×

สุทิน ซัก ดอน กลางสภา ปมเยือนเมียนมา กระทบภาพลักษณ์ไทย รมว.ต่างประเทศ ตอบเป็นไปตามกติกา ช่วยด้านมนุษยธรรม

โดย THE STANDARD TEAM
25.11.2021
  • LOADING...
สุทิน คลังแสง

วันนี้ (25 พฤศจิกายน) สุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาเกี่ยวกับการเยือนเมียนมาของ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

 

สุทินกล่าวว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เป็นที่สนใจ และสร้างความไม่สบายใจแก่ประประชาชนเป็นวงกว้าง โดยการเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศครั้งนี้ มองว่ามีความผิดปกติและความไม่เหมาะสมอยู่อย่างน้อย 3 เรื่อง คือ 

 

  1. ภายหลังจากที่เมียนมาได้ทำรัฐประหารนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีว่าประชาคมโลกต่างตั้งข้อกดดันมากมายเพื่อให้เมียนมากลับสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว โดยเฉพาะองค์การสหประชาชาติ และกลุ่มประชาคมอาเซียน ซึ่งการประชุมอาเซียนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมียนมาไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมจึงเป็นท่าทีที่ชัดเจนของประชาคมโลกแล้ว แต่ประเทศไทยกลับมีระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางเยือนเมียนมา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่สวนทางกับประชาคมโลก 

 

  1. ในหลายประเทศต่างสงวนท่าทีในการแสดงออกร่วมกับเมียนมา แม้หลายประเทศมีการเดินทางเยือนแต่เป็นการส่งระดับทูตพิเศษ ไม่ใช่ระดับผู้แทนรัฐบาลหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 

 

  1. การเดินทางเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นการเดินทางเยือนแบบไม่เป็นทางการ ไม่มีการแถลงข่าวและไม่มีวาระแจ้งกับประชาชนว่ามีจุดประสงค์อะไรในการเดินทางเยือน และสิ่งที่เปิดเผยจากรัฐบาลเมียนมาที่สามารถเข้าใจได้คือ เมียนมานำประเทศไทยเป็นเครื่องมือในการรับรองสถานะรัฐบาลของตน 

 

นอกจากนั้นการเดินทางเยือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้นได้มีการส่งมอบวัคซีนให้กับรัฐบาลเมียนมา ทั้งที่ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่รอรับการบริจาควัคซีน ซึ่งเป็นการมอบวัคซีนให้กับรัฐบาลทหาร ดังนั้นการมอบวัคซีนดังกล่าวจะแน่ใจได้อย่างไรว่าวัคซีนจะถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง 

 

ทั้งนี้ ภายหลังการเดินทางกลับของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่นาน ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CIA ได้เข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการเข้าพบประเด็นใดด้วยเหตุผลใดก็ไม่มีใครทราบ 

 

ท้ายที่สุดในการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยที่จัดโดยสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ มี 110 ประเทศได้รับเชิญให้เข้าร่วม แต่กลับไม่มีรายชื่อของประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยระดับความเป็นประชาธิปไตยถือเป็นสินทรัพย์ของประเทศ ดังนั้นจึงไม่อาจคิดได้ว่าท่าทีของประเทศไทยที่แสดงออกสวนทางกับประชาคมโลกหรือไม่ ที่ประเทศไทยไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นที่มาในการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาครั้งนี้ว่าท่านมีเหตุผลและความจำเป็นใดในการเดินทางเยือนเมียนมา ซึ่งเป็นการเจรจาในเรื่องใด และสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศหรือไม่

 

ขณะที่ดอนได้ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของสุทิน ถึงกรณีการเดินทางเยือนเมียนมาว่า เป็นการเยือนตามกติกาสากล และตามหลักมนุษยธรรม และเดินทางเยือนในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการหารือในระดับทวิภาคี และสอดคล้องต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยิ่ง เนื่องจากเมียนมาเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ และมีชายแดนติดต่อกับประเทศไทย ขณะเดียวกันเมียนมามีคำร้องขอต่อประเทศไทยให้มีหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้กับเมียนมาในมุมของมนุษยธรรม 

 

ดอนกล่าวอีกว่า เมื่อครั้งที่ตนเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐอเมริกาที่ผ่านมานั้น มีทั้งภาครัฐบาล ภาคองค์กร มาขอร้องให้ประเทศไทยช่วยเชื่อมด้านมนุษยธรรมเมียนมา ซึ่งถือว่าอยู่ใน 1 ใน 5 ฉันทามติของอาเซียนในเรื่องของการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 

 

นอกจากนั้นประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาเองไม่ว่าจะเป็นอินเดีย จีน ก็ร่วมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับเมียนมาด้วยเช่นกัน ประเทศไทยเองก็ดำเนินการตามนั้นมาก่อนที่จะเดินทางเยือนเมียนมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เช่น การจัดส่งสิ่งของผ่านกาชาดสากลไปยังเมียนมา และผ่านเส้นทางพิเศษคือผ่านศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของอาเซียน ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่ประเทศไทยดำเนินการกับเมียนมาในขณะนี้ล้วนแล้วแต่ได้รับการต้อนรับจากผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

ดอนยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนเดินทางกลับจากการเยือนเมียนมา มีการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ขององค์กรระหว่างประเทศกว่า 17 องค์กร ซึ่งรวมถึงระดับทูตด้วย โดยในการประชุมครั้งนั้นได้มีการหาหรือร่วมกันเพียงเรื่องเดียวคือการช่วยเหลือเมียนมา

 

ทั้งนี้ สำหรับกรณีการบริจาควัคซีนให้กับเมียนมานั้น ดอนกล่าวว่า ไม่มีสิ่งของใดสักชิ้นที่เป็นของรัฐบาลที่เดินทางไปพร้อมตนเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของบริจาคจากภาคเอกชน ซึ่งการรับหรือการให้วัคซีนจะต้องผ่านมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นข้อมูลที่ออกมาจึงถือเป็นข้อมูลที่ที่ผิดพลาดหรือเป็นเฟกนิวส์ 

 

ดอนกล่าวอีกว่า การเดินทางเยือนเมียนมาของไทยที่ผ่านมาได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีข่าว ซึ่งตามข่าวปรากฏออกมานั้นน่าจะมาจากความเข้าใจผิดของฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาล ดังนั้นจึงยืนยันว่าการเดินทางเยือนเมียนมาไม่ได้เป็นการเดินทางแบบลับๆ ล่อๆ แต่ไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องโฆษณาหรือป่าวประกาศ เพราะบางเรื่องในด้านต่างประเทศนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาประกาศ หวังเพียงผลสัมฤทธิ์เท่านั้น ซึ่งเราไม่ได้ต้องการแสง ไปเพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์จริงจัง งานต่างประเทศไม่ใช่งานที่จะต้องออกมาป่าวประกาศโฆษณา เราทำงานเพื่อหวังผลและเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising