่าจะใช่ เพราะการพักโทษมีอยู่ทุกเดือน เพียงแต่ไม่ได้ออกมาพูดหรือเป็นข่าว และก็ได้ให้นโยบายเรื่องการพักโทษ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งตามกฎหมายการพักโทษคือยังรับโทษอยู่ เพียงแต่เราเชื่อว่าเขาจะไม่ไปก่ออาชญากรรม หรือบางคนมีอาการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อในการสำรวจความคิดเห็นและความเชื่อมั่นของประชาชน แต่ภาพที่เห็นก็จะนำไปปรับปรุงในการทำงาน
เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เร่งรัดให้ตรวจสอบ 12 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับชั้น 14 นั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นข้อเสนอของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม กรมราชทัณฑ์ได้เชิญตนไปประชุมและได้พบกับ 12 คน โดยทุกคนมีความมั่นใจเพราะทำตามระเบียบและกฎหมาย เชื่อมั่นว่ามีพยานหลักฐานสำหรับในส่วนของราชทัณฑ์ ส่วนโรงพยาบาลตำรวจนั้นตนย้ำเสมอว่าได้เห็นหลักฐานในช่วงที่ครบรอบ 120 วัน และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเรื่องการป่วย ซึ่งเป็นทีมแพทย์ทั้งหมด เชื่อมั่นว่าหากมีหลักฐานที่ปรากฏตามที่ตนเห็นและส่งไปให้ ป.ป.ช. จะเป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้
พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ทักษิณต้องราชทัณฑ์ 6 เดือน แม้จะไม่ได้อยู่ในเรือนจำ แต่เราได้เขียนกฎหมายและกฎกระทรวงเอาไว้ให้โรงพยาบาลเป็นที่ควบคุม รวมทั้งมีหนังสืออายัดตัว เป็นมุมที่กรมราชทัณฑ์ได้ทำตามมาตรฐาน ส่วนภาพของทักษิณที่ดูแข็งแรงมากจนไม่เหมือนคนป่วยนั้นนั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง
“บางคนมองภาพภายนอกดูแข็งแรงแต่ภายในอาจป่วย เราต้องเชื่อแพทย์ ทุกอย่างต้องเชื่อแพทย์ และเราไม่ได้เชื่อทั้งหมดเพราะแพทย์ แต่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่เปิดเผยไม่ได้ ซึ่งในระหว่างประชุมแพทย์มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น ผลเอ็มอาร์ไอ” พ.ต.อ. ทวี กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีแพทยสภาตรวจสอบว่าแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจได้ปฏิบัติโดยยึดตามหลักวิชาชีพหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เราต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง อย่าไปอยู่บนความกลัว เชื่อมั่นว่าถ้าทุกคนได้รับความจริงเขาก็ต้องใช้ดุลพินิจ ซึ่งเราเคารพทุกหน่วยงาน
ส่วนหากแพทย์ทำตามหลักวิชาชีพถูกต้องตามกระบวนการก็ไม่มีอะไรต้องกลัวใช่หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เราเชื่อมั่นในการทำงาน และเป็นการทำงานตามปกติ แม้ขณะนั้นตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งได้เห็นหลักฐานและดูอย่างละเอียด รวมถึงให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบด้วย
เมื่อถามถึงกรณีทักษิณจะขออนุญาตศาลอาญาออกนอกประเทศเพื่อไปพบกับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เมืองลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีคดีมาตรา 112 พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่ได้ติดตาม หากศาลห้ามไปก็ต้องขออนุญาตศาล