×

‘การเมือง’ หรือ ‘วัคซีน’ ทางสองแพร่งที่ไต้หวันต้องเลือก

28.05.2021
  • LOADING...
ไต้หวัน โควิด

หลังได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลกในความสำเร็จจากการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นชาติแรกๆ ของโลก แต่สถานการณ์ของไต้หวันตอนนี้กลับไม่สู้ดีนัก เมื่อการระบาดระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจากหลักหน่วยในช่วงต้นเดือน มาเป็นเกือบวันละ 500 ราย ณ ปัจจุบัน ยอดติดเชื้อสะสมเพิ่มจากประมาณ 1,100 ราย เป็นกว่า 7,000 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจาก 12 ราย เพิ่มเป็นมากกว่า 1,100 ราย ซึ่งตัวเลขล่าสุดเมื่อวานนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 57 รายในวันเดียว

 

แต่ความน่ากังวลที่แท้จริงคือการที่มีชาวไต้หวันเพียงจำนวนน้อยนิดได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในขณะที่การจัดหาวัคซีนก็เป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งจนถึงสัปดาห์นี้ไต้หวันเพิ่งได้รับวัคซีนจาก AstraZeneca ราว 726,000 โดส ในขณะที่ฉีดให้ประชาชนไปได้ประมาณ 320,000 คน หรือคิดเป็น 1.3% ของจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 23 ล้านคน

 

เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดที่กำลังทวีความรุนแรง ทางการไต้หวันตระหนักดีว่าตอนนี้สิ่งที่จำเป็นคือ การจัดหาวัคซีนให้ได้จำนวนมากภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว 

 

ขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะจัดหาวัคซีนจำนวนมากในเวลาอันสั้นนั้นเป็นเรื่องยาก โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25 พฤษภาคม) ดร.เฉิน สือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของไต้หวัน ระบุว่า วัคซีน 2 ล้านโดสจะส่งมาถึงไต้หวันในเดือนหน้า และอีก 10 ล้านโดสในปลายเดือนสิงหาคม

 

“ไต้หวันกำลังดำเนินการเพื่อขยายการฉีดวัคซีน โดยปริมาณวัคซีนที่นำเข้าจะมาถึงอย่างต่อเนื่อง” ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ของไต้หวัน โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์

 

ในขณะที่ไต้หวันกำลังเผชิญความท้าทายในการจัดหาวัคซีน รัฐบาลจีนซึ่งมองไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่ง แสดงความพร้อมที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 ของจีนให้แก่ไต้หวัน

 

แต่การตอบตกลงรับวัคซีนจากจีนนั้นไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย เนื่องจากทั้งสองฝ่ายถือเป็นศัตรูทางการเมือง โดย ไช่อิงเหวิน นั้นมีท่าทีชัดเจนมาตลอดในการสนับสนุนความเป็นเอกราชของไต้หวัน และยืนหยัดต่อต้านการควบคุมจากรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งพยายามบีบให้ไต้หวันยอมรับสถานะมณฑลหนึ่งของจีน

 

สถานการณ์ของไต้หวันในตอนนี้จึงเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดย ศ.สตีฟ จาง จากวิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและการศึกษาแอฟริกาแห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวว่า สิ่งที่เป็นอยู่ของทั้งสองฝ่ายที่ผ่านมาคือ ‘จีนนั้นไม่อาจเอาชนะไต้หวัน ในขณะที่ไต้หวันก็ไม่สามารถเอาชนะจีน’ 

 

ซึ่งหากไต้หวันยอมรับวัคซีนจากจีน มันอาจจะกลายเป็นดูเหมือนว่ารัฐบาลปักกิ่งสามารถดูแลประชาชนไต้หวันได้มากกว่าผู้นำไต้หวันเอง และในกรณีนั้นรัฐบาลไต้หวันอาจจะดูแย่มากๆ 

 

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันภายในที่บีบให้รัฐบาลไต้หวันต้องตัดสินใจเรื่องการยอมรับวัคซีนจากจีนก็มีอยู่ไม่น้อย

 

หงซิ่วฉวน สมาชิกอาวุโสของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยมฝ่ายค้านของไต้หวัน แสดงท่าทีเตือนประธานาธิบดีไช่ว่าศัตรูแท้จริงในตอนนี้คือโควิด-19 ไม่ใช่จีน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับวัคซีนจากจีนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ซึ่งนักการเมืองไม่น้อยก็ส่งข้อความถึงรัฐบาลไต้หวันในลักษณะนี้ ขณะเดียวกันสื่อกระบอกเสียงของทางการจีน เช่น Global Times ก็พาดหัวข่าวกล่าวหาผู้นำไต้หวัน ว่าเพิกเฉยต่อเสียงวิงวอนจากประชาชน และไม่ใยดีในน้ำใจที่รัฐบาลจีนเสนอให้

 

ด้านประธานาธิบดีไช่ตอบโต้กลับโดยกล่าวหาว่า จีนกำลังพยายามแทรกแซงการเจรจาสั่งซื้อวัคซีน Pfizer/BioNTech ของไต้หวัน

 

“เราปฏิเสธการแทรกแซงจากภายนอกในการดำเนินการของเราเพื่อนำวัคซีนมายังไต้หวัน และคัดค้านความพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากการจัดหาวัคซีนเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง” ไช่กล่าว พร้อมฉายภาพของจีนในฐานะอุปสรรคของการจัดหาวัคซีนมากกว่าการให้ความช่วยเหลือ

 

ขณะที่ ศ.จาง เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วประธานาธิบดีไช่จะผ่านภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดหาวัคซีนนี้ไปได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาวไต้หวันเองก็ไม่ต้องการวัคซีนที่ผลิตจากจีน เนื่องจากกังวลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย อีกทั้งที่ผ่านมารัฐบาลไต้หวันยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดการและรับมือสถานการณ์ระบาดที่เกิดขึ้นครั้งแรกได้อย่างดีเยี่ยม

 

ภาพ: Getty Images, ShutterStock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising