หลังจากที่บ้านขนมปังสีน้ำเงิน-ครีม-น้ำตาล ย่านพระโขนง HUUS of BREAD ได้เปิดให้บริการครบรอบ 1 ปีเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ทางทีมงานก็ได้เปิดตัวร้านโฉมใหม่ และเมนูใหม่ล่าสุดที่เกิดจากการรีวิวข้อดี-ข้อเสีย จุดเด่น-จุดด้อยของร้านเพื่อทดลองอะไรใหม่ๆ มากขึ้น จนกลายมาเป็น HUUS of BREAD Vol. 2 ให้เราได้ไปอัปเดตกันเป็นที่เรียบร้อย
HUUS of BREAD Vol.2 มีการเติบโตขึ้นไปอีกขั้นตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง และความชอบของทีมงานที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการปรับสีร้านให้คุมโทนเคร่งขรึมขึ้นด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์สีไม้เข้มเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการใช้สีดำ เทา และขาว รวมถึงการใช้วัสดุแบบ Raw Material อย่างหินหรือคอนกรีตหล่อรูปทรงอิสระที่แทรกแซมเข้ามาตามจุดต่างๆ ภายในร้าน การจัดวางแต่ละส่วนของร้านให้มีบรรยากาศความเป็นแกลเลอรีคาเฟ่สไตล์เกาหลีมากขึ้น
ทำให้ HUUS of Bread แห่งนี้มีมู้ดที่เติบโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น พร้อมเสิร์ฟเมนูใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์ลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังคงกลิ่นอายความเป็นบ้านขนมปังที่อบอุ่นแบบ HUUS of Bread เหมือนเดิม และยังคงมีน้องบีเวอร์เป็นมาสคอตประจำร้านมาแจกความสดใสแบบเต็มตัวในรูปแบบของเชฟอบขนมคาดผ้ากันเปื้อนคอยรอเสิร์ฟทุกคน
ทางด้านเมนูใหม่ๆ ของ HUUS of BREAD Vol. 2 ยังมีการคุมโทนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับมู้ดและโทนของตัวร้านด้วย เริ่มจากเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่างช็อกโกแลตดริงก์สุดเข้มข้นจากวอลลุ่มแรกสู่การพัฒนาเป็น Hot Choco Served with Cream (160 บาท) ช็อกโกแลตร้อนที่ลูกค้าหลายคนถามหา เสิร์ฟมาในถ้วยคาปูชิโนสีขาวใบหนาแบบเต็มๆ คัพพร้อมกับวิปครีมในถ้วยเอสเพรสโซที่ให้ลูกค้าเล่นสนุกกับการดื่ม โดยเลือกตักครีมใส่ลงไปในถ้วยช็อกโกร้อนหรือว่าจะตักครีมมาดิปกับช็อกโกร้อนแล้วใส่ปากก่อนดื่มช็อกโกตามก็ได้เช่นกัน แนะนำให้ดื่มที่ร้านเพื่ออรรถรสในการจิบเครื่องดื่มร้อนแบบได้บรรยากาศเหมือนอยู่กาโรซูกิล
Brown Sugar Butter Toast (160 บาท) ลองคิดภาพโทสต์โชคุปังเนื้อหนานุ่มตัวซิกเนเจอร์ของทางร้านที่เราคุ้นเคย เวอร์ชันนี้ถูกนำมารีดีไซน์ใหม่ด้วยการหั่นครึ่งแล้วราดด้วยซอสฮันนี่บัตเตอร์สูตรโฮมเมดของทางร้านที่ทำจากน้ำผึ้งแท้ๆ ไม่ผสมน้ำตาลเลย โปะไอศกรีมวานิลลาลูกใหญ่ที่ทางร้านเลือกแบบที่หอมวานิลลา ทำให้รสชาติของเมนูนี้กลมกล่อม แนะนำให้รีบทาน
Crème Brûlée Toast (180 บาท) ด้วยความที่ทางร้านเองก็เด่นเรื่องเมนูโทสต์ เลยมีการทดลองยกระดับโทสต์แบบสนุกสนานไปอีกขั้นเพื่อเสิร์ฟลูกค้าแบบกินที่ร้านโดยเฉพาะ ด้วยการโปะครีมคัสตาร์ดสดแบบลึกลงไปถึงเนื้อขนมปังจนได้ความหนา แล้วเบิร์นน้ำตาลมาด้านบนให้ลูกค้าได้เล่นสนุกกับการแคร็กแผ่นน้ำตาลเบิร์น ยังไม่พอ หั่นออกมายังได้เจอกับครีมเยิ้มๆ ด้วย หรือถ้าลูกค้านึกสนุกอยากเพิ่มไอศกรีมมากินนคู่กันก็สามารถแจ้งทางร้านได้เลย
ที่ขาดไม่ได้ และไม่พูดถึงไม่ได้คือวิวัฒนาการของเมนูโชนัทแสนถูกใจของทุกคนที่โทนอัพให้เคร่งขรึมขึ้นด้วยกันถึง 2 รสชาติ ได้แก่ Dusty Biscoff Salted Caramel (320 บาท) โชนัทไซส์ M สอดไส้ครีมคาราเมลที่ทางร้านทำเอง เคลือบด้วยซอสคาราเมล และคลุกด้วย Biscoff ป่นอีกที อัดแน่น 5 ชิ้นมาในกล่อง Box Set แต่ละชิ้นจะได้ Texture กรุบๆ มีความหวานหอมของซอสคาราเมล และรสชาติเค็มมันของ Salted Caramel
อีกรสชาติคือ Dusty Chocolate (320 บาท) ที่ทางร้านอยากให้มีรสชาติ Messy ขึ้น จึงเลือกใช้ช็อกโกแลต Valrhona มาเป็นส่วนประกอบหลักโดยทั้งไส้ ผงคลุกด้านนอก รวมถึงครัมเบิลด้านบนก็ใช้ส่วนผสมจากช็อกโกและ Valrhona สุดเข้มข้น หวานน้อย กินได้แบบไม่รู้สึกผิดอีกด้วย อัดแน่นมาในกล่อง Box Set 5 ชิ้นเช่นกัน ส่วนแฟนคลับของโชนัทไซส์ L ไส้ต่างๆ ก็ยังมีเสิร์ฟเหมือนเดิมนะ
สาวกร้าน HUUS of BREAD หรือคาเฟ่ฮอปเปอร์ที่ยังไม่เคยมีโอกาสแวะไป ต้องห้ามพลาดแล้วครั้งนี้
HUUS of BREAD
OPEN: เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
ADDRESS: ถนนพระราม 4 (BTS พระโขนง) จอดรถได้ที่ Summer Hill (มีค่าจอดรถ)
BUDGET: 150-300 บาท
CONTACT: โทรสั่งขนมหรือสอบถามเพิ่มเติม 08 3003 4926
WEB: https://facebook.com/huusofbread
https://instagram.com/huusofbread
MAP: https://goo.gl/maps/UnvU1aSsNxi2k8ZD8