เราเชื่อว่าทุกคนรู้จักโรงแรม Siam@Siam กรุงเทพฯ เป็นอย่างดี แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในระยะเวลาในช่วง 3-4 ปีให้หลังมานี้ ดีไซน์โฮเทลแห่งนี้กลายเป็นแหล่งแฮงก์เอาท์และหมุดหมายใหม่ของนักกินนักดื่มไปเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่การปรับโฉมห้องอาหาร Taan บนชั้น 25 ในรูปแบบอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง ตามด้วยรูฟท็อปบาร์สดใสใส่ใจวัตถุดิบไทยอย่าง Paradise Lost จนกระทั่งต้นปี 2021 พื้นที่ล็อบบี้ด้านล่างได้ถูกเติมเต็มด้วย All-Day Breakfast Spot อย่าง ‘Chim Chim Bangkok’ พื้นที่ที่จะชวนให้คนรักอาหารและศิลปะมาเจอกัน
บรรยากาศร้าน
คำว่า ‘ชิม’ ในภาษาไทยหมายถึงการลองให้รู้รส ซึ่งความหมายของการทดลองเหล่านั้นกลายมาเป็นคอนเซปต์ของสร้างประสบการณ์ให้กับผู้มาเยือนห้องอาหารแห่งนี้ ซึ่งสำหรับเราแล้วรสชาติแรกที่ได้รับผ่านการชิมด้วยสายตาคือรสจัดจ้านจากงานตกแต่ง ที่ความรักในงานออกแบบทำให้โครงสร้างหลักภายในถูกฉาบด้วยสีขาวเป็นผืนผ้าใบขนาดกว้างรองรับงานศิลปะที่หมุนเวียนมาแต่งแต้มสีสันบนผนัง เล่นสนุกด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เกิดจากการชุบชีวิตเฟอร์นิเจอร์เก่าให้สดใสเข้ากันได้ดีกับงานผ้าลายพรินต์จาก Jim Thompson ทั้งหมดถูกขับด้วยแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านกำแพงกระจกตลอดทั้งวัน ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เวลาในโซนอินดอร์หรือเอาต์ดอร์ ทุกมุมให้ความเป็นส่วนตัว และให้บรรยากาศที่เลือกมาในมื้อไหนก็ได้ตลอดทั้งวัน
หน้าตาอาหารเช้าของทางร้าน
ชิมบรรยากาศไปแล้ว ถัดมาเป็นคิวของอาหาร เมนูของที่นี่ดูแลโดยทีมเชฟจาก Siam@Siam กับเมนูที่เราขอเรียกกว้างๆ ก่อนว่าเป็น International Favorites ที่เสิร์ฟจานค่อนข้างใหญ่เหมาะสำหรับการแชร์ริ่งกันหลายๆ คน เลือกได้ทั้งแซนด์วิช สลัด พาสต้า จานหลัก หรือพิซซ่าจากเตาอบพิเศษที่คุณจะได้เห็นเชฟอบอยู่บริเวณกลางร้านตลอดทั้งวัน ที่สำคัญที่นี่เสิร์ฟอาหารเช้าตลอดทั้งวันอีกด้วย
Chicken & Cranberry Sando (ซ้าย) และ Fancy Schmancy Scramble (ขวา)
ไม่ใช่แค่ Taan และ Paradise Lost การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจากผู้ผลิตรายย่อยในประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Chim Chim ด้วยกันตลอดทั้งเมนู เราเริ่มมื้อกันด้วย Fancy Schmancy Scramble (400 บาท) ขนมปังซาวร์โด ทานกับไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อย ไข่ปลาคาเวียร์จากผู้ผลิตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และไข่ปลาดอง ที่เพิ่มความแฟนซีได้อีกด้วยการเลือกเพิ่มเห็ดทรัฟเฟิล ตามด้วย Chicken & Cranberry Sando (320 บาท) จานแซนด์วิชที่ได้แรงบันดาลใจมาจากซันโดสไตล์ญี่ปุ่น แต่ปรุงในแบบของตัวเองด้วยแป้งขนมปังซาวร์โด อกไก่ชิ้นโต และซอสแครนเบอร์รี
Hoki Poke Salad
Hoki Poke Salad (390 บาท) คือจานสลัดที่เราขอยกให้เป็นดาวของเมนูรักสุขภาพ จานนี้เลือกผักเกล็ดหิมะ หรือ Ice Plant ที่สัมผัสกรอบมากๆ มาคลุกเคล้ากับวินิเกรตและทูน่าดิบ คล้ายกับว่าเป็นทูน่าโปเก้ โบวล์ที่แทนข้าวด้วยผัก
Jumbo Tiger Prawns
จานหลักเลือกได้จากเนื้อสัตว์ที่ชอบ ทั้งไก่ หมู หรือกุ้ง ส่วนจานปลาจะเสิร์ฟ Catch of the Day หรือปลาที่ส่งตรงจากชุมพรในแต่ละวัน และ Beef of the Week ที่เลือกใช้เนื้อวัวจากฟาร์มในภาคอีสาน สำหรับสองอย่างนี้ถามพนักงานรายวันได้เลย
Iced Latte จาก Roots และ Corn Millefeuille
บาร์เครื่องดื่มของที่นี่เสิร์ฟกาแฟจาก Roots ที่นอกจากเมนูมาตรฐานแล้วก็ยังมี Single Origin จากแหล่งปลูกต่างๆ มาให้เลือกถึงที่ด้วย เช่นเดียวกับชา ที่เสิร์ฟชาจาก Monsoon Tea กับตัวเลือกที่หลากหลาย รวมถึงเบลนด์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ปิดท้ายอย่าลืมสั่งของหวานอย่าง Corn Millefeuille (260 บาท) แป้งมิลย์เฟยกรอบๆ ที่ผสมข้าวโพดเอาไว้ถึงสามแบบ ทั้งซอร์เบตข้าวโพด คอร์นเฟลกไอศกรีม และป๊อปคอร์นคาราเมล เป็นอันจบ
ณ ตอนนี้ทางร้านจัดแสดงงานของศิลปินดูโอ้นาม Munchausen ซึ่งจากที่เกริ่นไปแล้วข้างต้น งานแสดงของที่นี่จะเวียนไปเรื่อยๆ รวมถึงพื้นที่ชั้น 2 ก็ถูกวางให้เป็นสเปซสำหรับงานเวิร์กช็อปที่จะเริ่มจัดขึ้นเร็วๆ นี้อีกด้วย
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
งานศิลปะจาก Munchausen
บรรยากาศร้าน
บรรยากาศร้าน
Potato, Pesto & Garlic Pizza
Big Chim Beef Burger
Granola, Yoghurt & Honey
Chim Chim Bangkok
Open: เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08:30-22:30 น.
Address: ชั้นลอบบี้ โรงแรม Siam@Siam Design Hotel Bangkok ถนนพระราม 1
Budget: 500-1,000 บาท
Contact: LINE – @chimchimbangkok
WEB: https://www.facebook.com/ChimChimBangkok/
MAP: