×

เลขาฯ ป.ป.ช. ชี้ คดีฟอกเงิน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กับพวกไม่อยู่ในอำนาจ เร่งพิจารณาคืนสำนวนให้ บช.น.

โดย THE STANDARD TEAM
05.06.2024
  • LOADING...

วันนี้ (5 มิถุนายน) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้มีหนังสือที่ ตช 0015(น.2)/6763 ลงนามโดย พล.ต.ต. วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ถึงเลขาธิการ ป.ป.ช. 

 

เรื่อง ขอรับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 391/2566 ของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) เตาปูน กรณีที่มีผู้มากล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ, เบญจมิน, อัญชลี กับพวก รวม 22 คน ฐานมีพฤติการณ์ข้องเกี่ยวกับการฟอกเงินจากเว็บพนันออนไลน์

 

นิวัติไชยกล่าวว่า กรณีที่ บช.น. ขอรับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 391/2566 ของ สน.เตาปูน ทั้งนี้ บทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การพนัน และการสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นข้อหาที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

 

อีกทั้งการกระทำความผิดฐานฟอกเงินนั้นเป็นการกระทำความผิดอาญาอีกกรรมหนึ่ง จึงมิใช่ความผิดที่เกี่ยวข้องกันที่สามารถจะดำเนินการไปในคราวเดียวกันกับการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ได้

 

นิวัติไชยกล่าวต่อว่า ดังนั้นความผิดฐานฟอกเงินดังกล่าวจึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 83/2565 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 

 

การที่ บช.น. ยื่นหนังสือเข้ามานั้น ตีความได้ว่าต้องการทำสำนวนเอง เพราะเกรงว่าสำนวนจะได้รับความเสียหาย และคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ยังพบเส้นทางการเงินจากบัญชีม้าไปยังตำรวจตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตรไปจนถึงประทวน ทำให้ต้องเร่งขอสำนวนกลับมาดำเนินการต่อไป

 

แต่เมื่อ บช.น. ไม่ส่งคนมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือถึงเรื่องดังกล่าว ป.ป.ช. จะต้องส่งหนังสือให้คณะกรรมการเร่งพิจารณาว่าจะส่งสำนวนคืนหรือไม่ แต่คาดว่าจะให้คณะกรรมการเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดี

 

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่ ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินในส่วนบ้านที่ประเทศอังกฤษ นิวัติไชยกล่าวว่า จากกรณีที่มีภาพถ่ายปรากฏในสื่อมวลชน ที่ลงข่าวว่าเป็นภาพถ่ายที่มาจากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในความครอบครองของ ป.ป.ช. นั้น พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเข้ามา 2 กรณี โดยกรณีแรกคือ ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่า เป็นการยื่นครั้งแรกเมื่อมีตำแหน่งหน้าที่ 

 

โดยตามกฎหมายแล้วจะต้องยื่นทุก 3 ปีที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะครบกำหนด 3 ปีในขณะที่ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ดำรงตำแหน่งเป็นรอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้มายื่นอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 และจะต้องยื่นต่อไปทุก 3 ปี

 

แต่ทั้งนี้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ เข้ารับตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 จึงไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีใหม่ในฐานะ ผบ.ตร. เว้นเสียแต่จะพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. เพื่อแสดงบัญชีใหม่ให้ประชาชนได้รับทราบ

 

นิวัติไชยกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของ ป.ป.ช. พบว่าในบัญชีทรัพย์สินขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีเรื่องการกู้ยืมเงิน 20 ล้านบาท ซึ่ง ป.ป.ช. ได้เชิญมาชี้แจง โดยเจ้าตัวระบุว่า เป็นการกู้ยืมเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว พร้อมแนบภาพบ้านที่ประเทศอังกฤษ แต่ในภาพเป็นการถ่ายบ้านเพียงอย่างเดียว จึงขอชี้แจงว่า กรณีที่มีการเปิดเผยภาพบ้านดังกล่าวตามที่สื่อโซเชียลได้เผยแพร่ออกไป และมีภาพ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ และภรรยา ไม่ใช่ภาพหลักฐานที่มาจากการตรวจสอบ หรือที่เจ้าตัวขอยื่นกับ ป.ป.ช. 

 

ส่วนกรณีการกู้ยืมเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาทในบัญชีของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ เบื้องต้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้ส่งทนายความมาขอยื่นเรื่องขยายเวลาการตรวจสอบบัญชีดังกล่าวไปอีก 30 วันแล้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising