ใจกลางย่านจอแจของเยาวราชที่รายล้อมด้วยร้านรวงและสารพัดสตรีทฟู้ดขึ้นชื่อ คือที่ตั้งของ Potong ร้านอาหารโปรเกรสซีฟไฟน์ไดนิ่งไทย-จีน ซึ่งบูรณะจากห้างขายยาจีนโพทง และด้วยความที่เป็นตึกแถวที่สูงที่สุดเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้ว ทำให้ Potong มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้างขวาง เห็นได้จากการมีทั้งพื้นที่รับรองแขก ห้องรับประทานอาหารสำหรับแขกกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ห้องส่วนตัว ไปจนถึงรูฟท็อปบาร์
ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นสี่แต่เดิมเป็นห้องสูบฝิ่น ปัจจุบันกลายมาเป็น Opium Bar ส่วนชั้นห้า แต่ก่อนเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวเจ้าของร้านขายยาโพทง ก็กลายมาเป็นรูฟท็อปบาร์ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงของ Opium Bar เช่นกัน
บรรยากาศภายในบาร์มีกลิ่นอายความเป็นพื้นที่แฮงเอาต์ชิคๆ สไตล์นิวยอร์ก ผสมกลิ่นอายไชน่าทาวน์เยาวราชยามค่ำคืน และด้วยความที่บาร์เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็น หากมาในช่วงเวลานี้ก็ยังพอมีเวลาชมวิวเยาวราชมุมสูง ก่อนที่จะลงไปดินเนอร์ข้างล่าง หรือสนุกสนานกับสตรีทฟู้ดฮอปปิ้งตามแบบฉบับเยาวราช
การมาจิบที่ Opium Bar ให้ได้อรรถรสที่ดีที่สุดอาจจะแตกต่างจากการจิบค็อกเทลที่บาร์อื่นเล็กน้อย เพราะสิ่งแรกที่ต้องทำคือจองโซนที่นั่ง ซึ่งมีทั้งหมด 4 โซน ได้แก่ Bartender Seats นั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์, Lounge Seats นั่งที่โซฟาตามปกติ, Rooftop Seats นั่งที่ชั้นห้า ดาดฟ้าของร้าน และ Black Jade ห้องส่วนตัวพร้อมบาร์เทนเดอร์
เราแนะนำให้จอง Bartender Seat แล้วเลือก Opium Experience ซึ่งใกล้เคียงกับโอมากาเสะ แต่ละคนจะต้องกรอกรายละเอียดในแบบสอบถามออนไลน์เพื่อที่ทีมบาร์เทนเดอร์จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปครีเอตเป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์เฉพาะคุณ Opium Experience ประกอบด้วยค็อกเทล 4 แก้ว และฟู้ดแพริ่ง ซึ่งจะเสิร์ฟเป็นของกินคำเล็ก เพื่อให้การดื่มค็อกเทลได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และทำให้ค็อกเทลแก้วเดิมอร่อยยิ่งขึ้น
แนวคิดของ Opium Bar เกิดขึ้นภายใต้คำว่า ‘Liquid Surreality’ สิ่งที่เห็นอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่คิด โดยเฉพาะการปรับแต่งสีค็อกเทลหลายแก้วให้ใสแจ๋วเหมือนน้ำเปล่า รูปแบบการนำเสนอดริงก์ที่ใช้เทคนิคผสมผสานทั้งจากการทำอาหารหรือเทคนิควิทยาศาสตร์ หรือการดัดแปลงคลาสสิกค็อกเทลให้มีลูกเล่นและรสชาติซับซ้อนกว่าเดิม รวมไปถึงการทำน้ำเชื่อมและวัตถุดิบที่เป็นองค์ประกอบค็อกเทลแต่ละแก้วเองแบบไม่ต้องพึ่งใคร
ค็อกเทลแบ่งเป็น 6 หมวด ได้แก่ Apéritif ค็อกเทลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำ (Low ABV) และเป็นดริงก์ที่เหมาะสำหรับดื่มก่อนมื้ออาหาร, Sparkle ค็อกเทลผสมโซดาประเภท Highball หรือ Spritz, Acid ค็อกเทลที่ให้ความสดชื่นโดยเติมผลไม้จำพวกซิตรัสหรือกรดต่างๆ, Acid+ ค็อกเทลสดชื่นที่ผสมเหล้าตั้งแต่ 2 ประเภทขึ้นไป, Solo ค็อกเทลแนวสปิริตฟอร์เวิร์ดที่เน้นเหล้าประเภทเดียว อาจมีเหล้าหวานอีกเล็กน้อยเพื่อดึงรสชาติ และ Duo ค็อกเทลแนวสปิริตฟอร์เวิร์ดที่ประกอบด้วยเหล้า 2 ประเภทขึ้นไป รสชาติค่อนข้างซับซ้อน
เริ่มต้นด้วยแก้วเบาๆ เรียกน้ำย่อย Kir Yaowaraj (300 บาท) ทวิสต์มาจาก Kir ค็อกเทลสัญชาติฝรั่งเศส เบสด้วยเหล้าเหล้าหวานรสแบล็กเคอร์แรนต์และไวน์ขาวชาร์ดอนเนย์ โดยเติมกลิ่นอายไชน่าทาวน์ด้วยน้ำชาแล้วท็อปด้วยโซดาที่บาร์ทำขึ้นเอง
แก้วถัดมา 30th Pleat (480 บาท) ไฮบอลทวิสต์ เบสด้วยวิสกี้ที่ผ่านกระบวนการคลาริฟายด์จนใส ผสมเวอร์มุธและโซดาทำเองโดยใช้น้ำกรองอัดก๊าซ ซึ่งให้รสชาติดีกว่าโซดาปกติ และช่วยดึงรสชาติของเหล้าให้ออกมาชัดเจนขึ้น ก่อนที่จะตบท้ายด้วยโฟมเหล้าเกรปฟรุต จิบแล้วให้ความสดชื่น เข้ากับอากาศเมืองร้อน
มาที่เบสิกค็อกเทลอย่างไฮบอลและจินโทนิกกันบ้าง Opium Haibõru (350 บาท) นำเสนอเฮาส์เบลนด์วิสกี้ที่เลือกกลิ่นได้ตามใจชอบ เราแนะนำให้ลองกลิ่น Shio & Yuzu เมื่อเติมคราฟต์โซดาเข้าไปแล้ว สัมผัสได้ถึงคาแรกเตอร์วิสกี้ที่ชัดเจนและความสะอาดที่ชวนจิบเรื่อยๆ จนหมดแก้ว
ส่วน G&T (380 บาท) แนะนำคอลเล็กชัน Expression Gin มีตัวเลือกจิน 4 ชนิด แบ่งตามภูมิภาค โดยเฮดบาร์เทนเดอร์ตีความสภาพภูมิประเทศให้ออกมาเป็นคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนผ่านสมุนไพรและพืชผักผลไม้ที่อินฟิวส์ในจิน
สำหรับสายเข้ม อย่าลืมสั่ง Opium Fashion (450 บาท) แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าน่าสนใจ เพราะเป็นค็อกเทลที่ทวิสต์มาจาก Old Fashioned เบอร์เบินอินฟิวส์กับใบชา Lapsang Souchong ที่ให้กลิ่นควันเป็นเอกลักษณ์ น้ำตาลปี๊บแทนน้ำตาลก้อน และหยดยาปอคุนเอี๊ยะบ๊อแทนบิตเตอร์ แก้วนี้เสิร์ฟพร้อมขนมทรงซิการ์สอดไส้เกาลัด เมื่อรับประทานพร้อมจิบค็อกเทลจะยิ่งทำให้ค็อกเทลมีรสชาติยิ่งขึ้น
หากใครมาที่นี่หลังจากดินเนอร์เสร็จ ลองสั่ง FF (360 บาท) ค็อกเทลที่เบสด้วยจินและผสมชีสเข้าไปด้วย พร้อมรมควันไม้โอ๊กเพื่อเติมกลิ่นหอม
ปิดท้ายด้วย Snow Ti Punch (360 บาท) รัมเบสค็อกเทลที่ได้ไอเดียมาจากรูปแบบการดื่มค็อกเทลในประเทศแถบแคริบเบียนที่ดื่มรัมผสมน้ำตาลอ้อยและมะนาว ซึ่งที่ Opium Bar เปลี่ยนจากน้ำตาลอ้อยทั่วไปมาเป็นน้ำแข็งไสรสน้ำตาลอ้อย เราแนะนำให้เตรียมกล้องให้พร้อมแล้วอัดคลิปไสน้ำแข็งด้วยล่ะ
Opium Bar
Open: วันจันทร์, พฤหัสบดี-อาทิตย์ เวลา 17.00-00.00 น.
Address: 422 ซอยวานิช 1
Budget: 500-1,000 บาท
Tel: 08 2979 3950
Website: www.opiumbarbangkok.com
Map: https://goo.gl/maps/ZefPk9ztQbgML86t6