วันนี้ (21 มีนาคม) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหมว่า ที่ประชุมได้เน้นย้ำหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพกวดขันกำลังพลให้ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลจนทำให้สังคมตำหนิ เพราะกำลังพลมีจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าปัจจุบันมีกระบวนการตรวจสอบเรื่องต่างๆ ของกองทัพอยู่ จึงต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง รวมถึงเรื่องการนำพลทหารไปรับใช้ที่บ้านให้ยึดกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยให้ทำเฉพาะงานในหน้าที่ นอกเหนือจากนั้นห้ามเด็ดขาด
สุทินระบุว่า ขณะนี้แต่ละเหล่าทัพกำลังเช็กยอดและตรวจสอบจำนวนพลทหารที่ถูกส่งไปดูแลตามบ้านผู้บังคับบัญชา ซึ่งย้ำไปแล้วไม่ให้ทำเด็ดขาด ยกเว้นทำตามระเบียบ ทั้งนี้ เชื่อว่าข่าวต่างๆ ที่เผยแพร่เกี่ยวกับพลทหารในช่วงนี้ โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง เลือกที่จะดิสเครดิตทหารเพื่อสร้างกระแสนิยม ตนก็บอกกับกองทัพให้รู้ตัวและระมัดระวัง
สุทินระบุว่า การนำพลทหารไปใช้งานที่บ้านในลักษณะเหมือนพ่อบ้าน-แม่บ้านถือว่าไม่เหมาะสมและบอกแล้วว่าอย่าทำ ถ้ากำชับไปแล้วไม่ดีขึ้น รอบหน้าตนก็อาจระบุในระเบียบให้ชัดเจนว่าหน้าที่ของทหารบริการมีอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ขอให้นโยบายแบบผู้ใหญ่ก่อน เชื่อว่าน่าจะได้ผล หากไม่ได้ผลก็ไปว่ากันในรายละเอียด แต่ตนได้มอบให้กรมพระธรรมนูญไปดูเรื่องนี้แล้ว ระเบียบอะไรที่เปิดช่องและไม่สอดคล้องกับยุคสมัยให้ปรับแก้ แล้วตนจะลงนามทันที
“ก็สั่งไว้ไม่ให้ทำอีก ส่วนทหารที่ซักกางเกงในให้คุณนายก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว ถ้ามีอีกต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าไปยกของบริการผู้บังคับบัญชาในระหว่างปฏิบัติภารกิจสามารถทำได้ อย่างกรณีของตนก็มีเลขาส่วนตัวที่มาช่วยงานอยู่หลายเรื่อง” สุทินกล่าว
เมื่อถามว่า จะการันตีอย่างไรเพื่อให้ชายไทยสมัครใจเป็นทหารว่าเข้ามาแล้วจะไม่ถูกนำไปใช้งานในลักษณะนี้ สุทินกล่าวว่า ตนกำลังทำคลิปอธิบายเพื่อให้ชายไทยเกิดความเชื่อมั่นและสบายใจ คาดว่าจะเปิดตัวในสัปดาห์หน้าในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนมีการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ สิ่งไหนที่ผู้ปกครองและชายไทยกังวล ตนจะพูดทั้งหมด
เตรียมดันของบเรือฟริเกตในงบปี 2568
สุทินกล่าวถึงกรณีถูกตัดงบประมาณเรือฟริเกตว่า ก็ไม่เป็นไร เพราะรัฐบาลเป็นห่วง กลัวจะบริหารจัดการไม่ทัน ก็พยายามจัดให้ตามแผน อาจชักช้า แต่ไม่ให้กระทบภารกิจของกองทัพเรือ สำหรับงบประมาณปี 2568 ตนจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 26 มีนาคมนี้ ล่าช้าเล็กน้อยเท่านั้นเอง ซึ่งตนได้คุยกับทางสำนักงบประมาณแล้วว่าสามารถปรับเปลี่ยนได้ทัน ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมถูกตัดมากที่สุด จะกระทบต่อความมั่นคงที่ดูแลอยู่หรือไม่ สุทินกล่าวว่า ก็มีกระทบบ้าง แต่เราก็ต้องปรับตัวให้อยู่ได้ และสังคมจะได้เปลี่ยนความคิดว่างบประมาณทหารก็ตัดได้ไม่มีปัญหา
บินกัมพูชา เตือนอย่าเผาก่อฝุ่น PM2.5
สุทินกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 16 ในวันพรุ่งนี้ว่า เป็นการหารือความร่วมมือในการพัฒนาชายแดนให้เกิดประโยชน์กับสองประเทศ, ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยขอความร่วมมือว่าอย่าเผา ไปกัมพูชาครั้งนี้ก็จะเตือนเขาว่าต้องปรับแก้นะ เราจะไม่อุดหนุนหรือซื้อสินค้าที่มาจากการเผา ถ้ากฎหมายเสร็จก็จะบังคับใช้ได้ทันที, การปราบปรามอาชญากรรมผิดกฎหมาย, แก๊งคอลเซ็นเตอร์, การเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณตามแนวชายแดนทั้งสองฝั่ง ตลอดจนการร่วมกันเสริมสร้างเศรษฐกิจชายแดน
ส่วนกรณีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกลับจากกัมพูชาก็มีการเผาจากฝั่งกัมพูชาไล่หลัง ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาหารือกันใช่หรือไม่ สุทินกล่าวว่า เป็นการไปกระชับความสัมพันธ์ ไม่มีในวาระเรื่องอื่น ส่วนคนที่ถามหรือตั้งข้อสังเกตว่าจะไปคุยเรื่องเกาะกูดนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่กระทรวงกลาโหม
ส่วนนโยบายในเรื่องการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลระหว่างกัมพูชาและไทยนั้น สุทินกล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติดำเนินการ ทางกระทรวงกลาโหมไม่ได้ไปคิดเรื่องพลังงาน
“พี่น้องคนไทยที่กังวล ก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะกังวล ห่วงใยประเทศ ห่วงชายแดน เป็นเรื่องที่ดีแล้ว ต้องขอบคุณ แต่อยากจะให้สบายใจ ไม่ต้องเป็นห่วงมาก อย่าวิตก เพราะเราได้คำนึงอยู่แล้ว เรื่องที่เสียเปรียบต่างชาติไม่มีทาง อย่าว่าแต่ 1 หรือ 2 ตารางเมตร แค่ตารางนิ้วเดียวก็จะไม่เสีย ผมได้คุยกับกัมพูชาแบบทางการและไม่เป็นทางการ ไม่มีหัวข้อดังกล่าวที่เขานำมาคุยเลย ไม่เคยอ้างสิทธิ และไม่เคยมาชี้ว่าตรงนั้นตรงนี้ ส่วนตรงไหนเป็นของเราก็เป็นไปอยู่แล้ว” สุทินกล่าว
