×

‘ศุภกฤษฎ์’ มองดีล GULF จับมือ Binance สะท้อนโอกาสเติบโตตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เชื่อผู้บริโภคได้ประโยชน์ แต่ยังห่วงการผูกขาดและแชร์ข้อมูลให้ภาครัฐ

18.01.2022
  • LOADING...
ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์

ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ Morining Wealth ของ THE STANDARD WEALTH ในช่วงเช้า (18 มกราคม) ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) จะร่วมมือกับกลุ่ม Binance เพื่อศึกษาและจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทยว่า ขณะนี้คนในแวดวงคริปโตยังมองดีลนี้ออกเป็น 2 มุม คือมุมหนึ่งจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากการแข่งขันที่มากขึ้น กับอีกมุมที่เริ่มกังวลถึงปัญหาการผูกขาดและการเปิดเผยข้อมูลของแพลตฟอร์มให้กับภาครัฐ

 

“เสียงสะท้อนในวงการตอนนี้บางส่วนก็มองว่าโอเค เพราะการแข่งขันของผู้ให้บริการจะสูงขึ้นทำให้ภาพรวมผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ แต่บางส่วนก็กังวลเรื่องภาษี เริ่มมีการพูดว่าจะย้ายไปเทรดในแพลตฟอร์มอื่นกันบ้าง เพราะไม่แน่ใจว่าถ้า Binance มาเปิดที่ไทยข้อมูลเดิมจะถูกเปิดเผยหรือส่งให้ภาครัฐหรือเปล่า” ศุภกฤษฎ์กล่าว

 

ศุภกฤษฎ์กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวมองว่าการที่ GULF กระโดดเข้ามาในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลคงไม่มองเฉพาะธุรกิจในส่วนที่เป็น Exchange โดยมีความเป็นไปได้ที่อาจจะพิจารณาทำธุรกิจสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น ICO Portal ซึ่งไทยเปิดให้ขอใบอนุญาตได้ ขณะเดียวกันการที่ GULF เป็นบริษัทด้านพลังงานอยู่แล้วก็มีโอกาสที่จะทำธุรกิจ Mining จากพลังงานสะอาดได้ด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทั้ง GULF และ Binance จะไม่มองเพียงแค่ตลาดไทยเท่านั้น แต่จะมองโอกาสทั้งภูมิภาคอาเซียน

 

“ในอดีต Binance จะแทรกซึมอยู่ในทุกประเทศในโลก แต่เมื่อประเทศต่างๆ เริ่มออกกฎหมายมาดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เขาก็เริ่มถูกไล่บี้เพราะไม่มีไลเซนส์ เช่น สหรัฐฯ ที่ไล่บี้เรื่องฟอกเงิน ส่วนสิงคโปร์ก็เพิ่งจะเพิกถอนใบอนุญาต การมาจับมือกับ GULF จึงทำให้เขาได้ประโยชน์ ส่วน GULF เองไม่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ การได้ Binance มาก็ช่วยให้เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น” ศุภกฤษฎ์กล่าว

 

นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยยังวิเคราะห์ด้วยว่า การพยายามเข้าสู่ตลาดไทยของแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลยักษ์ใหญ่อย่าง Binance สะท้อนว่าในระยะยาวการเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยยังคงมีความน่าสนใจและมีศักยภาพ สำหรับวอลุ่มการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ลดลงในไทยขณะนี้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจากการรอความชัดเจนเรื่องภาษี ถ้าเรื่องภาษีมีความชัดเจนวอลุ่มก็จะกลับมาฟื้นตัว

 

“อย่างไรก็ดี อยากให้เข้าใจด้วยว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปีนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะนักลงทุนที่เป็นกลุ่ม Traditional เริ่มหันมาลงทุนในคริปโตเยอะขึ้น สังเกตได้จากเวลาที่ Fed ประกาศอะไรออกมาจะส่งผลต่อตลาดคริปโตด้วย ซึ่งเมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ ขณะเดียวกันในปีนี้จะมีเทรนด์หลายอย่างที่เปลี่ยนไป เช่น Bitcoin Lightning Network และ NFT ที่จะมาแรง” ศุภกฤษฎ์กล่าว

 

สำหรับความคืบหน้าเรื่องภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล ศุภกฤษฎ์กล่าวว่า ในวันที่ 20 มกราคมนี้ ทุกฝ่ายจะเข้ามาร่วมประชุมหารืออีกครั้ง โดยจากการพูดคุยกับสมาคมผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลในเบื้องต้นพบว่า มุมมองและแนวคิดต่างๆ ของทั้งสองสมาคมไม่ได้ขัดกัน และทั้งสองสมาคมมีความตั้งใจสนับสนุนให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยเติบโตได้

 

“ทั้งสองสมาคมอาจจะคุยกันแล้วค่อยยื่นข้อเสนอให้ผู้กำกับดูแลเลยทีเดียว ส่วนขั้นตอนหลังการยื่นข้อเสนอให้กับกรมสรรพากรแล้วจะเป็นอย่างไร เราเชื่อว่าในส่วนที่กรมสรรพากรมีอำนาจปรับปรุงได้เองภายในองค์กรคงทำได้เลย แต่ถ้าถึงขั้นต้องแก้กฎหมายจะกลายเป็นเรื่องยาวเพราะต้องเข้าสภา เราจึงพยายามทำข้อเสนอให้อยู่ในรูปแบบที่เรียบง่าย เช่น รูปแบบ Transaction Tax แต่ข้อสรุปจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องรอความเห็นของภาคส่วนอื่นๆ ด้วย” ศุภกฤษฎ์กล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising