วันนี้ (24 กุมภาพันธ์) ความคืบหน้าคดีที่ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่ร่วมกับ แฟรงค์-ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง พยายามขับรถแซงขบวนเสด็จฯ บนทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จฯ ผ่าน และใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
วันนี้ สมหมาย ตัวตุลานนท์ บิดาของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมอิสระ ได้มายื่นขอให้ศาลอาญาพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว ตะวัน และ ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
โดยสมหมายเปิดเผยว่า เมื่อวานได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พบว่าณัฐนนท์มีร่างกายที่แย่มาก ร่างกายขาดน้ำและขาดอาหาร เบลอไปหมด พูดไม่ได้ ส่วนอาการของตะวันร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก การพูดจาสามารถทำได้เพียงแค่กระซิบ แทบจะไม่ได้ยินเลย ถ้าปล่อยต่อไปให้เป็นเช่นนี้ อีกไม่กี่วันไม่แน่ใจว่าจะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่ ทั้งสองคนไม่มีแรงแม้กระทั่งจะฝากบอกอะไรมา เลยมาขอความเมตตาจากศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อออกมารับการรักษา โดยครั้งนี้เป็นการยื่นขอประกันครั้งที่ 3 จึงหวังว่าศาลจะเมตตา
หากปล่อยตัว จะดูแลไม่ให้ยุ่งการเมือง
สมหมายระบุด้วยว่า ในวันเกิดเหตุทั้งสองคนไปร่วมงานศพของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุฟ้าคนหนึ่ง ซึ่งขากลับได้ขึ้นทางด่วนแล้วไปเจอขบวนเสด็จฯ โดยบังเอิญ ไม่ได้มีเจตนาหรือวางแผนเพื่อไปก่อเหตุป่วนขบวนเสด็จฯ แต่อย่างใด เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเส้นทางเสด็จฯ จะใช้เส้นทางใดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่ระหว่างเดินทางอยู่จะไปเจอขบวนเสด็จฯ อีกทั้งขบวนเสด็จฯ ใช้ความเร็ว ไม่มีทางที่จะขับรถตามไปป่วนได้ทัน
“ยอมรับว่าเด็กทั้งสองคนมีพฤติกรรมและใช้วาจาไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ แต่การกล่าวหาดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่เกินความเป็นจริง ลำพังเด็กทั้งสองคนจะไปทำอะไรได้ เพราะถ้ามีการใช้ความรุนแรงจริง เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดขณะเกิดเหตุได้ทันที หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จะดูแลลูกไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองอีก จะให้ใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่นและเรียนให้จบต่อไป” สมหมายกล่าว
สายน้ำยืนยัน ถ้าได้ประกัน ไม่หนี-ไม่ยุ่งหลักฐาน
ด้าน สายน้ำ-นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง ซึ่งมาให้กำลังใจเปิดเผยว่า คดีที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนซึ่งจะครบฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วันในเร็วๆ นี้ ซึ่งต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นฝากขังผลัดที่ 2 ต่อหรือไม่ ซึ่งในคดีนี้พนักงานสอบสวนให้เหตุผลคัดค้านการประกันตัวว่า ผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือหลบหนีได้ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองไม่ได้มีเจตนาหลบหนี และไม่เคยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด จึงไม่เห็นความจำเป็นที่พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคน วันนี้จึงมาให้กำลังใจให้สมหมายเพราะรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงอยากให้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว