×

ศาลอาญาออกหมายปล่อยชั่วคราว 1 เดือน ‘ตะวัน-แบม’ ไม่มีเงื่อนไข หลัง ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ยื่นคำร้อง ร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง

โดย THE STANDARD TEAM
07.02.2023
  • LOADING...

วันนี้ (7 กุมภาพันธ์) นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอปล่อยชั่วคราวในคดีหมายเลขดำ อ.1237/2565 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เป็นจำเลย 

 

โดย นพ.พฤหัส อ้างถึงสถานะในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐในสถานพยาบาลที่ได้รับมอบตัวผู้ต้องควบคุมภายใต้อำนาจศาลไว้ดูแลและได้รับมอบหมายจากกรมราชทัณฑ์ ขอปล่อยชั่วคราวจำเลย ซึ่งได้รายงานถึงสุขภาพของจำเลยที่ได้อดข้าวและน้ำเพื่อเรียกร้องตามข้อเรียกร้อง ตั้งแต่เย็นวันที่ 18 มกราคม 2566 โดยระบุถึงอาการล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ด้วยว่าอาการโดยรวมของผู้ถูกควบคุมตัวมีภาวะคีโตนในเลือดสูงมากขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานกรองของเสียของไตลดลงอย่างมาก อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ 

 

ซึ่งโรงพยาบาลเห็นว่าจำเลยอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณา และสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง จึงขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนหมายขังและให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีโดยไม่มีเงื่อนไข ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในเรื่องการสันนิษฐานจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา และหลักการการควบคุมผู้ต้องหาหรือจำเลยให้ทำได้เท่าที่จำเป็นเพื่อมิให้มีการหลบหนี ซึ่งจะทำให้การรักษาตัวและฟื้นฟูสภาพร่างกายของจำเลยทำได้สะดวกและลดเงื่อนไขที่อาจจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต

 

ต่อมาศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยอยู่ในความดูแลรักษาของโรงพยาบาลที่ผู้ร้องเป็นผู้ควบคุมดูแลอยู่ เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นนายแพทย์รายงานมาว่าจำเลยอยู่ในภาวะวิกฤตอาจเสียชีวิตได้ ประกอบกับการเข้าเยี่ยมจำเลยจากบุคคลใกล้ชิดในกรณีที่จำเลยยังอยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องเป็นไปตามระเบียบ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาในการเยียวยาจิตใจของจำเลยขณะอยู่ในภาวะวิกฤต 

 

กรณีมีเหตุสมควรให้ออกหมายปล่อยจำเลยชั่วคราว มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรคสาม เมื่อครบเวลาปล่อยชั่วคราวแล้ว ให้จำเลยมารายงานตัวต่อศาล โดยให้ออกหมายปล่อยจำเลยวันนี้ และแจ้งผู้ร้องทราบด้วย

 

ต่อมาเวลา 17.30 น. ความคืบหน้าหลังจากที่ นพ.พฤหัส ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอปล่อยชั่วคราว แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ จำเลยที่ 7 ในคดีหมายเลขดำ อ.765/2565

 

โดยศาลอาญากรุงเทพใต้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ร้องเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่รักษาจำเลยที่ 7 ผู้ร้องจึงมิใช่ผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106 แต่เมื่อความปรากฏตามคำร้องทำนองว่า จำเลยยืนยันปฏิเสธการรักษาและแจ้งความประสงค์ที่จะรับการรักษาจากโรงพยาบาลภายนอก โดยยังคงไม่รับประทานอาหาร อาการโดยรวมของจําเลยที่ 7 เลวร้ายลงมากจนอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากมีภาวะคีโตนในเลือดสูงมากขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานกรองของเสียของไตลดลงอย่างมาก จำเลยอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะแก่การควบคุมตัวระหว่างพิจารณาคดี และสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง 

 

หากยังคงควบคุมตัวจำเลยเอาไว้ มีโอกาสที่จำเลยอาจเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวได้ สอดคล้องกับรายงานการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และหนังสือของทัณฑสถานหญิงกลาง ที่อ้างถึงแถลงการณ์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จึงน่าเชื่อว่าอาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 7 อยู่ในขั้นวิกฤต 

 

หากจำขังจำเลยที่ 7 ต่อไป จำเลยที่ 7 อาจจะถึงอันตรายแก่ชีวิต เช่นนี้การกำหนดเงื่อนในการปล่อยชั่วคราวใดๆ ในช่วงเวลานี้จึงมิใช่สาระอันสำคัญและจำเป็นยิ่งไปกว่าการคุ้มครองดูแลชีวิตของจำเลยที่ 7 ทั้งจำเลยที่ 7 เจ็บป่วยถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิต โอกาสที่จำเลยที่ 7 จะก่อภัยอันตรายหรือสร้างความเสียหายหลังจากการปล่อยชั่วคราวจึงเป็นไปได้ยาก อีกทั้งจำเลยที่ 7 เคยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาแล้วช่วงเวลาหนึ่งและไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี 

 

เมื่อความปรากฏต่อศาลเช่นนี้ อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71 วรรคสาม และมาตรา 108 วรรคสอง จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 7 ชั่วคราวโดยไม่มีประกัน ออกหมายปล่อยจําเลยที่ 7 และหมายแจ้งคำสั่งให้จำเลยที่ 7 และผู้ร้องทราบ กำชับให้จำเลยที่ 7 มาศาลตามที่นัดไว้แล้วด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าว THE STANDARD ได้รับข้อมูลจาก นพ.พฤหัส เพิ่มเติมว่า นักกิจกรรมทั้งสองมีภาวะเสี่ยงไตวายเฉียบพลัน จากนี้หลังได้รับการปล่อยตัวจากศาล ทีมแพทย์ต้องเข้าไปพูดคุยเจรจาว่าทั้งสองยังตั้งใจจะอดอาหารต่อหรือไม่ ถ้ายังคงยืนยันตามเดิม ทางแพทย์จะโน้มน้าวเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกาย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising