×

Taitosmith – เพื่อชีวิตกู (2565): เพราะยังมีชีวิต จึงมีเพลงเพื่อชีวิต

04.03.2022
  • LOADING...
Taitosmith

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ถ้ามองไปถึงแก่นสารของมัน เราน่าจะนับเพลงเพื่อชีวิตว่ามันเป็น ‘วัฒนธรรม’ มากกว่า ‘แนวดนตรี’ ซึ่งแน่นอน วัฒนธรรมย่อมครอบคลุมกว้างขวาง และยิ่งใหญ่กว่าการจำกัดอยู่กับแนวดนตรีอันใดอันหนึ่ง เพลงเพื่อชีวิตมีครบทุกรสชาติของชีวิต ยิ่งมาถึงยุคของไททศมิตร อันมีเรื่องราวหลายรสชาติให้หยิบจับมาอัปเดต อย่างที่เราเคยได้สัมผัสถึงความดุเดือดมาตั้งแต่ผลงานชุดแรกแล้วเมื่อปี 2020 ดังนั้นอัลบั้มใหม่ ‘เพื่อชีวิตกู’ ชุดนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นที่จับตามอง เฝ้ารอเฝ้าคอยจากทั้งแฟนเพลงและเกจิดนตรี ว่าทางวงจะมาไม้ไหน
  • สุ้มสำเนียงและภาพลักษณ์ของไททศมิตร เรียกว่าได้รับกลิ่นอายอย่างชัดเจนจากวงใหญ่ในตำนานอย่าง ‘คาราบาว’ จะว่าไปบทบาทของ 2 นักร้องนำอย่างจ๋ายกับโมส ก็แอบทำให้เรานึกถึงกับน้าแอ๊ดกับพี่เทียรี่ อย่างจ๋ายจะฟาดคำอย่างดุเดือดหนักแน่น ในขณะที่โมสมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มพลิ้ว สลับกันร้องได้อย่างน่าสนใจ และอินเนอร์ในน้ำเสียงที่เปล่งอออกมาแล้วเราเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ
  • มันไม่โอเวอร์เลยที่จะบอกว่าอัลบั้ม ‘เพื่อชีวิตกู’ เป็นหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ทั้งๆ ที่ ณ เพลานี้เรายังไม่ทันได้ข้ามพ้นไตรมาสแรกของปีเลย เป็นอัลบั้มที่ขึ้นสุดลงสุดไม่มีอู้ เต็มที่ในทุกเพลง และภาคโปรดักชันก็มาเต็มแบบเอาไปเปิดโชว์เพื่อนต่างชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งการเรียบเรียงดนตรี ไปจนถึงภาคการบันทึกเสียง มิกซ์และมาสเตอร์ 

มาถูกทาง ไปถูกที่ ขยี้ถูกเวลาเป็นที่สุด ในจังหวะที่สังคมกำลังระส่ำระสายเข้มข้นคนจาง แต่วงการดนตรีบ้านเรายังขาดแคลนบทเพลงที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคมแบบจริงๆ จังๆ มาเนิ่นนาน จนกระทั่งมาถึงวาระการปรากฏตัวของวง ‘ไททศมิตร’ คณะดนตรีเพื่อชีวิตเลือดใหม่ ที่เรียกได้ว่าอายุอานามห่างรุ่นจากศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นก่อนๆ มาไกลหลายทศวรรษเลยทีเดียว จนเราเคยเกือบคิดไปแล้วว่า มันคงไม่มีเพลงเพื่อชีวิตที่อัปเดตเหตุการณ์สมัยใหม่มาให้เราได้ฟังกันอีกแล้ว 

 

ดังนั้นจึงนับได้ว่าจังหวะการมาถึงของวงไททศมิตรนั้น เริ่มต้นมาก็สวยงามแล้ว เหมือนผ่านการดูฤกษ์ยามโดยเกจิดังขมังเวทย์มาก่อน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เนื้องานของวงก็ต้องอยู่ในระดับที่สมน้ำสมเนื้อกับฤกษ์มงคลที่ได้มาด้วยจึงจะถึงเครื่องถึงรส เข้มข้น ข้นคลั่กเหมือนน้ำซุปก้นหม้อ ที่ได้สูตรเตี๋ยวเสียวรูหูมากระตุ้นปุ่มกระสันทางโสตประสาทให้เราได้แซ่บเกร็งกันทุกภาคส่วน 

 

Taitosmith

 

แล้วเพลงแบบไหนล่ะ ที่ถือว่าเป็นเพลงเพื่อชีวิต? 

เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก เพราะเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ‘เพลงเพื่อชีวิต’ ไม่ใช่ชื่อเรียกแนวดนตรี เหมือนที่เรามีดนตรีร็อก, ฮิปฮอป, EDM, นีโอโซล ฯลฯ ที่เราจำแนกด้วยคุณลักษณะของภาคดนตรี หากแต่คำว่า ‘เพลงเพื่อชีวิต’ นั้นเป็นเพียง Blanket Term หรือคำเรียกรวมๆ ของเพลงที่มีเนื้อหากล่าวถึงสภาพสังคม ประวัติศาสตร์ รวมไปถึงเรื่องราวของชีวิตเล็กๆ ที่อาจถูกสายตาคนทั่วไปมองข้าม แต่ถูกนำมาขยายความผ่านมุมมองของศิลปิน ไม่ว่าจะอิงจากเหตุการณ์จริง หรือว่าเป็นเรื่องที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมาล้วนๆ ก็ตาม 

 

ข้อถกเถียงกันที่ว่า แล้วแบบไหนล่ะคือเพลงเพื่อชีวิตที่แท้จริง? นั้นมีมาตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูเมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว เพราะในยุคแรกสุด เพลงเพื่อชีวิตกำเนิดขึ้นมาเพื่อสะท้อนอุดมการณ์ทางการเมือง แต่กาลเวลาก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่า ไม่รู้จะเถียงกันไปทำตุ๊ดตู่อะไร เพลงรักก็สามารถเป็นเพื่อชีวิตได้ หรือใครจะปฏิเสธ ว่าความรักก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทุกชีวิตต้องได้พบพาน…ตอบ! อย่างผลงานของ พี่ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ที่ขึ้นหิ้งไปแล้วก็มีเพลงรักอยู่หลายเพลงนะ 

 

ถ้ามองไปถึงแก่นสารของมัน เราน่าจะนับเพลงเพื่อชีวิตว่ามันเป็น ‘วัฒนธรรม’ มากกว่า ‘แนวดนตรี’ ซึ่งแน่นอน วัฒนธรรมย่อมครอบคลุมกว้างขวาง และยิ่งใหญ่กว่าการจำกัดอยู่กับแนวดนตรีอันใดอันหนึ่ง เพลงเพื่อชีวิตมีครบทุกรสชาติของชีวิต ยิ่งมาถึงยุคของไททศมิตร อันมีเรื่องราวหลายรสชาติให้หยิบจับมาอัปเดต อย่างที่เราเคยได้สัมผัสถึงความดุเดือดมาตั้งแต่ผลงานชุดแรกแล้วเมื่อปี 2020 ดังนั้นอัลบั้มใหม่ ‘เพื่อชีวิตกู’ ชุดนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นที่จับตามอง เฝ้ารอเฝ้าคอยจากทั้งแฟนเพลงและเกจิดนตรี ว่าทางวงจะมาไม้ไหน 

 

Taitosmith

 

มรดกที่ตกทอดสู่ทายาทเพลงเพื่อชีวิต 

สุ้มสำเนียง และภาพลักษณ์ของไททศมิตร เรียกว่าได้รับกลิ่นอายอย่างชัดเจนจากวงใหญ่ในตำนานอย่าง ‘คาราบาว’ ซึ่งเป็นฮีโร่ตลอดกาลของหลายๆ คน ลีลาการเล่าเรื่องเล็ก-เรื่องใหญ่ ทั้งใกล้และไกลตัวผ่านเนื้อเพลงที่เขียนโดยจ๋าย (ร้องนำ) ทำให้นึกถึงสำบัดสำนวนของน้าแอ๊ดอยู่ไม่น้อย แต่ครานี้มาในภาคที่มุทะลุดุดันกว่าด้วยพลังฮอร์โมนอันพุ่งพล่านของม้าหนุ่มคะนองศึก (ฮี่ๆ กุบกับๆ) รวมถึงทั้งภาคดนตรีก็มีความเป็นร็อกอันเดือดพล่านเพื่อมารับน้ำหนักของเนื้อหาดุๆ ให้สมดุลกัน บางเพลงเรามองว่ามันออกไปทาง Progressive Rock ด้วยซ้ำ อาจเป็นด้วยวิธีการเล่าเรื่องต่อกันเป็นฉากๆ อย่างลื่นไหล แล้วภาคดนตรีต้องทำหน้าที่ไหลลื่นรองรับบรรยากาศตามกันไปกับเนื้อร้อง สุ้มเสียงมันเลยเป็นไปตามครรลองนี้แล แต่ก็ไม่ถึงกับฟังซีเรียสเครียดซีรวยแบบ Pink Floyd นะ เพลงที่สนุกสนานมันรากแตกของไททศมิตรก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยเลย บางเพลงมีกลิ่นอายของดนตรีลาตินแบบ Santana ซึ่งไม่แน่ใจว่าทางวงได้รับอิทธิพลมาจากลุง Carlos Santana โดยตรง หรือรับต่อมาจากน้าๆ วงคาราบาว เพราะหลายเพลงของคาราบาวเองก็ได้แรงบันดาลใจจาก Santana มาอย่างแรงกล้า 

 

สุ้มสำเนียงและภาพลักษณ์ของไททศมิตร เรียกว่าได้รับกลิ่นอายอย่างชัดเจนจากวงใหญ่ในตำนานอย่าง ‘คาราบาว’ ซึ่งเป็นฮีโร่ตลอดกาลของหลายๆ คน ลีลาการเล่าเรื่องเล็ก-เรื่องใหญ่ ทั้งใกล้และไกลตัวผ่านเนื้อเพลงที่เขียนโดยจ๋าย (ร้องนำ) ทำให้นึกถึงสำบัดสำนวนของน้าแอ๊ดอยู่ไม่น้อย

 

จะว่าไปบทบาทของ 2 นักร้องนำอย่างจ๋ายกับโมสก็แอบทำให้เรานึกถึงกับน้าแอ๊ดกับพี่เทียรี่นะ อย่างจ๋ายจะฟาดคำอย่างดุเดือดหนักแน่น ในขณะที่โมสต์มาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มพลิ้ว สลับกันร้องได้อย่างน่าสนใจ และอินเนอร์ในน้ำเสียงที่เปล่งอออกมาแล้วเราเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ อาจเป็นเพราะจ๋ายมีประสบการณ์ในการเป็นนักแสดงละครเวทีมาก่อน จึงสามารถถ่ายทอดได้ถึงบทบาทขนาดนี้

 

Taitosmith

 

บทเพลงแห่งความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ยังคงไม่หายไปไหน 

บทเพลงเพื่อชีวิต เคยทำหน้าที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยตั้งแต่ในอดีต มาจนถึงยุคปัจจุบันความเหลื่อมล้ำนั้นก็ยังไม่ได้หายไปไหน แต่กลับยิ่งมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นมากด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่ช่วยเปิดหูเปิดตาพวกเราได้กว้างและง่ายขึ้น ให้เห็นถึงความเป็นไปของโลกอีกใบที่อยู่ในประเทศเดียวกันนี่แหละ และเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนที่เราต้องมาเผชิญกับภาวะโควิดที่มาเป็นตัวกระตุ้น และถ่างความเหลื่อมล้ำทางสังคมเดิมให้กว้างขึ้นและชัดเจนมากขึ้นไปอีก เรื่องราวสำหรับเพลงเพื่อชีวิตจึงมีให้เล่ามากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน นับเป็นจังหวะที่ดีสำหรับวงไททศมิตรที่จะหยิบจับเรื่องราวเหล่านั้นมาปั้นเป็นบทเพลง และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดศิลปินใหม่ๆ ตามกันมาที่เลือกจะสะท้อนเรื่องราวในสังคมกันมากขึ้น 

 

ประเด็นใหม่ๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอย่าเพลง ‘ไอ้สอง’ ที่ว่าด้วยเรื่องของ LGBTQ+ หรือเพศทางเลือก ที่ปัจจุบันมีการรณรงค์ให้ได้รับการยอมรับกันมากขึ้นในสเกลระดับโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรื่องราวง่ายๆ แต่ถูกเล่าอย่างสนุกสนานน่าติดตามทั้งภาคเนื้อร้องและดนตรี และที่สำคัญ แขกรับเชิญที่มาร่วมฟีเจอริงในเพลงนี้ เรียกได้ว่าไม่มีใครจะเหมาะและเติมเต็มเพลงนี้ได้เทียบเท่าเขาคนนี้อีกแล้วในชั่วโมงนี้อย่าง ‘เบน ชลาทิศ’ ศิลปินเสียงคุณภาพสายพ่นไฟ ที่เป็นผู้เปิดเผยเพศสภาพของตนอย่างเต็มภาคภูมิมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเป็นกลุ่มแรกๆ อยู่แล้ว มาช่วยตอกย้ำ LGBT Pride ให้กับเพลงนี้และสังคมนี้ ส่วนภาคดนตรีก็ส่งเสริมตอบรับกันดีเหลือเกิน โดยเฉพาะช่วงเปิดตัว เบน ชลาทิศ ที่เยื้องย่างพร่างพราวเข้ามาราวกับจังหวะเปิดตัวนางโชว์ จนกระทั่งเร่งความร้อนแรงขึ้นจนเป็นดนตรีเต็มวง พร้อมเครื่องเป่าปู้ดป้าดอันยิ่งใหญ่ที่เหมือนพาให้เราไปอยู่ในขบวนเกย์พาเหรดที่ซานฟรานซิสโก ยังไงยังงั้นเลย 

 

 

 

โคโยตี้’ เป็นอีกเพลงเดือดๆ ที่เหล่านักเที่ยวย่านทองหล่อคงไม่เคยได้สัมผัสความมันในจังหวะรถบั๊มแบบนี้ ในดนตรีแนวประยุกต์หมอแคนปะทะหมอซินธ์ยิ่งซิ่งเข้าไปใหญ่ และยังได้น้อง MILLI อันเป็นหนึ่งในตัวแทนกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่มาร่วมแจมด้วย ยิ่งโคตรมันเลยจ้ะพี่จ๋า ลองเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวจาก Exclusive Club สุดหรูที่เช็กบิลมาทีต้องมีหลักหมื่นหลักแสน มาดูโคโยตี้บนรถปิ๊กอัพกันบ้างไหมครับท่านๆ ผู้ทรงเกียรติ จะได้ประหยัดเงินพวกเราลงไปได้บ้าง เพราะรถคันนี้ยินดีต้อนรับความหงี่ของคนทุกชนชั้น 

 

 

สำหรับเพลง ‘ไทเท่’ ที่แม้แนวคิดของเนื้อหาไม่ถึงกับแปลกใหม่อะไรนัก การกล่าวเชิดชูความเป็นไทยที่เคยมีหลายศิลปินในอดีตเคยทำมาแล้ว แต่ไฮไลต์ของครั้งนี้คือการนำมาปลุกเสกด้วยมนตร์ขลังจากสำเนียงการแหล่ของศิลปินแห่งชาติอย่าง คุณอาไวพจน์ เพชรสุพรรณ แห่งบางปลาม้า จึงสร้างความน่าสนใจขึ้นมาได้หลายกอง เท่แบบไทยๆ เพราะเป็นไทยก็เท่ได้ แต่น่าเสียดายที่บทเพลงนี้คงเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของคุณอาไวพจน์แล้วจริงๆ เนื่องจากท่านเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง ส่วนภาคดนตรีก็นำเครื่องดนตรีไทยมาผสมผสานกับ Trap Beat แบบซอยยิกๆ ได้อย่างน่าสนใจ 

 

 

อีกเพลงที่เราชอบในความพลิ้วไหวเซ็กซี่ตั้งแต่อินโทรเสียงแซกโซโฟน คือเพลง ‘ดวงดารา’ ที่พอฟังเนื้อหาแล้วก็เข้าใจได้ทันทีถึงที่มาของความยั่วยวนเบอร์นี้ เพลงนี้คล้ายกับการนำเพลง ‘นางงามตู้กระจก’ ของคาราบาว จากอัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์ (พ.ศ. 2527) มารีเวอร์ชันอีกครั้งให้เป็นฉบับ พ.ศ. 2565 ซึ่งบ่งชี้ให้เราเห็นว่า บางอย่างในสังคมไทยเราก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้เวลาจะเปลี่ยนไปยาวนาน เรื่องราวทำนองเดียวกันก็ยังคงปรากฏอยู่ในเพลง 2 เพลงที่อายุห่างกันถึง 38 ปี

 

 

อันที่จริงเราแอบคาดหวังรอฟังเพลงที่ขยี้หัวใจให้ต่อมน้ำตาแตกแบบดำดิ่งเบอร์เดียวกับ ‘Hello Mama’ จากอัลบั้มที่แล้วอยู่นะ เพราะเราเป็นพวกเสพติดความรันทด แต่ก็แล้วแต่จังหวะเวลาที่ทางวงจะจัดสรรมาให้ อัลบั้มนี้ให้วงเขาปล่อยความเดือดไปก่อน เดี๋ยวเรารอเพลงขยี้ๆ จากผลงานชิ้นต่อไปก็ได้ เพราะไททศมิตรเขาขยันปล่อยผลงานสม่ำเสมออยู่แล้ว 

 

 

อัลบั้มยอดเยี่ยม 

มันไม่โอเวอร์เลยที่จะบอกว่าอัลบั้ม ‘เพื่อชีวิตกู’ เป็นหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ทั้งๆ ที่ ณ เพลานี้เรายังไม่ทันได้ข้ามพ้นไตรมาสแรกของปีเลย เป็นอัลบั้มที่ขึ้นสุดลงสุดไม่มีอู้ เต็มที่ในทุกเพลง และภาคโปรดักชันก็มาเต็มแบบเอาไปเปิดโชว์เพื่อนต่างชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิเลย ทั้งการเรียบเรียงดนตรี ไปจนถึงภาคการบันทึกเสียง มิกซ์และมาสเตอร์ จนต้องให้พื้นที่กล่าวถึงเสียหน่อย ว่าต่อไปนี้เราจะสามารถเอางานโปรดักชันเสียงของอัลบั้มนี้มาเป็นจุดอ้างอิงเส้นมาตรฐานให้กับเพลงไทยสมัยใหม่ได้เลยนะ เพราะเพลงไทยเกือบค่อนตลาด ณ ตอนนี้ เรียกว่าตกม้าตายกันที่ภาคโปรดักชันเสียงที่อ่อนแอกันหลายรายแล้ว ทั้งที่บุคลากรบ้านเราที่เก่งๆ ก็มีเยอะ อย่าขี้เหนียวเลยเหล่าศิลปินเอย โปรดอย่าปล่อยให้เพลงที่ท่านแต่งด้วยความประคบประหงมราวลูกรักมาแรมเดือน ต้องมาถูกข่มขืนก่อนปล่อยสู่สาธารณชนด้วยโปรดักชันกากๆ อีกเลย ดูพี่ๆ ไททศมิตรเขาเป็นตัวอย่างสิ ว่าเขาเต็มที่แค่ไหนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ยังไม่พอ พี่เขายังรูดรีดเอาน้ำค้างท่อออกมาจนสุดปลายก๊อกทุกหยดจริงๆ โคตรฟินเลยค่ะพี่ขา ขออีกสักน้ำได้ไหม 

 

และพ่อหมอขอทำนายล่วงหน้าหนึ่งปีเลยว่า อัลบั้มนี้จะได้เข้าชิงรางวัลในหลายๆ สถาบัน ตั้งแต่งานอะวอร์ดส์คุณภาพจริงจังขลังๆ ที่ตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไปจนถึงพวกไก่กาอะวอร์ดส์ ที่ตั้งใจเกาะบารมีของอัลบั้มนี้ให้รางวัลไก่กาของเขาดูเท่ขึ้นมาบ้างและดูมีรสนิยมขึ้นมาหน่อย ส่วนมันจะคว้าได้กี่รางวัลนั้น ขอให้ทางวงและมิตรรักแฟนเพลงรอลุ้นกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ คงพลาดมิชลินสตาร์แล้วหนึ่ง เพราะนี่ไม่ใช่ร้านอาหาร 

 

สุดท้าย อัลบั้มนี้อาจไม่เหมาะกับการฟังกล่อมเข้านอนนัก เพราะมันจะพาสมาธิเราไปจับจดอยู่กับเนื้อหาที่เข้มข้นราวกับซีรีส์ Game of Thrones จนลืมนอน เราไม่รู้จะเขียนคำทิ้งท้ายสำหรับบทความนี้ยังไงให้เข้มข้นสมน้ำสมเนื้อกับ ‘เพื่อชีวิตกู’ ดังนั้นจึงขอยกวลีเด็ดจากเพลงในอัลบั้มมาใช้หน่อยละกัน แต่ถึงกระนั้นภาษาพูดย่อมสื่ออารมณ์ได้ดีกว่าภาษาเขียน ดังนั้นจึงขอให้การบ้านคุณผู้อ่านทุกท่านให้ไปฟังวลีหนึ่งในแทร็กที่ 9 เพลง ‘ไส้แห้ง’ ข้ามไปฟังที่นาทีที่ 2.55 เลยนะ เพราะมันเป็น Words of Wisdom ของอัลบั้มนี้เลยแหละ ฟังเข้าไปให้เต็มสองรูหูเลยครับ 

 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X